โผทหาร 66 จัดระบบอำนาจใหม่ ‘บิ๊กตู่’ ปูทางลงหลังเสือแบบนิ่มนวล

25 ส.ค. 2566 - 08:26

  • จับตาโควตาพิเศษ ครม.เศรษฐา 1

  • ดัน 'บิ๊กเล็ก' นั่งกลาโหม ปิดทางการเมืองแทรกแซงกองทัพ

contributor-bamboo-leaves-watch-soldiers-list-2566-prayuth-slide-as-silk-SPACEBAR-Hero
ลงตัวเรียบร้อยไปแล้ว สำหรับการทำบัญชีแต่งตั้งโยกย้ายนายทหารระดับ 'นายพล' ประจำปีนี้ ซึ่งเป็นปีสำคัญที่สุด 
 
เพราะนอกจาก ผบ.เหล่าทัพเกษียณทุกเหล่า ยกเว้นปลัดกลาโหมแล้ว ยังเป็นช่วงรอยต่ออำนาจที่สำคัญ เพราะเป็นช่วงเปลี่ยนผ่านรัฐบาล จากรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ก่อรูปมาจากการรัฐประหารเมื่อปี 2557 ก่อนจะพัฒนามาเป็นรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งในปี 2562 ไปสู่รัฐบาลของพรรคเพื่อไทย 
 
9 ปีบนเก้าอี้นายกรัฐมนตรีของพลเอกประยุทธ์ เมื่อต้องลงจากหลังเสือ แน่นอนว่า ต้องลงอย่างปลอดภัย ลงแบบไม่ต้องระวังหลัง 
 
การจัดสรรอำนาจ ทั้งการจัดตั้งรัฐบาลข้ามขั้ว และการจัดวางผู้บัญชาการเหล่าทัพแต่ละเหล่า จึงต้องเป็นไปอย่างละเอียด รอบคอบ และสแกนทุกตำแหน่ง 
 
เริ่มจากการจัดวาง ผู้บัญชาการเหล่าทัพ รอบนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่แตะโผตำแหน่งผู้บัญชาการทหารสูงสุด เพราะรู้ดีว่า ‘เสธอ้อป’ พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ตท.24 ถูกวางตัวไว้ตั้งแต่ถูกขยับจากกองทัพบกมาเติบโตที่กองบัญชาการทหารสูงสุด ตั้งแต่ปี 2565 
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/4w2WHaaTtNUpYXpfLWCnJu/a1f30625b579cefa91979360968e7498/contributor-bamboo-leaves-watch-soldiers-list-2566-prayuth-slide-as-silk-SPACEBAR-Photo02
Photo: พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี
ซึ่งก็จบลงแบบไม่มีพลิก เพราะโผล่าสุด เสธอ้อป-พล.อ.ทรงวิทย์ ทายาทของ 'บิ๊กตุ๋ย' พล.อ.อิสระพงศ์ หนุนภักดี จะก้าวขึ้นเป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุด ต่อจากพล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ 
 
ตำแหน่งนี้แม้ไม่มีความหมายในเชิงกำลัง แต่มีความหมายยิ่งในเชิงยุทธศาสตร์การบริหารสมดุลอำนาจ ในภาวะการณ์ประเทศไทย กำลังยืนอยู่ท่ามกลางความขัดแย้งระหว่างมหาอำนาจของโลก ‘เสธอ้อป’ ซึ่งจบการศึกษาจากโรงเรียนนายร้อยเวอร์จิเนียร์ที่อเมริกา และผ่านการอบรมหลายหลักสูตรของกองทัพบกสหรัฐ น่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดในยามนี้ 
 
ส่วนตำแหน่งอื่นในกองบัญชาการทหารสูงสุด พล.อ.เฉลิมพล มอบให้ พล.อ.ทรงวิทย์ เข้ามามีส่วนร่วมในการทำบัญชี เพื่อให้เสธอ้อปมีมือมีไม้ไว้ใช้งาน แทนที่จะต้องเสียเวลาไปอีก 1 ปี หากไม่มีส่วนร่วมในการจัดวางคนทำงาน เหมือนที่ พล.อ.เฉลิมพล เคยโดนมาแล้วในปีแรกของการเป็นผบ.ทหารสูงสุด 
 
กองทัพบก พล.อ.เจริญชัย หินเธาว์ ตท.23 หนึ่งในทหารเสือราชินี ผู้ที่เป็นหนึ่งในน้องรักของพล.อ.ประยุทธ์ ก็ขยับก้าวขึ้นสู่เบอร์หนึ่งของกองทัพบก เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับพี่ตู่ในการก้าวลงจากหลังเสืออย่างนิ่มนวล
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/1pr5hITpW5L67Eg2K48PpB/307ede9e19a89b9b459f1e99027e957c/contributor-bamboo-leaves-watch-soldiers-list-2566-prayuth-slide-as-silk-SPACEBAR-Photo01
Photo: พล.อ.เจริญชัย หินเธาว์
ส่วน พล.อ.สุขสรรค์ หนองบัวล่าง เพื่อนร่วมรุ่น ตท.23 ของพล.อ.เจริญชัย ขยับขึ้นจากผู้ช่วยผบ.ทบ. เป็นรองผบ.ทบ. 
 
