‘ปิติพงศ์ เต็มเจริญ’ หัวหน้าพรรคเป็นธรรม ให้สัมภาษณ์ว่า ได้พูดคุยกับ ‘ปดิพัทธ์ สันติภาดา’ สส.พิษณุโลก พรรคเป็นธรรม ต่อกรณีอนาคตทางการเมืองหลังจากที่พรรคก้าวไกลถูกศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยคดียุบพรรค ในวันที่ 7 ส.ค. หากเกิดกรณีต้องถูกตัดสิทธิ์ เนื่องจากดำรงตำแหน่งเป็นกรรมการบริหารพรรคก้าวไกล การส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งแทนตำแหน่งที่ว่าง พรรคเป็นธรรมจะไม่ส่งผู้สมัครและให้เป็นสิทธิของพรรคการเมืองใหม่ซึ่งจะมาแทนพรรคก้าวไกล ที่จะดำเนินการ เพราะแม้ว่าพรรคเป็นธรรมจะมีชื่อเป็นที่รู้จักของประชาชน แต่เมื่อพิจารณาฉากทัศน์ทางการเมืองแล้ว เมื่อพรรคใหม่ที่มาแทนพรรคก้าวไกลได้ส่งผู้สมัครจะเท่ากับเป็นการโปรโมตพรรคดังกล่าวให้เป็นที่รู้จักในสนามการเมือง
“แน่นอนว่าคนที่จะส่งลงสมัครสส.แทนนายปดิพัทธ์นั้น ต้องเป็นคนที่นายปดิพัทธ์สนับสนุน ทั้งนี้ผมไม่สามารถระบุรายละเอียดได้ อย่างไรก็ดีตามที่ตั้งข้อสังเกตว่านายปดิพัทธ์มาอยู่กับพรรคเป็นธรรม เป็นการฝากเลี้ยงนั้น ไม่ใช่ เพราะพรรคต้นสังกัดเดิมของนายปดิพัทธ์นั้นจบแล้ว”
ปิติพงศ์ กล่าว
ปิติพงศ์ ฐานะที่ปรึกษารองประธานสภาฯ คนที่หนึ่ง กล่าวว่า ในกรณีที่สถานะความเป็นสส.ของปดิพัทธ์สิ้นสุดลงตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ตำแหน่งทุกอย่างต้องยุติลง รวมถึงบุคคลที่ปฏิบัติหน้าที่ ทั้ง เลขานุการ ที่ปรึกษาต้องยุติลงตามการสิ้นสุดความเป็น สส. ด้วย อย่างไรก็ดีแนวทางการทำงานของการทำสภาให้โปร่งใสนั้นตนอยากให้บุคคลที่มาดำรงตำแหน่งต่อนั้นสานต่อเพื่อทำสภาให้เป็นของประชาชนอย่างแท้จริง
