การเมืองกำลังเดินไปสู่ทางตัน…เกมโหวตนายกฯ อาจยาวกว่าที่คิด

17 ส.ค. 2566 - 07:03

  • การเมืองชั่วโมงนี้ มีอะไรแปลกๆ เหมือนจะมีการดึงเกมยาว

  • ‘พรรคเพื่อไทย’ จะยังคงอยู่ในสมการจัดตั้งรัฐบาล…หรือไม่?

contributor-bamboo-leaves-politic-game-walking-to-dead-end-SPACEBAR-Hero
การเมืองกำลังเดินไปสู่ทางตัน…เกมโหวตนายกฯ อาจยาวกว่าที่คิด 

คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่ออกมาล่าสุด (16 สิงหาคม) แม้จะสร้างความชัดเจน ให้ประธานรัฐสภาสามารถกำหนดวันโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีได้อีกครั้ง เมื่อนายวัน มูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา ระบุว่า น่าจะมีการเปิดประชุมรัฐสภา เพื่อโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีได้อีกครั้งในวันอังคารที่ 22 สิงหาคม 2566 

ซึ่งนั่นน่าจะทำให้เกมการเมืองเดินหน้าเข้าสู่การจัดตั้งรัฐบาลได้เร็วขึ้น 

แต่ความเคลื่อนไหวคู่ขนานที่ออกมาในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา กลับส่อเค้าความยุ่งยากเกิดขึ้นอีกครั้ง ทั้งท่าทีของ สว.บางกลุ่ม และการแถลงข่าวของนายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ ที่ออกมาทิ้งระเบิดใส่นายเศรษฐาระลอกใหญ่ 

“การเมืองมันไม่นิ่ง มันมีอะไรแปลกๆ เหมือนจะมีการดึงเกมยาว” 

“สว.ไม่โหวตให้นายเศรษฐาแน่ แต่ สว.ก็ตอบไม่ได้ว่า จะโหวตให้ใคร” 

“ครอบครัวชินวัตรคงไม่ยอมเสี่ยงส่งอุ๊งอิ๊งลงมา อนุทินก็ไม่น่าจะลงมาลุยไฟตอนนี้ แต่ถ้าลากไปถึงต้องโหวตให้ลุงป้อม มวลชนจะยอมหรือ” 

ทั้งหมดเป็นกระแสจากหลายฝ่าย ที่ส่วนใหญ่คิดตรงกันในประเด็นนี้ เพราะปมการซื้อ/ขายที่ดินของบริษัทแสนสิริ ที่มีนายเศรษฐา ทวีสินเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ แม้บริษัทจะออกมาแถลง ยืนยันโปร่งใส ให้ตรวจสอบได้ แต่บางข้อสังเกต ก็ยังไม่มีคำตอบ 

กระแส สว.จะไม่โหวตให้นายเศรษฐา ดูเหมือนจะมากขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งทิ้งระยะวันโหวตออกไป ยิ่งทำให้พรรคเพื่อไทยอยู่ในสถานการณ์เสียเปรียบ 

แม้เพื่อไทยจะเร่งเกม ด้วยการขอให้ประธานรัฐสภานัดโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีเร็วขึ้นจากวันที่ 22 สิงหาคมเป็น 18 สิงหาคม 

แต่บรรดา สว.ส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วย โดยอ้างว่าได้ตกลงกันระหว่างการเข้าร่วมประชุมรัฐสภาอาเซียนที่ประเทศอินโดนีเซียมาแล้ว 

ยังไงก็คงต้องโหวตวันที่ 22 สิงหาคม ตามที่อาจารย์วันนอร์บอก 

กระนั้น...วันโหวตกลับไม่ใช่ประเด็นสำคัญ แต่คะแนนที่ต้องการ 375 เสียงเป็นประเด็นที่สำคัญกว่า 

เมื่อเพื่อไทยเลือกสลัดก้าวไกลออกไปจากสมการจัดตั้งรัฐบาล 141 เสียงของเพื่อไทยจึงหมิ่นเหม่เป็นอย่างยิ่ง 

หมิ่นเหม่ถึงขั้นที่ ไพศาล พืชมงคล หยิบยกประเด็นนี้มาเขียนถึงได้อย่างลึกซึ้งว่า นี่คือ 1 ในตำราพิชัยสงครามที่เรียกว่า “กลสลับแขกเป็นเจ้าบ้าน” 

หมิ่นเหม่เพราะ 141 เสียง หากต้องการ 375 นั่นหมายถึง เพื่อไทยต้องอาศัยผู้ที่จะเข้ามาร่วมเป็นแขกในการโหวตนายกรัฐมนตรีอีกถึง 234 เสียง 

แม้จะได้ 71 เสียงจากภูมิใจไทย มาเป็นสารตั้งต้นรวมเป็น 212 เสียง และมีเสียงจากพรรคอื่นๆ ที่ยังไม่รวมพรรค 2 ลุง อีก 26 เสียง รวมเป็น 238 เสียง 

หมิ่นเหม่กระทั่งเพื่อไทยจำต้องดึงพรรคลุงใดลุงหนึ่งเป็นอย่างน้อย เพื่อให้ได้เสียงเกิน 250 