พล.ท.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ตท.26 แม่ทัพภาคที่ 1 ขยับขึ้นเป็น พล.อ.ในตำแหน่งผู้ช่วยผบ.ทบ. เข้าไลน์ 5 เสือ เพื่อรอลุ้นตำแหน่งผบ.ทบ.ในปีถัดไป 
- พล.ท.สวราชย์ แสวงผล ตท.23 แม่ทัพภาคที่ 2 เป็น ผู้ช่วย ผบ.ทบ. 
- พล.ท.นิรันดร ศรีคชา ตท.23 รองเสนาธิการทหารบก ขยับขึ้นเป็นเสนาธิการทหารบก 
- ส่วนพล.อ.อุกฤษฎ์ บุญญตานนท์ ตท.24 เสนาธิการทหารบก อาจขยับไปเป็นรองผู้บัญชาการทหารสูงสุด 
 
นอกจากนั้นในระดับ แม่ทัพภาค จะมีการขยับเช่นกัน 
- พล.ท.ชิษณุพงศ์ รอดศิริ ตท.26 แม่ทัพน้อยที่ 1 จะขยับขึ้นเป็นแม่ทัพภาคที่ 1 
- พล.ต.บุญสิน พาดกลาง ตท. 26 รองแม่ทัพภาคที่ 2 เป็นแม่ทัพภาคที่ 2 
- พล.ต.กิตติพงศ์  ชื่นใจชน ตท.25 รองแม่ทัพภาคที่ 3 เป็นแม่ทัพภาคที่ 3 เพราะปีนี้เป็นคิวของทหารราบ หลังจากปีที่ผ่านมาเป็นโควตาของทหารม้าในการดำรงตำแหน่งแม่ทัพ 
- ส่วนกองทัพภาคที่ 4 หากมีการขยับ พล.ท.ศานติ สกุนตนาค ตท.25 ขึ้นเป็น พล.อ.ในการโยกย้ายครั้งนี้ ผู้ที่จะได้ขยับเป็นแม่ทัพภาคที่ 4 แทน น่าจะเป็น พล.ต.ไพศาล หนูสังข์ ตท.25 รองแม่ทัพภาคที่ 4 
 
นอกจากนั้นระดับ กองพลสำคัญ โดยเฉพาะกองพลขึ้นตรงกองทัพภาคที่ 1 ขุมกำลังสำคัญรอบกรุงเทพ อาจจะมีการเขย่าใหม่อีกรอบ เพื่อให้มั่นใจที่สุดต่อการเปลี่ยนผ่านอำนาจในครั้งนี้ 
 
ทั้งกองพลที่ 1 รักษาพระองค์ กองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ กองพลทหารราบที่ 9 และกองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ ส่วนกองพลทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ พล.ต.เอกอนันต์  เหมบุตร ตท.30 น่าจะยังคงอยู่ในตำแหน่งเดิม เนื่องจากเป็นกองพลสำคัญที่อยู่ในระหว่างการจัดตั้งหน่วยที่ยังไม่เสร็จสมบูรณ์ 
 
คาดว่า การจัดวางขุมกำลังระดับกองพลสำคัญรอบกรุงเทพรอบนี้ จะเป็นการผลัดอำนาจ จากตท.28 มาสู่ ตท.30, 31, 32 เต็มตัว 
 
ส่วน กองทัพเรือ หลังเบียดกันหนัก ถึงขั้นโชว์โปรไฟล์ และโชว์ความอาวุโสผ่านสื่ออย่างหนักในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ในที่สุด พล.อ.ประยุทธ์ ก็ต้องเลือก ‘พล.ร.อ.อดุง พันธุ์เอี่ยม’ ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ ขึ้นเป็นผู้บัญชาการทหารเรือคนใหม่ 
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/38C5APKRuWme407vWRcfI6/4f3e1170f6078d8eb829743bc9297fa9/contributor-bamboo-leaves-watch-soldiers-list-2566-prayuth-slide-as-silk-SPACEBAR-Photo04
Photo: พล.ร.อ.อดุง พันธุ์เอี่ยม
การฝ่าด่านหินของ ‘บิ๊กดุง’ ครั้งนี้นอกจากฝ่าอาถรรพ์ ที่ ผบ.กองเรือยุทธการไม่เคยขยับขึ้นเป็นผบ.ทร.แล้ว ยังเป็นการคืนความชอบธรรมให้กับพล.ร.อ.อดุง อีกด้วย เพราะในกองทัพเรือทราบดีว่า พล.ร.อ.อดุง ถูกดองให้ครองยศ พล.ร.ต.ถึง 5 ปี ขณะที่มีการแต่งตัวให้รุ่นน้อง ขยับขึ้นครองยศ พล.ร.ท.และพล.ร.อ.แซงหน้าขึ้นไปในช่วงระยะเวลาแค่ 3 ปี เพื่อครองความอาวุโส 
 
