‘เอกนัฎ’ ปัดกระแส ‘ทักษิณ’ ดราม่าไม่ชอบ ‘รัฐมนตรีอีแอบ’

16 ธ.ค. 2567 - 08:22

  • ‘เอกนัฏ’ แจงปม ‘ทักษิณ’ เหน็บพรรคร่วมฯ ‘ไม่ชอบอีแอบ’ ยัน เข้าประชุมวาระสำคัญ -โหวตหนุน พรก.2 ฉบับด้วยตนเอง

  • ลั่นอยู่การเมืองมานานไม่หวั่นไหว

  • ปัดน้อยใจปม ‘อิ๊งค์’ ยังไม่ลงใต้

Ekanat_talks_about_Thaksin_SPACEBAR_Hero_3139b32b92.jpg

‘เอกนัฏ พร้อมพันธุ์' รมว. อุตสาหกรรมในฐานะ เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ  กล่าวถึงกรณี ‘ทักษิณ ชินวัตร’ อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวในงานสัมมนาพรรคเพื่อไทย เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาว่าไม่ชอบอีแอบ หลังมีรัฐมนตรีบางคนโดดประชุม โดยหลายฝ่ายคิดว่าหมายถึงพรรครวมไทยสร้างชาติหรือไม่ โดยเอกนัฏ ยิ้มก่อนจะตอบว่าไม่ทราบ 

เมื่อถามว่าการที่ทักษิณ ออกมาพูดแบบนั้นจะส่งผลให้พรรคร่วมรัฐบาลหวาดระแวงหรือไม่ เอกนัฏ กล่าวว่า หากถามในฐานะเลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ ก็อยู่ในการเมืองมานาน ไม่เคยหวั่นไหวอะไรอยู่แล้วเพราะขณะนี้มีโจทย์ มีภารกิจที่สำคัญที่ต้องทำ บางเรื่องที่เป็นเรื่องเล็กน้อยก็ปล่อยไป ที่สำคัญคืองานที่ต้องทำให้กับประเทศและงานก็ยากอยู่แล้ว ต้องทำแข่งกับเวลา ทางที่ดีก็ต้องจับมือกันทำงานให้ดีที่สุด  

เอกนัฏ กล่าวต่อว่า ในที่ประชุม ครม.วันดังกล่าวส่วนตัวก็อยู่ในที่ประชุม และเป็นผู้ที่ยกมือสนับสนุนพระราชกำหนด 2 ฉบับ เพราะมองว่าเป็นเรื่องสำคัญของประเทศและเกี่ยวเนื่องกับกระทรวงอุตสาหกรรม  ซึ่งจะรอช้าไม่ได้ และได้พูดในที่ประชุมว่าสนับสนุน และเป็นข้อสังเกตส่วนตัวด้วยในฐานะที่เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมเห็นว่าการใช้เงินกองทุนเพิ่มขีดความสามารถ ใช้สิทธิประโยชน์ ซึ่งจะเป็นอาวุธอีก 1 ตัว ในการนำเงินก้อนนี้ไปดึงนักลงทุนใหม่ๆมาได้ แต่สิ่งสำคัญคือเมื่อดึงมาแล้วประเทศไทยต้องได้ประโยชน์ เพราะฉะนั้นตนไม่คิดว่าจะมีปัญหาอะไร และก็อยากทำงานให้เต็มที่ 

ผู้สื่อข่าวถามถึงจุดยืนร่างแก้กฎหมายพรบ. นิรโทษกรรม เอกนัฏ กล่าวว่า พรรครวมไทยสร้างชาติ มีจุดยืนชัดเจนมาตลอดซึ่งเป็นเงื่อนไขที่เราร่วมรัฐบาลว่าต้องไม่สังฆกรรมกับผู้ที่จะออกกฎหมายเรื่องมาตรา 112 เพราะฉะนั้นเรื่องการนิรโทษกรรมจะต้องไม่ไปเกี่ยวข้องกับมาตรา 112 และการทุจริตรวมถึงอาญาร้ายแรงซึ่งเป็นจุดยืนที่พรรคแสดงไว้ก่อนที่จะเข้าร่วมรัฐบาล ซึ่งทุกพรรคร่วมรัฐบาลที่รวมตัวกันเป็นรัฐบาลทุกวันนี้ ก็ให้เกียรติกับ จุดยืนที่ประกาศไว้ และเป็นคำมั่นสัญญาตั้งแต่ต้น ตราบใดที่เป็นแบบนี้ ก็ยืนยันเดินหน้าทำงาน ขอเอาเวลามาร่วมกันทำงานเพื่อประโยชน์ของประเทศจะดีกว่า