แต่กระนั้นก็ยังหมิ่นเหม่ จนถึงขั้นที่ต้องอาศัยเสียง สว.อีกจำนวนมาก เพื่อให้ได้เสียง 375 เป็นอย่างน้อย 

เป็นความหมิ่นเหม่ที่แตกต่าง จากช่วงก่อนวันหยุดยาวช่วงที่ผ่านมา 

เพราะเวลานั้น เพื่อไทยแสดงความมั่นใจมากถึงคะแนนเสียงในมือ ว่าจะสามารถโหวตผ่านฉลุยรอบเดียวจบ 

มั่นใจถึงขั้นตั้งเงื่อนไขขอให้ทุกพรรคโหวตนายกฯ ให้ก่อน และค่อยมาตกลงเรื่องเก้าอี้รัฐมนตรีว่า พรรคไหนจะได้กระทรวงใด 

มั่นใจถึงขั้นห้ามรัฐมนตรีที่เคยดำรงตำแหน่งเจ้ากระทรวงไหนมาแล้ว นั่งบริหารกระทรวงเดิม 

แต่ทันทีที่หลายพรรคตั้งตัวติด ทันทีที่พรรค 2 ลุงยังไม่ประกาศชัดว่า จะเข้าร่วมโหวตนายกรัฐมนตรีหรือไม่ 

แต่ละพรรคก็เริ่มโยนเงื่อนไขกลับ 

รัฐมนตรี ‘แด๊ก’ ธนกร วังบุญคงชนะ จากรวมไทยสร้างชาติ บอกว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะโหวตเลือกนายกฯ ก่อน พร้อมๆ กับท่าทีอารมณ์ดีของ "เสี่ยหนู" อนุทิน ชาญวีรกูล ผสมกับระเบิดนาปาล์มที่ชูวิทย์โยนเข้าใส่นายเศรษฐา เมื่อวันอังคารที่ 15 สิงหาคม 

จากท่าทีที่มั่นใจของ ‘เพื่อไทย’ จึงพลิกมาสู่ความหมิ่นเหม่ในที่สุด 

หมิ่นเหม่ต่อการโหวตเลือกนายเศรษฐา ไม่ว่าจะโหวตวันที่ 18 วันที่ 21 หรือโหวตวันที่ 22 

และท้ายที่สุด อาจหมิ่นเหม่ไปถึงขั้นต้องโหวตกันจนถึงชื่อ นายอนุทิน หรือกระทั่งไปถึงพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ หนึ่งในลุงคนสำคัญที่เป็นคู่ขัดแย้งกับมวลชนคนเสื้อแดง ที่เป็นกองเชียร์หลักของเพื่อไทย 

ถ้าโหวตชื่อนายเศรษฐาไม่ผ่าน 

ถ้าไม้ถูกส่งต่อมาที่พรรคภูมิใจไทย และภูมิใจไทยบอกไม่พร้อมเสนอชื่ออนุทิน แต่จะเสนอชื่อพลเอกประวิตรแทน 

พรรคเพื่อไทยจะยังคงอยู่ในสมการจัดตั้งรัฐบาล ที่ต้องโหวตให้ลุงป้อมหรือไม่??? 

ถ้าอยู่เพราะเหตุผลต้องก้าวข้ามความขัดแย้ง เพื่อจัดตั้งรัฐบาลในสถานการณ์พิเศษให้ได้ 

ถ้าต้องโหวตเลือกลุงป้อมเป็นนายกรัฐมนตรี ในสถานการณ์ที่ต้องลดความขัดแย้ง…มวลชนฝั่งเพื่อไทย รับได้จริงหรือ??? 

วันนี้ ความจำเป็นที่ต้องจัดตั้งรัฐบาลให้ได้ เพื่อไทยจำต้องดึงพรรคลุงพรรคใดพรรคหนึ่ง หรือทั้งสองพรรคมาร่วมโหวตเลือกแคนดิเดตจากเพื่อไทยเป็นนายกรัฐมนตรี 

มวลชนยังแตกเป็น 2 ฝั่ง 

ฝั่งนึงรับได้ 

ฝั่งนึงรับไม่ได้ จนปะทะคารมกันร้อนฉ่าในโซเชียลมีเดียของพรรค 

บางส่วนมาระบายอารมณ์หน้าพรรค 

แล้วถ้า…พรรคเพื่อไทยจัดตั้งรัฐบาลไม่สำเร็จ แล้วต้องพลิกไปโหวตให้ลุงขึ้นเป็นนายกฯ 

มวลชนคนเสื้อแดง จะยอมได้จริงๆ หรือ 

นี่น่าจะเป็นเหตุผลที่นักการเมืองบางคนบอกผมว่า 

“การเมืองมันไม่นิ่ง มันมีอะไรแปลกๆ เหมือนจะมีการดึงเกมยาว” 

และถ้าเกมยาว เกมนี้ มันเป็นเกมบนถนน 

เฮ้อ...รอดูด้วยใจระทึก แบบไม่ใช่ระทึกในฤทัยพลันกันครับ! 

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์