ทั้งที่เส้นทางการรับราชการในกองทัพเรือของบิ๊กดุงนั้น ผ่านทั้งการเป็นผู้การเรือหลวงปิ่นเกล้า เรือครูของกองทัพเรือ ผ่านงานสำคัญเกือบทุกส่วนงานของกองทัพ จนถึงตำแหน่งพล.ร.ท. บิ๊กดุงยังครองยศพล.ร.ท.ในตำแหน่งสำคัญ คือ เจ้ากรมสื่อสารและเทคโนโลยีทหารเรือ ก่อนจะเป็นพล.ร.อ.ในตำแหน่ง ผบ.กองเรือยุทธการ 
 
วันนี้เมื่อคลื่นลมสงบ ฉลามดุง จึงได้รับความชอบธรรมคืนมาในตำแหน่ง ผบ.ทร. แม้จะเหลืออายุราชการเพียงปีเดียวก็ตาม 
 
ส่วนตำแหน่งรองผู้บัญการทหารเรือ ตกเป็นของพล.ร.อ.สุวิน แจ้งยอดสุข ตท.25  ขณะที่บิ๊กโอ๋ พล.ร.อ.ชลทิศ นาวานุเคราะห์ ตท.23 ขึ้นจากตำแหน่งเสนาธิการทหารเรือ เป็นผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารเรือ 
 
นอกจากนั้น เป็นการขยับรุ่นน้อง ตท.24 เข้ามาในตำแหน่งหลัก เพื่อเตรียมรับไม้ต่อจากรุ่น 23 โดยมี พล.ร.อ.สุพพัต ยุทธวงศ์ ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษกองทัพเรือ เป็นประธานคณะที่ปรึกษากองทัพเรือ 
 
พล.ร.ท.ชาติชาย  ทองสะอาด ตท.24 รองเสนาธิการทหารเรือ ขึ้นเป็นพล.ร.อ.ในตำแหน่งเสนาธิการทหารเรือ พล.ร.อ.วรวุธ  พฤกษารุ่งเรือง ตท.24 จากหัวหน้าคณะนายทหารฝ่ายเสนาธิการประจำผู้บังคับบัญชา ขยับออกมาดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ 
 พล.ร.ต.สมรภูมิ จันโท ตท.24 รองผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน ขึ้นเป็น พล.ร.ท.ในตำแหน่งผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน 
 
ซึ่งนั้นหมายถึงปีหน้า ทั้ง ‘พล.ร.อ.สุวิน’ และ ‘พล.ร.อ.ชลทิศ’ นอกจากต้องช่วงชิงกันเองแล้ว ยังมี ตท.24 ขึ้นมารายล้อมรอบตัวด้วยเช่นกัน 
 
ส่วน ‘ทุ่งดอนเมือง’ หรือ กองทัพอากาศ รอบนี้ก็เบียดกันหนักเช่นกันระหว่าง พล.อ.อ.ชานนท์  มุ่งธัญญา ตท.23 รองผู้บัญชากาiทหารอากาศ พล.อ.อ.ณรงค์  อินทชาติ ตท.23 เสนาธิการทหารอากาศ และพล.อ.อ.พันธุ์ภักดี  พัฒนกุล ตท.24 ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารอากาศ 
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/1Kg27of7UsVJalSOefJoHv/63d599758a206e73703b8ad7dfbf5ed3/contributor-bamboo-leaves-watch-soldiers-list-2566-prayuth-slide-as-silk-SPACEBAR-Photo05
Photo: พล.อ.อ.พันธุ์ภักดี พัฒนกุล
ที่ท้ายที่สุด พล.อ.อ.ชานนท์ ก็ฝ่าอาถรรพ์ เป็นผู้การกองบิน 4 คนแรกที่จะได้ขึ้นเป็น ผบ.ทอ.ไม่สำเร็จ แม้ว่าครั้งนี้จะใกล้เคียงที่สุด เพราะได้รับการสนับสนุนจากพล.อ.ประยุทธ์ ที่ต้องการใช้หลักอาวุโสผลักดันให้พล.อ.อ.ชานนท์ ขึ้นเป็นผู้บัญชาการทหารอากาศให้ได้ 
 
