เปิดปูมหลัง ‘อนาคตไกล’ พรรคอะไหล่ ตั้งใจย้อนเกล็ดใคร ?

27 พ.ย. 2566 - 16:19

  • วิเคราะห์ยุทธศาสตร์ 'พรรคอนาคตไกล' ผ่านการเทครัวจาก 'พรรคพลัง' สู่หมุดหมายใหม่ พร้อมการชำแหละแผนโจมตี 'ก้าวไกล' อย่างเจาะลึก กับ 'โอฬาร ถิ่นบางเตียว' ที่เชื่อว่า 'สร้างพรรครอเทคโอเวอร์'

Far-Future-Party-history-SPACEBAR-Hero.jpg

ยากจะปฏิเสธ ว่าการปรากฎตัวของ ‘พรรคอนาคตไกล’ อาจมีนัยสำคัญซ่อนอยู่ โดยเฉพาะชื่อ ที่ดูละม้ายคล้ายคลึงกับ ‘พรรคอนาคตใหม่’ และ ‘พรรคก้าวไกล’ รวมกัน ชัดเจนยิ่งขึ้น เมื่อได้เห็นภาพสมาชิกพรรคกว่า 400 คน ที่รวมตัวอยู่ ณ ห้องประชุมชั้น 4 โรงแรมมิราเคิลแกรนด์ฯ เพื่อประชุมสามัญเป็นครั้งแรก ก่อนจะเลือกตั้งกรรมการบริหารพรรค 'ชุดปฐมฤกษ์' (วันที่ 26 พฤศจิกายน 2566)

ภาพที่ปรากฎอยู่เบื้องหน้า เต็มไปด้วยผู้คนที่นั่งเรียงรายภายใต้เสื้อ ‘สีส้ม’ ไม่ต่างอะไรกับพรรคคนรุ่นใหม่ ที่เพิ่งชนะศึกเลือกตั้งในรอบที่ผ่านมา แต่อาจผิดแผกไปบ้าง ตรงที่สมาชิกมากกว่าครึ่ง (เท่าที่สังเกตด้วยตา) อยู่ในวัยใกล้เกษียณ หรือบางคนล่วงเลยเข้าสู่วัยชราภาพแล้ว เห็นได้จากผมสีดอกเลา ที่แซมสลับกับศีรษะดำขลับอย่างชัดเจน

ทั้งหมดทั้งมวล สอดคล้องกับความเห็นของ 'ดร.อภิสัณห์ ศรวัชรณัฏฐ์' หัวหน้าพรรคอนาคตไกล ที่อธิบายให้ฟังว่า พรรคของเขาคือพรรคการเมืองที่ให้ความสำคัญ กับประเด็นความหลากหลายของสมาชิกและฐานเสียง ไม่ใช่จะมุ่งเพื่อคนหนุ่มสาวรุ่นกระทงเพียงอย่างเดียว แต่จะต้องมีวัยกลางคน และผู้อาวุโสเข้าช่วยขับเคลื่อนทางการเมืองด้วย โดยเฉพาะในยุคที่ทุกอย่างเข้าสู่ห้วง Disruption ที่ผู้คนทุกช่วงวัย จะต้องเดินหน้าสู่อนาคตอันใกล้อย่างพร้อมเพียงกัน

SPB_Poad -05618.jpg
Photo: จังหวะที่สมาชิก 'พรรคอนาคตไกล' ยกมือโหวตรับรอง 'กก.บห.' ชุดปฐมฤกษ์
SPB_Poad -05705.jpg
Photo: (ขวา) 'ดร.อภิสัณห์ ศรวัชรณัฏฐ์’ หัวหน้าพรรคอนาคตไกล

