พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ แสงเพชร สมาชิกวุฒิสภา เปิดเผยภายหลังเข้ารับทราบข้อกล่าวหากับคณะกรรมการสืบสวนไต่สวนสำนักงาน คณะกรรมการการเลือกตั้งชุดที่ 26 ว่า เบื้องต้น กกต. ได้แจ้ง 5 ข้อกล่าวหาดังนี้
พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ แสงเพชร สมาชิกวุฒิสภา เปิดเผยภายหลังเข้ารับทราบข้อกล่าวหากับคณะกรรมการสืบสวนไต่สวนสำนักงาน คณะกรรมการการเลือกตั้งชุดที่ 26 ว่า เบื้องต้น กกต. ได้แจ้ง 5 ข้อกล่าวหาดังนี้ กระทำการฝ่าฝืนเกี่ยวกับพระราชบัญญัติว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ.2560 การรวมตัวกันในสถานที่ต่างๆ การเข้าไปเกี่ยวข้องกับพฤติการณ์ตามข้อกล่าวหา ในระหว่างวันเวลาที่เกิดเหตุ ตั้งแต่วันที่ 23-26 มิถุนายน 2567 การพบกัน ณ สถานที่โรงแรมต่างๆ 4-5 แห่ง ในพื้นที่รอบปริมณฑล เป็นการสรุปว่าพฤติการณ์ 1-4 เป็นผู้ได้รับผลประโยชน์อย่างไร ซึ่งในส่วนของข้อ 5 พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ เล่าว่า เขาได้ย้อนถามว่าผมได้รับประโยชน์ตรงไหน ทางเจ้าหน้าที่จึงย้อนกลับมาว่าได้ประโยชน์ที่เป็น สว. พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ จึงถามกลับว่า ผมรับราชการมา 30 กว่าปี ไม่เคยมีปัญหา เรื่องนี้จะไม่เป็นเครื่องการันตีว่าผมจะได้รับเลือกหรือ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตอบว่าเป็นเรื่องที่ท่านต้องชี้แจง พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ ยังยอมรับว่า ครั้งนี้เป็นการแจ้งข้อกล่าวหาเบื้องต้น ส่วนข้อกล่าวการแต่ละคนเหมือนกันหรือไม่ ไม่ทราบ แต่จากการพูดคุยกับเพื่อน สว. ก่อนนี้ มีรายละเอียดแตกต่างกันไป จึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ กกต. ว่า หากมีประเด็นใดที่ยังไม่ครบถ้วนให้แจ้งมา พร้อมเข้ามาชี้แจงเพิ่มเติม นอกจากนี้ พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ ยังขอเอกสารเพิ่มเติมจาก กกต. ว่า มีเอกสารใดที่เกี่ยวโยงถึงพฤติการณ์ที่กล่าวหา แต่เจ้าหน้าที่บอกว่าไม่สามารถให้ได้ จึงตั้งคำถามว่าจะให้ชี้แจงได้อย่างไร ก็ได้รับคำตอบว่าหากมีประเด็น กกต. จะเรียกมาชี้แจงเพิ่มเติม เมื่อถามว่า กกต. ได้ยกโจทย์มาเป็นตุ๊กตาหรือไม่ว่าผิดอย่างไร พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ ระบุว่า ได้คุยกับคณะกรรมการแล้วก็เข้าใจดี เพราะ กกต. รับคำร้องจากทุกกลุ่ม ส่วน กกต. จะปฏิบัติอย่างไร ขึ้นอยู่กับ กกต. โดยเฉพาะเรื่องข้อกฎหมายที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ใครมีอำนาจหน้าที่อย่างไรก็ทำตาม ดังนั้น หากใครทำเกินกว่าที่อำนาจกำหนดก็ต้องว่ากันอีกที แต่เท่าที่ดูคณะอนุกรรมการที่เชิญผมมาชี้แจง