7 กันยายน 2566 ‘แทนคุณ จิตต์อิสระ’ รักษาการประธานคณะกรรมการส่งเสริมสิทธิมนุษยชน และความเสมอภาคระหว่างเพศ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณี ‘สิริลภัส กองตระการ’ สส.กทม. พรรคก้าวไกล นำอาหาร สภาฯ กลับบ้าน หลังเสร็จสิ้นการประชุมถือเป็นเรื่องด ีที่ไม่ทำให้อาหารเหลือ เพราะหากเหลือทิ้งไปทำให้ เกิดก๊าซเรือนกระจก อันเป็นสาเหตุหลักของภาวะโลกร้อนที่ปัจจุบัน เป็นปัญหาใหญ่ระดับโลก และมีการประกาศจากองค์การสหประชาชาติให้เป็นวาระ ‘โลกเดือด’ เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศที่เกิดจากวิถีชีวิตของมนุษย์ทั้ งการอุปโภคและบริโภคที่กินทิ้งกินขว้าง และไทยเรายังไม่มีมาตรการกำจัดสิ่งเหลือใช้เหล่านี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพพอ
ดังนั้นการนำอาหารที่เหลือแล้ว ไม่มีผู้รับประทานต่อแล้ว กลับไปทานเองก็ดี แจกจ่ายแบ่งปันให้ผู้อื่นก็ดีถือเป็นเรื่องที่ดี แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องดูให้รอบคอบว่ายังมีสมาชิกที่ยังไม่ได้ทานข้าวเหลืออยู่อีกไหม เพราะหลายครั้งสมาชิกที่มีการประชุมติดพันค้างอยู่และยังไม่ได้ทานข้าว อาจจะเข้ามาช้า ทำให้อาหารที่ถูกนำกลับไปหมดไม่มีเหลือให้สมาชิกที่อยู่ข้างหลังได้ทาน ซึ่งเชื่อว่าขึ้นอยู่กับดุลยพินิจและการบริหารจัดการของสภาด้วย
โดยส่วนตัวเห็นด้วยกับวัฒนธรรมที่จะช่วยกันทานอาหารให้หมดไม่เหลือทิ้งเหลือขว้างไป เพราะค่าอาหารล้วนแล้วแต่เป็นเงินภาษีจากพี่น้องประชาชนทั้งสิ้น และเคยมีประเด็นคำถามถึงงบประมาณที่ต้องเสียไปหากสภาล่มหรือเลิกประชุมเร็ว ซึ่งในต่างประเทศก็มีการตื่นตัวสร้างวัฒนธรรม การใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุด และมีความเป็นห่วงเรื่องของภาวะความมั่นคงทางอาหาร ที่อาหารอาจจะเริ่มขาดแคลนลงในอนาคต
ดังนั้นแม้ว่าหลายพฤติกรรมของพรรคก้าวไกลในเรื่องอื่นตนจะไม่เห็นด้วย เช่นการใช้เด็กเยาวชน เป็น เครื่องมือ ทางการเมือง การปกป้องคนละเมิดทางเพศ ซึ่ง สส.หมิวควรช่วยแก้ปัญหา นี้ควบคู่ ไปกับเรื่องของการคำนึงถึงการใช้ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่ตนถือว่าเป็นเรื่องสำคัญที่ทุกฝ่ายจะต้องร่วมมือกันอย่างจริงจังและไม่ควรนำมาเป็นประเด็นทางการเมือง เพราะถือว่าเป็นการน้อมนำหลักปรัชญา เศรษฐกิจพอเพียงมาสู่การปฏิบัติให้สอดคล้องกับความเปลี่ยนแปลงและบริบททางสังคม ไม่ใช่เรื่องเสียหายและน่าอับอายแต่ประการใดเป็นค่านิยม ที่ดีช่วยลบภาพลักษณ์ เก่าๆ ไปได้มากๆ
ดังนั้นการนำอาหารที่เหลือแล้ว ไม่มีผู้รับประทานต่อแล้ว กลับไปทานเองก็ดี แจกจ่ายแบ่งปันให้ผู้อื่นก็ดีถือเป็นเรื่องที่ดี แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องดูให้รอบคอบว่ายังมีสมาชิกที่ยังไม่ได้ทานข้าวเหลืออยู่อีกไหม เพราะหลายครั้งสมาชิกที่มีการประชุมติดพันค้างอยู่และยังไม่ได้ทานข้าว อาจจะเข้ามาช้า ทำให้อาหารที่ถูกนำกลับไปหมดไม่มีเหลือให้สมาชิกที่อยู่ข้างหลังได้ทาน ซึ่งเชื่อว่าขึ้นอยู่กับดุลยพินิจและการบริหารจัดการของสภาด้วย
โดยส่วนตัวเห็นด้วยกับวัฒนธรรมที่จะช่วยกันทานอาหารให้หมดไม่เหลือทิ้งเหลือขว้างไป เพราะค่าอาหารล้วนแล้วแต่เป็นเงินภาษีจากพี่น้องประชาชนทั้งสิ้น และเคยมีประเด็นคำถามถึงงบประมาณที่ต้องเสียไปหากสภาล่มหรือเลิกประชุมเร็ว ซึ่งในต่างประเทศก็มีการตื่นตัวสร้างวัฒนธรรม การใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุด และมีความเป็นห่วงเรื่องของภาวะความมั่นคงทางอาหาร ที่อาหารอาจจะเริ่มขาดแคลนลงในอนาคต
ดังนั้นแม้ว่าหลายพฤติกรรมของพรรคก้าวไกลในเรื่องอื่นตนจะไม่เห็นด้วย เช่นการใช้เด็กเยาวชน เป็น เครื่องมือ ทางการเมือง การปกป้องคนละเมิดทางเพศ ซึ่ง สส.หมิวควรช่วยแก้ปัญหา นี้ควบคู่ ไปกับเรื่องของการคำนึงถึงการใช้ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่ตนถือว่าเป็นเรื่องสำคัญที่ทุกฝ่ายจะต้องร่วมมือกันอย่างจริงจังและไม่ควรนำมาเป็นประเด็นทางการเมือง เพราะถือว่าเป็นการน้อมนำหลักปรัชญา เศรษฐกิจพอเพียงมาสู่การปฏิบัติให้สอดคล้องกับความเปลี่ยนแปลงและบริบททางสังคม ไม่ใช่เรื่องเสียหายและน่าอับอายแต่ประการใดเป็นค่านิยม ที่ดีช่วยลบภาพลักษณ์ เก่าๆ ไปได้มากๆ