อภิสัณห์ ยืนยันว่า รูปแบบการจัดตั้งพรรคไม่ได้ลอกเลียนแบบใคร และทุกอย่างเป็นไปตามครรลองกฎหมาย มีการรับรองจาก กกต. ในการจดแจ้งอย่างถูกต้อง พร้อมปฏิเสธว่าไม่ได้เป็น ‘นอมินี’ หรือ ‘พรรคอะไหล่’ ของใคร แต่ที่ต้องเร่งจัดตั้งในวันนี้ เพราะสถานการณ์บ้านเมืองปัจจุบัน ทำให้เชื่อได้ ว่ารัฐบาลจะอยู่ไม่ครบ 4 ปี และอาจมีอุบัติเหตุทางการเมืองเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ ดังนั้นจึงตัดสินใจจัดตั้งพรรคการเมืองขึ้นเตรียมความพร้อม และจะส่งผู้สมัครลงทุกเขตการเลือกตั้ง เริ่มจากภาคกลาง ที่จังหวัดปทุมธานี และกรุงเทพมหานคร โดยตั้งเป้าได้รับเลือกอย่างน้อย 100 ที่นั่ง

"เราคือพรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตย และเมื่ออนาคตไกลเข้ามา ก้าวไกลต้องลงไป เพราะในวันข้างหน้าพรรคอนาคตไกลจะต้องเป็นพรรคการเมืองกระแสหลักของประเทศ และนอกจากพรรคจะดำเนินตามแนวทาง เพื่อปกป้องสถาบันหลักของชาติแล้ว เราขอยืนยันว่าจะไม่สนับสนุนการแก้ไขมาตรา 112 อีกด้วย"

อภิสัณห์ ศรวัชรณัฏฐ์ กล่าว

จาก ‘พลัง’ สู่  ‘อนาคตไกล’

เมื่อกลับมาไล่เรียงรายชื่อ 5 เสือ ‘กก.บห.’ จะเห็นว่ามีทั้งผู้เล่นหน้าเก่าและหน้าใหม่ปะปนกันอยู่ อย่าง 'ดร.อภิสัณห์ ศรวัชรณัฏฐ์’ หัวหน้าพรรค ที่แต่เดิมชื่อ ‘ณัฐวุฒิ วงศ์เนียม’ คลุกคลีในวงการเมืองมานับสิบปี ตั้งแต่การเป็นสมาชิก ‘พรรคชาติไทย’ สมัย ‘บรรหาร ศิลปอาชา’ เป็นหัวเรือหลัก แต่ไม่ได้เข้าสู่สนามเลือกตั้ง เพราะเกิดการรัฐประหารปี 2549 ก่อน

จากนั้นได้ย้ายมาสังกัด ‘พรรคประชาราช’ ของ ‘เสนาะ เทียนทอง’ และลงสมัครรับเลือกตั้ง สส. ระยอง เขต 2 แต่ก็สอบตก และข้ามห้วยเข้าสังกัด ‘พรรคเพื่อไทย’ ให้หลังได้รับตำแหน่งสำคัญ ในชั้นกรรมาธิการ สภาผู้แทนราษฎร หลายคณะ และเข้าสู่ถนนการเมืองอีกครั้ง ในฐานะประธานยุทธศาสตร์ ‘พรรคพลัง’ จนกระทั่งตัดสินใจออกมาทำพรรคอนาคตไกล ในฐานะหัวเรือใหญ่ในเวลาต่อมา

SPB_Poad -05814.jpg
Photo: ภาพหมู่ 'กก.บห.' พรรคอนาคตไกล ภายใต้เสื้อคลุม 'สีส้ม'

ขณะที่ ‘ดำรง ทองยืน’ ในฐานะเลขาธิการพรรค ก็เพิ่งมีข่าวออกหมาดๆ  (เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2566) ฐานะทนายความในคดีที่ 'ปริเยศ อังกูรกิตติ' ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารและประชาสัมพันธ์ 'พรรคไทยสร้างไทย' เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง 'เสมอใจ ศุขสุเมฆ' ประธานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) จำเลยรวมกับพวก 4 คน ในข้อหาเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริตหรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ กรณีค่าไฟฟ้าแพง

ด้าน ‘ภนุวัฒน์ เอกพลกุล’ ที่ได้รับตำแหน่งนายทะเบียนป้ายแดง ก็เป็นลูกหม้อเก่าพรรคพลัง เช่นเดียวกันกับหัวหน้าพรรค (อภิสัณห์) โดยก่อนหน้านี้เขาเคยดำรงตำแหน่ง เป็นคณะกรรมการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้ง สส.

