พรรคประชาธิปัตย์ (9 กันยายน 2567) เดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข (รมช.สาธารณสุข) ในฐานะเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) พร้อมด้วย สุภาพร กำเนิดผล สส.สงขลา ภรรยา และนายศักดิ์สิทธิ์ ขาวทอง สส.สงขลา บุตรชาย พร้อมครอบครัว เข้าสักการะพระแม่ธรณีบีบมวยผม ซึ่งเป็นสัญลักษณ์และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำพรรค ปชป. ก่อนเข้าปฏิบัติหน้าที่ในฐานะ รมช.สาธารณสุข
เดชอิศม์ เปิดเผยถึงนโยบายพรรคประชาธิปัตย์ ที่จะนำไปเป็นนโยบายรัฐบาล โดยเฉพาะในการเข้ารับตำแหน่ง รมช.กระทรวงสาธารณสุข ว่า หลักของกระทรวงนี้คือการดูแลสุขภาพลานามัยให้กับพี่น้องประชาชน ส่วนนโยบายของพรรคประชาธิปัตย์ คือ ความพยายามเพิ่มศักยภาพโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบล (รพ.สต.) ที่มีอยู่ทั่วประเทศ ให้มีคุณภาพมากยิ่งขึ้น เพื่อลดความแออัดโรงพยาบาลในตัวเมือง และเพิ่มทางเลือก ส่วนในรายละเอียดเรื่องกรมต่างๆ ยังไม่ได้มีการหารือกับรัฐมนตรีว่าการก่อน แต่ตนกับว่าการสนิทกันมาก ทุกเรื่องแม้มอบนโยบายมาแล้วก็ต้องมีการปรึกษาหารือกัน
ผู้สื่อข่าวถามถึงการที่นโยบายรัฐบาลไม่มีเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ รวมถึงเรื่องการแก้ไขปัญหาคอร์รัปชั่นนั้น เดชอิศม์ กล่าวว่า เรื่องนี้มีการพูดคุยในการประชุม ครม.นัดพิเศษที่ผ่านมาแล้ว ทั้งเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เรื่องการทุจริตคอร์รัปชั่น เพราะถ้ามีเรื่องทุจริตคอร์รัปชั่น ประชาธิปัตย์จะถอนตัวทันที แต่ถ้าไม่มีเรื่องทุจริต คอร์รัปชั่น รัฐบาลนี้อยู่ครบเทอมแน่
ผู้สื่อข่าวถามว่า ล่าสุดนิด้าโพลสำรวจภาคใต้ 40% ไม่เห็นด้วยที่พรรค ปชป.เข้าร่วมรัฐบาล และจะไม่เลือกพรรคประชาธิปัตย์ในการเลือกตั้งครั้งหน้าเราจะทำอย่างไรเพื่อเรียกศรัทธากลับคืนมา เลขาฯ ปชป. กล่าวว่า ก่อนที่พรรคจะตัดสินใจเข้าร่วมรัฐบาล ตนได้ให้ สส. ไปทำการบ้านในพื้นที่มาอย่างละเอียด มีการสอบถามความคิดเห็นจากพี่น้องประชาชน ตลอดจนแฟนพันธุ์แท้ของพรรค ซึ่งตนก็เชื่อว่าเกิน 90% เห็นด้วย แต่เสียงที่ดังมากจะเป็นคนที่ไม่อยู่ในพรรคแล้ว และคนที่ไม่เคยเลือกประชาธิปัตย์ ที่ออกมาแสดงความคิดเห็นโน้มน้าวให้คนรังเกียจพรรคประชาธิปัตย์
“ไม่มี สส. คนไหนหรอกที่อยากสอบตก เขาอยากชนะการเลือกตั้งทั้งนั้น สิ่งที่เขามาลงมติได้คิดกันอย่างรอบคอบ ตัวผมเองถามประชาชน แต่จะให้ถามทุกคนนั้นเป็นไปไม่ได้ ผมถามแกนนำของพรรคในเขตเลือกตั้งของผม ผมว่า 100% สนับสนุน เพราะเมื่อมีโอกาสที่จะไปแก้ปัญหาประชาชนได้ แล้วทำไมเราไม่ใช้โอกาสนั้น นั้นแหละคือารทรยศประชาชน” เลขาฯ ปชป.กล่าว
เมื่ถามว่ายืนยันว่าคนสงขลาอยากให้ร่วมรัฐบาล **เลขาฯ ปชป.**กล่าวว่า ขอใช้คำว่าคนสงขลาส่วนมาก สส.เกือบทั้งหมดในจังหวัดสงขลา ประชาชนที่คุยก็เกือบ 100%
เมื่อถามย้ำว่า ยังมั่นใจว่าคนที่เป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ยังเลือกพรรคประชาธิปัตย์อยู่ เลขาฯ ปชป. กล่าวว่า แน่นอน เราต้องมีโอกาสทำงานแต่งแสดงผลงานให้เห็นว่าพรรคประชาธิปัตย์มาร่วมบริหารประเทศมีความแตกต่างมีความโดดเด่นให้ได้ เชื่อว่าเอางานมาวัด ประชาชนจะเข้าใจดี
เมื่อถามถึงกรอบในการชี้วัดการทำงานครั้งนี้อย่างไรนั้น เดชอิศม์ กล่าวว่า ความจริงแล้วมีการประเมินผลงานของตัวเองทุกเดือนอยู่แล้ว แต่สำหรับภาพรวมอาจมีการประเมินอีกทุก 3-6 เดือน แต่ส่วนตัวไม่รู้สึกกดดัน เพราะถูกปรามาสไว้มาก สมัยเป็นนายกฯ อบจ. สงขลา ก็เคยถูกปรามาสไว้เยอะเช่นกัน แต่สุดท้ายคนอื่นๆ ที่เคยอยู่ในตำแหน่งนี้ก็ติดคุกไปหลายคน ยกเว้นตนคนเดียว
เมื่อถามถึงข้อกังวลที่ทางนายสนธิญา สวัสดี ยื่นร้องต่ออัยการสูงสุด ขอให้ตรวจสอบจริยธรรมนายกรัฐมนตรี แต่งตั้งนายเดชอิศม์ เป็นรัฐมนตรี จากการที่ขาดคุณธรรม และความสุจริตเป็นที่ประจักษ์ เดชอิศม์ กล่าวว่า ตนไม่กังวลเลย เพราะรู้ตัวเองดีกว่าใคร และมั่นใจร้อยเปอร์เซ็นต์ว่าไม่ผิดจริยธรรมเลย และไม่เป็นการบั่นทอนกำลังใจในการทำงาน อุปสรรคทั้งหลายที่เกิดขึ้นยิ่งเป็นการเพิ่มพลังในการต่อสู้เพื่อพี่น้องประชาชนมากกว่าเดิม