แต่เมื่อพล.อ.อ.อลงกรณ์ วัณณรถ ผบ.ทอ.ยืนยันที่จะเสนอชื่อ พล.อ.อ.พันธุ์ภักดี พัฒนกุล ตท.24 โดยมีเหตุผลทั้งอายุราชการที่เหลืออีก 2 ปี และผ่านงานในกองทัพอากาศ ทั้งการเป็นนักบิน F16 และเป็นนายทหารสายยุทธการที่มีความสามารถครบเครื่อง ทำให้พล.อ.ประยุทธ์จำต้องยอมให้กองทัพอากาศ แบบที่ยอมให้กับกองทัพเรือ ด้วยการให้ พล.อ.อ.อลงกรณ์ เสนอชื่อ พล.อ.อ.พันธุ์ภักดี ขึ้นเป็นผู้บัญชาการทหารอากาศคนใหม่ 
 
ส่วนพล.อ.อ.ชานนท์ และพล.อ.อ.ณรงค์ เมื่อเป็นรุ่นพี่ก็อาจต้องขยับออกนอกกองทัพ เพื่อไม่ให้น้องลำบากใจ และเปิดทางให้การจัดแถวกองทัพอากาศใหม่ เพราะพล.อ.อ.พันธุ์ภักดี ยังต้องอยู่ถึง 2 ปี 
 
ซึ่งทั้งหมดก็เป็นการทำบัญชีโยกย้ายนายทหารครั้งสุดท้าย และเป็นครั้งสำคัญของพล.อ.ประยุทธ์ เพื่อวางฐานอำนาจให้มั่นใจต่อการก้าวลงจากตำแหน่ง และมั่นใจว่ากองทัพจะยังเป็นเสาหลักค้ำสถาบันสำคัญของชาติ 
 
ไม่เพียงเท่านั้น พล.อ.ประยุทธ์ ยังต้องการความมั่นใจว่า การเปลี่ยนแปลงทางการเมือง ที่เปลี่ยนผ่านไปยังพรรคเพื่อไทยใน ‘ครม.เศรษฐา 1’ จะไม่กระทบต่อการแต่งตั้งโยกย้ายภายในกองทัพ อย่างน้อยก็ชั่วระยะหนึ่ง 
 
ดังนั้น พล.อ.ประยุทธ์ จึงเสนอให้บิ๊กเล็ก พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ ตท.20 อดีตเลขาสภาความมั่นคงแห่งชาติ เพื่อนร่วมรุ่นของพล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ เข้ามารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมในรัฐบาลชุดนี้ 
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/7JdQ8FxHerfXhERs5IEUTw/da18248e533b5fd495e258efe82a8454/contributor-bamboo-leaves-watch-soldiers-list-2566-prayuth-slide-as-silk-SPACEBAR-Photo06
Photo: พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ ตท.20
ล่าสุดรายชื่อและประวัติของ ‘พล.อ.ณัฐพล’ ถูกส่งเข้าไปยังพรรคเพื่อไทยแล้ว ขึ้นอยู่กับว่า การเจรจาต่อรองเก้าอี้ระหว่างพรรคเพื่อไทยและพรรคพลังประชารัฐจะจบลงอย่างไร เพราะร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ยังยืนกรานที่จะขอกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อแลกกับกระทรวงกลาโหม ที่อยู่ในดีลแรกที่มีการตกลงกันก่อนวันโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี 
 
โดยยืนยันว่า หากพลังประชารัฐไม่ได้กระทรวงเกษตรฯ รายชื่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ก็จะต้องเป็น ‘บิ๊กน้อย พลเอกวิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา’ 
 
ก็ต้องดูว่า สมการอำนาจที่พรรคพลังประชารัฐ ถูกทลายลงจากการโหวตนายกรัฐมนตรี จะยังคงมีอำนาจต่อรองหลงเหลืออยู่แค่ไหน 
 
และเชื่อว่า ยากที่ทีม 3 ประสานซึ่งอยู่เบื้องหลังการจัดตั้งรัฐบาล จะยอมให้พรรคพลังประชารัฐเข้าไปเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เพราะเป็น 1 ใน 3 จิ๊กซอว์อำนาจ ที่จะปล่อยให้ตกไปอยู่ในมือลุงป้อมไม่ได้ 
 
แปะไว้ข้างฝาว่า หากจะจัดระบบอำนาจใหม่ ตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมจะต้องไม่ใช่ของ พปชร. 
 
แต่จะต้องเป็นโควตากลาง ที่อย่างน้อยที่สุด ก็ต้องเป็น ‘พล.อ.ณัฐพล’ คนที่ พล.อ.ประยุทธ์มั่นใจว่า จะลงจากหลังเสือได้อย่างสบายใจที่สุด

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์