ส่วนเสือตัวสุดท้ายที่สื่อจับตา คือ 'ภวัต เชี่ยวชาญเรือ' หรือ ‘ไก่ต๊อก’ หนุ่มรุ่นกระทงวัย 21 ปี อดีตนักกิจกรรมและองค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยบูรพา ในฐานะกรรมการบริหารพรรคที่อายุน้อยที่สุด ที่ได้รับการเสนอชื่อและรับรองตำแหน่งเป็น ‘โฆษกพรรค’ ซึ่งหากไล่เรียงรายละเอียดดูจะพบว่า ภวัตเองก็เคยดำรงตำแหน่งเป็น ‘เหรัญญิก’ พรรคพลังมาก่อนหน้านี้

SPB_Poad -05754.jpg
Photo: 'ไก่ต๊อก - ภวัต เชี่ยวชาญเรือ' โฆษกพรรคอนาคตไกล ผู้มีอายุน้อยที่สุดใน ชุด กก.บห.

นอกจากบุคลากรที่ถ่ายเทมาจากพรรคพลังแล้ว ยุทธศาสตร์ที่ดูคล้ายคลึงอย่างปฏิเสธไม่ได้ คือการแสดงออกเชิงสัญญะที่ดูเหมือน ‘การเลียนแบบพรรคใหญ่’ ย้อนกลับไปดูที่ตราสัญลักษณ์ ‘พรรคพลัง’ ก็เหมือนกับโลโก้ ‘พรรคเพื่อไทย’ อย่างฟอนต์ตัวอักษรที่ดูอย่างกับ ‘พรรคพี่น้อง’ คลานตามกันมา ซึ่งรอบนี้ แม้ตราสัญลักษณ์พรรคอนาคตไกล จะไม่ได้เหมือนกับพรรคอื่นๆ แต่ ‘ชื่อ’ และ ‘สีเสื้อประจำพรรค’ อาจใกล้เคียงจนหลายคนแยกไม่ออก ว่า ‘เป็นเครือข่ายพรรคส้ม’ หรือไม่ ?

อีกประเด็น คือ การปาถกฐาพิเศษในวันเลือกตั้ง กก.บห. พรรคพลัง (เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2564) ทางพรรคได้มีการเชิญ ‘ศ.ดร.สมชาย ภคภาคส์วิวัฒน์’ กูรูนักเศรษฐศาสตร์ชื่อดัง มาให้ความรู้แก่สมาชิกพรรค ซึ่งวิทยากรที่เข้ามาบรรยาย ในวันเลือกตั้งกรรม กก.บห. อนาคตไกล ก็เป็นคนเดียวกันคือ ‘อาจารย์สมชาย’

ทั้งหมดทั้งมวลจึงคาดเดาได้ว่า ‘อนาคตไกล’ อาจมีความสัมพันธ์ หรือได้รับอิทธิพลการเมืองมาจาก ‘พรรคพลัง’ แบบเต็มๆ

SPB_Poad -05535.jpg
Photo: พรรคอนาคตไกล จัดปาถกฐาพิเศษเรื่องทิศทางและแนวโน้มทางด้านเศรษฐกิจ โดย 'รศ.ดร.สมชาย ภคภาสน์วิวัฒน์'

ตั้งพรรคย้อนเกล็ด ‘ก้าวไกล’

เมื่อทุกอย่างแลดู ‘ตั้งใจ’ ที่จะเลียนแบบ ‘อนาคตใหม่ - ก้าวไกล’ จึงเกิดคำถามขึ้นว่า ‘อนาคตไกล’ มีแผนทำการเมืองแบบไหน แล้วเป้าสำคัญคืออะไร ? SPACEBAR จึงชวน ‘รศ.ดร.โอฬาร ถิ่นบางเตียว’ รองคณบดี คณะรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา วิเคราะห์อย่างละเอียดยิบ ผ่านการชำแหละสาแหรก และองคาพยพที่มีให้เห็นอยู่ ณ ขณะนี้

