ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้บรรจุระเบียบวาระเพื่อพิจารณาเพิ่มเติม (ลับมาก) เรื่อง ร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. .... หรือ เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ (Entertainment Complex) ให้ ครม. พิจารณาในวันนี้ (27 มี.ค.) หลังได้ส่งหนังสือเวียนมารับความเห็นจากหน่วยงานต่าง ๆ เป็นที่เรียบร้อย ทั้งนี้ หาก ครม. เห็นชอบ ก็จะส่งให้รัฐสภา ซึ่งประกอบด้วย สส. และ สว. พิจารณาเห็นชอบต่อไป
อย่างไรก็ตาม มีข้อสังเกตว่า ร่างกฎหมายดังกล่าวถูกนำมาเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบทันที ภายหลังเสร็จสิ้นศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 26 มี.ค.ที่ผ่านมา เพราะต้องการลดกระแสไม่ให้นายกฯ ตกเป็นเป้าโจมตีในประเด็นร้อนที่กำลังเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์และมีผลต่อการลงมติซักฟอก อีกทั้งยังไม่ต้องการนำมาขยายผลทางการเมืองในสภาฯ จนเกิดการต่อต้านจากประชาชน ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้รัฐบาลมีความตั้งใจจะนำเข้า ครม.ในวันที่ 11 มี.ค.ที่ผ่านมา
สำหรับสาระสำคัญของร่างพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจรฯ มีวัตถุประสงค์เพื่อการท่องเที่ยว โดยเป็นบริการหลักที่นำรายได้เข้าสู่ประเทศเป็นจำนวนมาก และเพื่อสร้างความเข้มแข็งให้แก่ธุรกิจการท่องเที่ยว รัฐบาลจึงมีนโยบายในการส่งเสริมและสนับสนุนให้เกิดแหล่งท่องเที่ยวที่มนุษย์สร้างขึ้นเพิ่มเติม เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว ซึ่งประกอบด้วยสถานบันเทิงครบวงจรที่มีกาสิโน ให้เกิดการลงทุนและนำรายได้เข้าสู่ประเทศ รวมถึงส่งเสริมการจ้างแรงงานในประเทศด้วย
ตามร่างดังกล่าว รักษาการตาม พ.ร.บ. คือ ‘นายกรัฐมนตรี’ และ ‘รมว.มหาดไทย’ ซึ่งมีอำนาจรักษาการตาม พ.ร.บ. รวมถึงมีอำนาจออกกฎกระทรวงเพื่อปฏิบัติการตาม พ.ร.บ. และให้ รมว.มหาดไทย มีอำนาจแต่งตั้งพนักงานเจ้าหน้าที่
ส่วนคณะกรรมการนโยบายสถานบันเทิงครบวงจรนั้น นายกรัฐมนตรีเป็นประธานกรรมการ และ รมว.มหาดไทย เป็นกรรมการโดยตำแหน่ง ซึ่งมีหน้าที่และอำนาจในการเสนอแนะการกำหนดพื้นที่ประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจรเพื่อประกอบการพิจารณาของ ครม. รวมถึงแนวทางการกำหนดจำนวนใบอนุญาตและพื้นที่ของกาสิโนในสถานบันเทิงครบวงจร
ส่วนคณะกรรมการบริหารนั้น บุคคลซึ่งนายกรัฐมนตรีแต่งตั้งเป็นประธานกรรมการ ส่วนปลัดกระทรวงมหาดไทยและอธิบดีกรมปกครองเป็นกรรมการโดยตำแหน่ง
สำหรับผู้ขอรับใบอนุญาต ผู้ประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจรต้องได้รับใบอนุญาตจากคณะกรรมการนโยบาย โดยต้องเป็นบริษัทจำกัด หรือบริษัทมหาชนจำกัด ที่จดทะเบียนในไทย และมีทุนชำระแล้วไม่น้อยกว่า 10,000 ล้านบาท, อายุใบอนุญาต 30 ปี
ส่วนคุณสมบัติผู้เข้ากาสิโน
- ต้องมีอายุ 20 ปีขึ้นไป
- ต้องลงทะเบียนและชำระค่าธรรมเนียม
- ต้องเป็นบุคคลสัญชาติไทย
- หากจะเข้ากาสิโนต้องมีบัญชีเงินฝากประจำไม่น้อยกว่า 50 ล้านบาท ต่อเนื่องกันไม่น้อยกว่า 6 เดือน
- มีหลักฐานชำระภาษีย้อนหลังไม่น้อยกว่า 3 ปี
- ผ่านการตรวจสอบตามหลักเกณฑ์ที่คณะกรรมการบริหารกำหนด
ขณะที่มีค่าธรรมเนียมต่าง ๆ ดังนี้
- คำขอรับใบอนุญาต ครั้งละ 100,000 บาท
- ใบอนุญาตครั้งแรก ฉบับละ 5,000 ล้านบาท
- ใบอนุญาตรายปี ปีละ 1,000 ล้านบาท
- ต่ออายุใบอนุญาต ฉบับละ 5,000 ล้านบาท
- ต่ออายุใบอนุญาตรายปี ปีละ 1,000 ล้านบาท
- ใบแทนใบอนุญาต ฉบับละ 100,000 บาท
- ค่าเข้ากาสิโนของผู้มีสัญชาติไทย ครั้งละ 5,000 บาท
ทั้งนี้ มีบทเฉพาะกาลในวาระเริ่มแรก โดยคณะกรรมการในวาระเริ่มแรกคือนายกรัฐมนตรี เป็นประธานกรรมการ และ รมว.มหาดไทย เป็นกรรมการ นายกรัฐมนตรีแต่งตั้งข้าราชการในสำนักนายกรัฐมนตรี ขณะที่กระทรวงมหาดไทยเป็นเลขานุการและเลขานุการรวม โดยต้องแต่งตั้งให้แล้วเสร็จภายใน 30 วันนับตั้งแต่ พ.ร.บ. มีผลบังคับใช้
นายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ต้องเสนอต่อ ครม. เพื่อพิจารณาให้ข้าราชการ พนักงาน และเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานของรัฐ มาปฏิบัติงานในสำนักงานเป็นการชั่วคราวภายในระยะเวลาที่ ครม.กำหนด
โดยกำหนดเวลาเปิด-ปิดสถานบริการ ยกเว้นการกำหนดวันเวลาเปิด-ปิด และสถานที่ตั้งของสถานบริการตามกฎหมายว่าด้วยสถานบริการ (พ.ร.บ.สถานบริการ พ.ศ. 2509 ที่ รมว.มหาดไทย รักษาการตามกฎหมาย) และยกเว้นกฎหมายว่าด้วยการพนันมาใช้บังคับในการจัดให้มีการพนันในกาสิโน (พ.ร.บ.การพนัน พ.ศ. 2478 ที่ รมว.มหาดไทย รักษาการตามกฎหมาย)
ทั้งนี้ คณะกรรมการนโยบายเป็นผู้กำหนดประเภทการพนันในกาสิโน โดยสามารถเล่นพนันในกาสิโนได้เฉพาะประเภทที่คณะกรรมการนโยบายกำหนด ส่วนคณะกรรมการบริหารเป็นผู้กำหนดหลักเกณฑ์ ลักษณะ วิธีการเล่น และรายละเอียดของการพนัน