สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ เผยแพร่เอกสารชี้แจงกรณีที่ ศาลอาญาส่งคำโต้แย้งของ รักชนก ศรีนอก สส.กรุงเทพฯ พรรคก้าวไกล จำเลยในคดีอาญาหมายเลขดำที่ อ 683/2565 เพื่อขอให้ศาลรัฐธรรมนูญ พิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 212 ว่าพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 มาตรา 14 ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 26 และมาตรา 34 หรือไม่
โดยศาลรัฐธรรมนูญ พิจารณาโดยการอภิปรายแล้วเห็นว่า คดีเป็นปัญหาข้อกฎหมายและมีพยานหลักฐานเพียงพอที่จะพิจารณาวินิจฉัยได้ จึงยุติการไต่สวน ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561มาตรา 58 วรรคหนึ่ง และมีมติเป็นเอกฉันท์วินิจฉัยว่า พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 มาตรา 14 วรรคหนึ่ง (1) (2) และ (3) ไม่ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 26 และมาตรา 34 วรรคหนึ่ง
สำหรับคดีอาญาหมายเลขดำที่ อ 683/2565 เป็นคดีที่ รักชนก ซึ่งขณะนั้นเป็นสมาชิกกลุ่ม ‘คลับเฮ้าส์เพื่อประชาธิปไตย’ ขณะนั้น ตกเป็นจำเลยในข้อหา หมิ่นประมาทสถาบัน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และข้อหาตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ หลังมีการแจ้งความต่อกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโลยี (บก.ปอท.) ให้ดำเนินคดีผู้ใช้ทวิตเตอร์ชื่อ ‘ไอซ์’ ที่ทวีตข้อความวิจารณ์รัฐบาลเรื่องการผูกขาดวัคซีนโควิด-19 และรีทวีตข้อความพร้อมภาพถ่ายป้ายข้อความในการชุมนุม #16ตุลาไปแยกปทุมวัน ปี 2563 ซึ่งแสดงความไม่พอใจสถาบัน โดยศาลอาญานัดฟังคำพิพากษาในวันที่ 14 ธ.ค.นี้
ทั้งนี้ ความผิดฐานนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จในระบบคอมพิวเตอร์ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