อาจารย์โอฬาร เชื่อว่า พรรคอนาคตไกล มีความตั้งใจที่จะสร้างแบรนด์การเมืองให้คล้ายคลึงกับเครือข่าย ‘อนาคตใหม่ - ก้าวไกล’ แน่นอน แต่หาใช่ฐานะพรรคอะไหล่ เพราะเมื่อวิเคราะห์กันแล้ว ว่าแม้นพลพรรค 'เสื้อส้ม' จะทราบดีว่ากำลังตกที่นั่งลำบาก สุ่มเสี่ยงจะถูกยุบพรรคแค่ไหน (กรณีคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญเรื่องนโยบายหาเสียง ‘แก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112’) แต่บุคลากรและ สส. ของพรรคก้าวไกล ไม่มีเลือกที่จะย้ายเข้าสังกัดอนาคตไกลอย่างแน่นอน เพราะไม่มีอุดมการณ์ใกล้เคียงกันเลย

"การตั้งพรรคการเมืองแบบนี้ ผมคิดว่าเป็นความตั้งใจที่จะทำลายพรรคก้าวไกล และหากวันหนึ่งเกิดอุบัติเหตุทางการเมือง พรรคอนาคตไกลเนี่ยแหละจะสร้างความสับสนให้กับประชาชน อย่างสีเสื้อที่ส้มเหมือนกัน ซึ่งตรงนี้ไม่เป็นผลดีเลยสำหรับก้าวไกล มันจะมีแต่ผลเสียจากความงุนงงของฐานเสียงเท่านั้น อีกทั้วผมยังเชื่อว่าเขา (สส.ก้าวไกล) ต่อให้พรรคถูกยุบ ก็ไม่มีทางย้ายไปอยู่อนาคตไกลแน่นอน"

เมื่อถามถึงกรณีที่มีกลุ่มนักการเมืองลาออกจากพรรคพลัง เพื่อร่วมก่อตั้งพรรคอนาคตไกล มีนัยแฝงอยู่หรือไม่ นักวิชาการด้านรัฐศาสตร์ อธิบายว่า สิ่งที่เกิดขึ้น ถือเป็นลักษณะที่คล้ายกับ ‘การสร้างพรรคการเมืองขาย’ หรืออีกนัยคือ ‘การทำธุรกิจการเมือง’ ที่มักจะก่อตั้งพรรคใหม่ เพื่อรอให้กลุ่มการเมืองใหญ่ๆ มากว้านซื้อ กรณีต้นสังกัดตกอยู่ในภาวะวิกฤติ อย่าง ‘การถูกยุบพรรค’ ซึ่งถือเป็นการก่อตั้งพรรคการเมืองที่ค่อนข้างผิดธรรมชาติ เพราะไม่ได้เกิดจากการสร้างแนวร่วม หรือเชิดชูอุดมการณ์อย่างแท้จริง และส่วนใหญ่มักมีต้นตอมาจาก ‘นักการเมืองที่ไม่ประสบผลสำเร็จ’

โอฬาร.jpg
Photo: ‘รศ.ดร.โอฬาร ถิ่นบางเตียว’ รองคณะบดี คณะรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา

“ผมคิดว่ามันคือการตั้งพรรคเพื่อรอกลุ่มการเมืองมาเทคโอเวอร์ แต่เที่ยวนี้อาจมีความแตกต่างบ้าง เพราะมีการเคลื่อนไหวอะไรบางอย่าง อาทิ หากพรรคก้าวไกลโดนยุบ อนาคตไกล (ที่อาจรับงานใครมา) อาจทำหน้าที่สร้างความสับสนเพื่อทำลายพรรคก้าวไกลด้วย ซึ่งมันจะกระทบไปถึงความเชื่อมั่นที่มีต่อแนวร่วมอนาคตใหม่ทั้งหมด ประเด็นนี้ต้องจับตาครับ เพราะบางประเด็นเราไม่สามารถโยงทุกอย่างผ่านทางนิตินัยได้ แต่มันอาจออกมาจากพฤตินัยที่ชัดเจน จนเราไม่ต้องสงสัยอะไรอีกครับ”

โอฬาร ถิ่นบางเตียว กล่าวทิ้งท้าย

SPB_Poad -05769.jpg

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์