ที่ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค เขตบางนา (13 ธันวาคม 2566) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง (รมว.คลัง) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีหนักใจเรื่องการเมืองในปี 2567 หรือไม่ ว่า ส่วนตัวคิดว่าการเมืองมีเสถียรภาพพอสมควร และปัจจุบันนี้บรรยากาศทางการเมือง ตนเชื่อว่าก็สามารถพูดคุยและโอภาปราศรัยกันได้ดี มีการพูดคุยกันด้วยเหตุด้วยผล
ผู้สื่อข่าวถามว่า การบริหารงานเพิ่งผ่านมา 3 เดือน ทำไมมีกระแสข่าวว่าจะมีการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) นายกฯประเมินว่าจะมีการปรับ ครม.ในช่วงเวลาใด นายกฯ เศรษฐา กล่าวปัดทันทีว่า “ขอเป็นคำถามต่อไปครับ”
เมื่อถามว่า หลังพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ได้นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เป็นหัวหน้าพรรคคนใหม่ ได้เกิดกระแสข่าวว่าจะมีมาร่วมรัฐบาล นายกฯ เศรษฐา กล่าวว่า ตนไม่ไปก้าวก่ายในพรรคอื่น และเขาเองก็ต้องเคารพการตัดสินใจของเขา ปัจจุบันเราก็มี 314 เสียง มันก็เยอะอยู่แล้ว ตรงนี้ก็ให้ต้องเกียรติทางพรรคร่วมรัฐบาล และให้เกียรติกับทางพรรคประชาธิปัตย์ด้วย เชื่อว่าเป็นการบริหารจัดการภายในของเขา อีกทั้งนายเฉลิมชัยก็เพิ่งเข้ามาได้ 2-3 วันเอง ก็ต้องให้โอกาสเขาทำงาน และบริหารพรรคไปก่อน

วันเดียวกัน ที่ห้องแกรนด์บอลรูม โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล ถนนเพลินจิต เขตปทุมวัน เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง ร่วมงานเสวนาหัวข้อ “คนไทยถาม นายกฯ เศรษฐาตอบ” ในงาน เดลินิวส์ ทอล์ก 2023 (Dailynews Talk 2023) เมื่อถามถึงเรื่องการนิรโทษกรรมมีมุมมองในเรื่องนี้อย่างไรในการสลายสีเสื้อ
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การนิรโทษกรรม การปรองดองระหว่างประชาชนทั้งประเทศ ตนเชื่อว่าเป็นเรื่องสำคัญ ซึ่งเป็นเรื่องที่จะทำให้ถ้าเกิดขึ้นได้ในรัฐบาลชุดนี้ก็จะทำให้ประเทศเดินหน้าไปข้างหน้าได้อย่างปลอดภัยและมีเสถียรภาพ ซึ่งรัฐบาลนี้มาจากการเลือกตั้งของประชาชน มี สส. ฉะนั้น เรื่องการนิรโทษกรรมเป็นเรื่องของรัฐสภา และฝ่ายนิติบัญญัติ
เมื่อถามต่อว่า เคยมีความพยายามนิรโทษกรรมมาแล้วหนึ่งครั้ง ดังนั้น ความแตกต่างระหว่างครั้งนั้นกับครั้งนี้เป็นอย่างไร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า แต่ละกรรมก็ต่างวาระกันไป พบว่าเรามีการเรียนรู้ว่าเรื่องอะไรที่สังคมรับได้และรับไม่ได้ ฉะนั้น “ตนเชื่อว่าด้านรัฐสภา ฝ่ายนิติบัญญัติเอง ทราบดีอยู่ว่าทุกท่านมาจากการเลือกตั้ง และทุกคนฟังเสียงประชาชน ฉะนั้น ตรงนี้ตนเชื่อว่าทุกคนมีการเรียนรู้มาแล้ว”