กางแนวทางหลังคำสั่งเพิกถอน ‘อัลไพน์’ คืนธรณีสงฆ์ ถึงมือ ‘อธิบดีกรมที่ดิน’

23 ม.ค. 2568 - 09:59

  • ‘อธิบดีกรมที่ดิน’ เผยคำสั่งยกเลิกกรรมสิทธิ์ ‘​ที่ดินอัลไพน์​’ คืน ‘ธรณีสงฆ์’​ ถึงมือแล้ว

  • แจงขั้นตอนผู้เสียหายเพิกถอนคำสั่งปกครอง-เรียกร้องค่าชดเชย ขึ้นอยู่กับศาลฯ

  • ชี้แนวทาง ‘ออก พ.ร.บ.โอนที่ดิน’ แทน ‘ชดใช้เงิน’ เคยมีมาแล้วแต่สุดท้ายยกเลิก

Department_of_Lands_case_Alpine_Golf_Course_land_return_to_churchyard_SPACEBAR_Hero_82bec3f8c3.jpg

พรพจน์​ เพ็ญ​พาส​ อธิบดี​กรมที่ดิน​ กระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงความคืบหน้าภายหลัง ชำนาญวิทย์ เตรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เซ็นลงนามในหนังสือเพิกถอนกรรมสิทธิ์ที่ดินอัลไพน์​ ให้กลับไ​ปเป็นที่ธรณีสงฆ์ ว่า​ หนังสือดังกล่าวส่งถึงกรมที่ดินแล้วเมื่อวันที่ 21 ม.ค.ที่ผ่านมา​ หลังจากนี้จะเป็นอำนาจของกรมที่ดินที่จะดำเนินการต่อ

ส่วนแนวโน้มจะออกเป็น พ.ร.บ.โอนที่ธรณีสงฆ์​ ตามที่เลขาธิการคณะกรรมการ​กฤษฎีกา​แนะนำ เพื่อชดเชยผู้เสียหาย แทนการจ่ายเงินเยียวยาจะทำได้หรือไม่นั้น เคยมีการทำลักษณะนี้มาแล้วก่อนหน้านี้ในสมัย​ 2 รัฐบาลที่ผ่านมา​ โดยเป็นข้อสังเกตของคณะกรรมการ​กฤษฎีกา​ ตาม พ.ร.บ.คณะสงฆ์ปี 2505 สามารถออกได้ตามมาตรา​ 34 (การโอนที่วัด​ ที่ธรณีสงฆ์​ หรือศาสนสมบัติกลาง กระทำได้ก็แต่โดยพระราชบัญญัติ)​ ซึ่งขณะนั้นได้มีการตั้งคณะกรรมการแล้ว แต่สุดท้ายถูกยกเลิกเรื่องนี้จึงหยุดไป

พรพจน์​ เพ็ญ​พาส​ อธิบดี​กรมที่ดิน​

ส่วนในท้ายที่สุดแล้วมองว่าการชดเชยระหว่างบริษัทอัลไพน์​และประชาชนที่ถือครองที่ดิน จะออกมาในทิศทางใด​? อธิบดีกรมที่ดิน ยืนยันว่า​จะต้องเป็นไปตามวิธีการทางกฎหมาย โดยต้องยื่นคำสั่งของศาลปกครอง ว่าผู้มีส่วนได้ส่วนเสียมีความเดือดร้อนอย่างไร ซึ่งก็ต้องมีการโต้แย้งคำสั่งทางปกครองในการยกเลิกเพิกถอนที่ดินอัลไพน์ในการทำนิติกรรมสัญญา  

สำหรับกรณีที่มีข้อสังเกตของฝ่ายกฎหมายกระทรวงมหาดไทย ให้ความเห็นไว้ว่า​ คำวินิจฉัยของ ยงยุทธ วิชัยดิฐ รองปลัดกระทรวง ในฐานะผู้รักษาราชการแทนปลัดมหาดไทย ​ขณะนั้น เมื่อวันที่ 13 มี.ค. 2545 ให้เพิกถอนคำสั่งของอธิบดีกรมที่ดิน ที่ให้เพิกถอนที่ดินจากเอกชนให้เป็นของวัด เป็นการวินิจฉัยขัดแย้งกับความเห็นคณะกรรมการกฤษฎีกา ทำให้คำสั่งทางปกครองที่เป็นโมฆะ ไม่ก่อให้เกิดผลในทางกฎหมาย​ จะนำความเห็นดังกล่าวยกขึ้นสู้กับบริษัทอัลไพน์หรือไม่ หากมีการฟ้องกรมที่ดิน?

เรื่องนี้ อธิบดี​กรมที่ดิน มองว่า ทุกอย่างจะต้องทำตามกระบวนการ ก่อนอธิบายว่า​ ในช่วงแรกก่อนปี 44 ที่จะมีคำสั่งยกเลิกเพิกถอน เสนอมาทางยังกระทรวงฯ ซึ่งการทำนิติกรรมนั้นถูกต้อง แต่หลังจากนั้น​ มีคำวินิจฉัยมาจากคณะกรรมการกฤษฎีกา และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)​ เมื่อเห็นว่านิติกรรมนั้นไม่ชอบ จึงจำเป็นต้องยกเลิกเพิกถอน​ โดยคำสั่งในปี 44 ออกมา

ไม่ว่าจะเป็นอย่างไร ก็ต้องเข้าสู่กระบวนการของศาล เพราะคำสั่งนี้ถือเป็นคำสั่งทางปกครอง ซึ่งต้องมีการโต้แย้งกัน ดูที่เหตุและผล​ ข้อเท็จจริง​ และข้อกฎหมายมาพิสูจน์กัน หลังจากนี้จะต้องดำเนินการฟ้องศาลปกครอง​ เนื่องจากเป็นการยกเลิกคำสั่งทางปกครอง​ แต่ยังไม่ระบุว่าจะเป็นเมื่อใด

พรพจน์​ เพ็ญ​พาส​ อธิบดี​กรมที่ดิน​

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์