“พรรคร่วมรัฐบาลยังทำงานขับเคลื่อนไปด้วยกัน และมีเป้าหมายเดียวกัน อย่างผมเอง เป็นรัฐมนตรี ด้านเศรษฐกิจก็มองว่าประเทศไทยบอบช้ำจากสถานการณ์เศรษฐกิจและยังไม่ฟื้น จึงต้องทำงานร่วมกับภาคเอกชนเพื่อขับเคลื่อน เศรษฐกิจและทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนดีขึ้น ใครจะว่าอย่างไรก็แล้วแต่ แต่ตัวเองจะให้คุยกับใคร ทำประโยชน์อะไรเพื่อส่วนรวม ผมก็ทำหมด”

เอกนัฎ กล่าว

พร้อมกันนี้ ได้กล่าวถึงสถานการณ์น้ำท่วมพื้นที่ภาคใต้ว่า ได้ให้สส.พรรครทสช. ออกหน่วยตั้งครัวและทยอยส่งถุงยังชีพให้กับประชาชนที่ประสบอุทกภัย ซึ่งนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกฯและรมว. พลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรครทสช.มีกำหนดจะลงพื้นที่ภายใน 1-2 วันนี้ ส่วนตนจะบินตามไปสมทบด้วย และจะรับช่วงต่อในการฟื้นฟูต่อไป 

เอกนัฏ กล่าวว่า จากที่เช็คดูสถานการณ์ในช่วงเช้าวันนี้ จ.ชุมพร น้ำเริ่มแห้งแล้ว ส่วนจ.สุราษฎร์ ยังมีน้ำท่วมเป็นจุดๆ แต่ที่หนักคือจ.นครศรีธรรมราช ซึ่ง ‘พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล’ สส.นครศรีธรรมราช เขต 10 พรรครทสช. อดีตรมว.อุตสาหกรรม ได้นำเรือออกไปช่วยเหลือประชาชนที่ติดอยู่ในบ้านทั้งคืน เพราะขณะนี้ปริมาณน้ำขึ้นไปถึงชั้น 2 ของบ้านแล้ว และทำให้มีปัญหาเรื่องการสัญจรเป็นหลัก รวมถึงของที่เรานำไปช่วยเหลือก็เข้าไปไม่ถึง เราจึงได้ขอความช่วยเหลือจากทางทหาร ซึ่งพล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม จะส่งเรือและกำลังพลเข้าไปช่วยเหลือ ยืนยันว่าเราติดตามสถานการณ์ 24 ชั่วโมง 

เมื่อถามว่า นายกฯจำเป็นต้องลงพื้นที่หรือไม่ เอกนัฏ กล่าวว่า เข้าใจว่านายกฯมีกำหนดการที่จะลงไป ซึ่งขณะนี้แบ่งงานกันทำ แต่ที่สำคัญคือสส.ในพื้นที่เพราะเป็นหน้าด่านที่สำคัญ เวลาที่น้ำมากระทันหัน จึงฝากให้สส.ทุกคนช่วยกันรับมือ ทั้งนี้ การช่วยเหลือไม่ได้มีเส้นแบ่งพรรคการเมืองน้ำท่วมที่ไหนก็ช่วยที่นั่น ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ของพรรคร่วมรัฐบาลไหน แม้แต่พื้นที่ของพรรคประชาชน (ปชน.)  

เมื่อถามว่า น้อยใจหรือไม่ที่นายกฯ ยังไม่ลงพื้นที่ เอกนัฏ ยิ้มพร้อมกล่าวว่า ไม่ได้คิดแบบนั้น เข้าใจว่าตัวแทนรัฐบาล และหน่วยทหารออกช่วยเหลือประชาชนตลอด สำหรับตนแล้วสิ่งสุดท้ายที่ควรคิดคือประเด็นการเมือง เพราะความเดือดร้อนของประชาชนไม่ได้แบ่งพรรคการเมือง ทุกคนเดือดร้อนเหมือนกันหมด

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์