ถือว่าให้ความเป็นธรรมพอสมควรในการไปชี้แจงข้อเท็จจริง เมื่อถามว่าได้ชี้แจงกับ กกต. แล้วใจชื้นขึ้นหรือไม่ พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ ถึงกับร้องโอ๊ย พร้อมระบุว่า เรียกมาชี้แจงก็สบายใจแล้ว เพราะในส่วนดีเอสไอที่แจ้งข้อกล่าวหา ผมก็ค้านตั้งแต่ต้นว่า การสอบสวนของดีเอสไอชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ เพราะการได้มาซึ่ง สว. เป็นอำนาจของ กกต. และในส่วนคดีฟอกเงินส่วนตัวได้พูดคุยกับเจ้าหน้าที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ป.ป.ง.) แล้ว เจ้าหน้าที่ ป.ป.ง. มองว่า การสัณนิษฐานเรื่องจำนวนเงินเพื่อตั้งข้อกล่าวหา เป็นสิ่งที่ทำไม่ได้ และเมื่อไม่มีตัวเงินจะเข้าข่ายการฟอกเงินได้อย่างไร จึงสงสัยว่าการกระทำของดีเอสไอเหมือนจงใจอะไรบ้างอย่างหรือไม่ พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ ยังระบุว่า ในห้องสอบสวนของ กกต. ไม่เห็นว่ามีเจ้าหน้าที่สวมชุดดีเอสไอร่วมสอบอยู่ด้วย ส่วนใหญ่เห็นแต่สวมชุด กกต. จึงไม่รู้ว่ามีดีเอสรวมอยู่ด้วยหรือไม่ แต่ทั้งหมดน่าจะเป็นคณะกรรมการชุดที่ 26 เมื่อถามว่าข้อกล่าวหาของ กกต. มีข้อใดที่สุ่มเสี่ยงบ้างหรือไม่ พลตำรวจตรีฉัตรวรรษ ระบุว่า
“สำหรับผมขอยืนยันในความบริสุทธิ์ ไม่สามารถตอบได้ว่าตรงไหนมีความเสี่ยงบ้างขึ้นอยู่กับการพิจารณาไต่สวน”
— พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ กล่า
ทั้งนี้ พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ ระบุว่า วันพรุ่งนี้ (21 พ.ค.)จะเดินทางมายื่นเอกสารหลักเพิ่มเติมในบ้างประเด็น ที่ยังไม่มีการสอบสวน
🔴 ‘คณะกรรมการชุดที่ 26’ คอนเฟิร์มเรียก 10 นักการเมืองรับทราบข้อกล่าวหา คดีฮั้วเพิ่ม
มีรายงานข่าวจากแหล่งข่าว ในคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนส่วนกลางคณะที่ 26 ของสำนักงาน กกต. ที่เป็นคณะกรรมการร่วมกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ เผยความคืบหน้าการเรียกสมาชิกวุฒิสภา หรือ สว. มารับทราบข้อกล่าวหาในคดีฮั้วสว. ว่า เมื่อวานนี้ ( 19 พ.ค.68) เบื้องต้นมี สว. มารับทราบข้อกล่าวหา และชี้แจงจำนวน 11 คน จาก 22 คน ที่เรียกมารับทราบข้อกล่าวหาเป็นวันแรก ส่วนคำชี้แจงมีประโยชน์ต่อรูปคดีหรือไม่ แหล่งข่าวคนนี้ระบุว่า ยังไม่ทราบรายละเอียด เนื่องจากมีการแยกสอบสวน สว.แต่ละคน จึงต้องรอให้มีการสอบสอนจนครบ 3 วันก่อน แล้วสรุปรายละเอียดอีกครั้ง แหล่งข่าวคนนี้ ยังยืนยันด้วยว่า กรณีมีหมายเรียก 10 นักการเมือง เป็นเรื่องจริง เนื่องจาก พบการเชื่อมโยงถึงการฮั้วเลือก สว. และพบมากกว่า 10 คนด้วย แต่ก็ขึ้นอยู่กับ กกต.ว่า จะพิจารณาเรียกใครเพิ่มเติมหรือไม่ แต่หลักฐานส่งให้กับ กกต. หมดแล้ว