เว็บไซต์ สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เผยแพร่คำวินิจฉัยของกกต. ที่มีคำสั่งให้ยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาเพื่อสั่งให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งและสิทธิเลือกตั้งของ ขวัญชัย บุญเพ็ชร ผู้มีสิทธิเลือกสมาชิกวุฒิสภาระดับจังหวัด จ.สมุทรปราการ กลุ่มที่ 15 ผู้สูงอายุ คนพิการ ชาติพันธุ์ หมายเลข 2 , มงคล ลีลาเลอเกียรติ ผู้มีสิทธิเลือกสมาชิกวุฒิสภาระดับอำเภอ อำเภอเมือง จ.สมุทรปราการ กลุ่มที่ 15 หมายเลข 18 และ นิธิพล บุญเพ็ชร ผู้ซึ่งไม่ใช่ผู้สมัครสมาชิกวุฒิสภา ตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2561 มาตรา 62 และรัฐธรรมนูญมาตรา 226 พร้อมดำเนินคดีอาญาบุคคลทั้งสาม ตามมาตรา77(1) พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา2561
เนื่องจากข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่าวันที่ 13 มิถุนายน 2567 บุคคลทั้ง 3 และพยาน เดินทางไปที่ร้านอาหารไทยแห่งหนึ่ง อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการจริง และพยานให้ถ้อยคำสอดคล้องกับเหตุการณ์ที่ปรากฏบทสนทนาตามคลิปบันทึกเสียงซึ่งมีการถอดข้อความโดยพยานที่เป็นผู้ตรวจการเลือกตั้งประจำจังหวัดสมุทรปราการว่า เป็นการสนทนากันระหว่างมงคล - นิธิพล และพยานอีก 2 คน เกี่ยวกับการเลือกสมาชิกวุฒิสภาระดับจังหวัดและระดับประเทศ การขอและแลกเปลี่ยนคะแนนรวมถึงการเสนอผลประโยชน์ให้แก่กัน
โดย มงคล กล่าวถ้อยคำว่า “ตอนนี้ผมพูดตรง ๆ เลยนะว่าสองนะไม่มี รู้มั้ยทำไมผมถึงพูดคำนี้ เพราะตอนนี้ก็เหมือนอย่างเรา ผมก็หากลุ่ม หากลุ่มๆ เรามาจอยกัน แล้วก็ดูวัตถุประสงค์ของแต่ละคนว่าเป็นยังไงบ้าง อ่ะ อยากได้แต้มใช่มั้ยครับ ผมมีตัวแลกนะ ถ้ายอมถอย ผมมี หรือถ้าอยากได้ตำแหน่งผมมีตำแหน่งให้ ถ้าผมได้เข้าไป” และ “ผมไม่ได้มองว่าคุณต้องมาช่วยผมร้อยเปอร์เซ็นต์นะครับ แต่ผมมองว่าเรารู้จักกันวันนี้เพื่อผลประโยชน์ในวันข้างหน้าที่มันจะลงตัว คุณกับเราต่างมีผลประโยชน์ร่วมกันแล้วแลกเปลี่ยนกัน หรือว่า คุณพอใจส่วนไหน เราจัดให้ได้ ถ้าคุณช่วยผลักดันเรา”
และนิธิพลกล่าวถ้อยคำว่า “คือ.. (ชื่อพยาน).. ต้องเข้าใจผมอย่างหนึ่งว่า ผมเนี่ยลงมาช่วยคุณพ่อ” รวมถึง ข้อความอื่น ๆ ที่แสดงให้เห็นถึงพฤติการณ์ที่ นิธิพล เข้ามาช่วยเจรจากับพยาน เพื่อขอให้ลงคะแนนให้แก่ ขวัญชัย ซึ่งมีลักษณะเป็นการเสนอให้ผลประโยชน์อื่นใดอันอาจคำนวณเป็นเงินได้แก่พยานเพื่อจูงใจให้ลงคะแนนให้แก่นายขวัญชัย
ประกอบกับเมื่อตรวจสอบการใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ของนายมงคล ระหว่างวันที่ 1 พ.ค. 67- 30 มิ.ย. 67 พบว่า มงคลโทรศัพท์ติดต่อกับ ขวัญชัย จำนวน 34 ครั้ง และมงคลโทรศัพท์ติดต่อกับนายนิธิพลจำนวน 23 ครั้ง จึงน่าเชื่อว่านายขวัญชัยก่อ สนับสนุน หรือรู้เห็นเป็นใจกับการกระทำดังกล่าวของนายมงคล และ นิธิพล ซึ่งเป็นบุตรของตนด้วย กรณีจึงมีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่า บุคคลทั้งสามกระทำการอันเป็นการฝ่าฝืน พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิก วุฒิสภา 2561 มาตรา 77 (3) ซึ่งเป็นการทุจริตในการเลือก อันเป็นเหตุให้การเลือกมิได้เป็นไปโดยสุจริต หรือเที่ยงธรรม ตามมาตรา 62 ของกฎหมายเดียวกัน