First-time-Srettha-answer-topic-parliament-SPACEBAR-Photo00.jpg
First-time-Srettha-answer-topic-parliament-SPACEBAR-Photo01.jpg
First-time-Srettha-answer-topic-parliament-SPACEBAR-Photo02.jpg
First-time-Srettha-answer-topic-parliament-SPACEBAR-Photo03.jpg

Photo Story: ประเดิม! ‘เศรษฐา’ ตอบกระทู้สภาครั้งแรก

26 ต.ค. 2566 - 07:07

  • ‘เศรษฐา’ สวมเนคไทสีส้ม-ถุงเท้าเขียว ตอบกระทู้ถามสดแรกของสภาฯ ถึงผลการเดินทางเยือนหลายประเทศ มั่นใจดึงการลงทุนเพิ่ม พร้อมแผนช่วยแรงงานไทยในอิสราเอล

  • ย้ำขันน็อตปราบพนันออนไลน์-แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ระบุเข้าตรวจงานที่ ‘สตช.’ วันนี้ช่วงบ่าย

  • พร้อมรับมุข ‘กระทู้ชงหวาน’ จ่อตรวจระดับน้ำตาล

First-time-Srettha-answer-topic-parliament-SPACEBAR-Photo00.jpg
First-time-Srettha-answer-topic-parliament-SPACEBAR-Photo01.jpg
First-time-Srettha-answer-topic-parliament-SPACEBAR-Photo02.jpg
First-time-Srettha-answer-topic-parliament-SPACEBAR-Photo03.jpg

ผู้สื่อข่าวรายงานถึงการประชุมสภาฯ ที่มีพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาฯ คนที่สอง ทำหน้าที่ประธานที่ประชุมช่วงกระทู้ถามสด ซึ่ง เศรษฐา ทวีสิน นายกฯ และรมว.คลัง เข้าชี้แจงต่อที่ประชุมสภาฯ เป็นครั้งแรก โดยในวาระกระทู้ถามสดพบว่า มี 3 กระทู้ ได้แก่ พรรคประชาธิปัตย์ 1 กระทู้ เกี่ยวกับการปราบพนันออนไลน์ และพรรครวมไทยสร้างชาติ เรื่อง การเดินทางไปเยือนต่างประเทศของนายกฯ และ พรรคก้าวไกล 1 กระทู้ เกี่ยวกับการบริหารงานตำรวจ และกระบวนการยุติธรรมในการพิจารณาคดีทางการเมืองตามลำดับ แต่เมื่อถึงเวลาพิจารณากระทู้ถามสด พิเชษฐ์ ได้แจ้งว่า ให้พิจารณากระทู้ถามสดของพรรคก้าวไกล ที่ตั้งถามโดย ชัยธวัช ตุลาธน สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล โดย เศรษฐาได้มอบหมายให้ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรมเป็นผู้ตอบคำถามแทน ทำให้ชัยธวัช หารือว่า นายกฯ เตรียมตอบกระทู้ถามสดของ 2 พรรคการเมือง แต่ไม่ยอมตอบกระทู้ถามสดของชัยธวัช และเลื่อนกระทู้ถามสดของชัยธวัชเป็นอันดับแรก  จึงจะไม่ถามกระทู้ จนกว่าที่นายกฯ จะมาตอบ และยอมให้เลื่อนกระทู้ถามสดอยู่ลำดับสุดท้าย 

ขณะที่สส.พรรคก้าวไกลอภิปรายสนับสนุนชัยธวัช โดยวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายพร้อมยกข้อบังคับการประชุมสภาฯ ยืนยันว่า นายกฯ ต้องตอบกระทู้ถามสดด้วยตนเอง เว้นแต่มีเหตุจำเป็น ดังนั้นเมื่อมาแล้วขอให้มาตอบกระทู้ อย่าหนีสภา

ทำให้พิเชษฐ์ ชี้แจงว่า เวลา 08.30 น. ผู้ถามกระทู้สดประชุมร่วมกับเจ้าหน้าที่ พบว่า 3 กระทู้เข้าเกณฑ์เป็นกระทู้สดได้ และได้รับปากกับชัยธวัช ให้อยู่ในลำดับสาม แต่การพิจารณากระทู้ใดจะอยู่ลำดับใด ขึ้นอยู่กับผู้ตอบกระทู้พร้อมหรือมาถึงรัฐสภาหรือไม่ และผู้ถามพร้อมหรือไม่ และเมื่อชัยธวัชออกจากห้องประชุม แต่พบว่า อัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ แจ้งว่า อยู่ระหว่างเดินทางจากราชบุรีมายังรัฐสภา ทำให้การเรียงลำดับขึ้นอยู่กับเจ้าหน้าที่ที่ต้องประสานไปยังผู้ถามและผู้ตอบกระทู้

“หากชัยธวัช ไม่ถามตามข้อบังคบัที่ 155 กระทู้ถามนั้นต้องตกไป หากถาม ต้องถามรมว.ยุติธรรม ตามที่นายกฯ มอบหมายที่ถูกต้องเป็นหนังสือ แต่หากช่วงดังกล่าวนายกฯมาถึงและจะตอบสามารถทำได้” พิเชษฐ์ ชี้แจง 

อย่างไรก็ตาม การตอบโต้ในเรื่องดังกล่าวระหว่างพรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทยยังคงดำเนินต่อไป แม้พิเชษฐ์จะวินิจฉัยว่า นายกฯ ทำถูกต้องตามข้อบังคับ ทั้งนี้ สส.พรรคก้าวไกล ทั้ง พริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ และธีรัจชัย พันธุมาศ สส.กทม.พรรคก้าวไกล ยืนยันว่า พิเชษฐ์ทำผิดข้อบังคับและไม่เป็นกลาง ทำให้พิเชษฐ์ตอบโต้ว่า “หากผมจะเป็นกลางต้องทำอย่างไร” ทำให้ธีรัจชัย กล่าวว่า “นายกฯต้องมาตอบ หากไม่มาต้องเป็นมติ ครม.” ซึ่งพิเชษฐ์ ย้ำว่า ให้ดูข้อบังคับ หากกระทู้นี้ไม่ถามจะถูกปัดตกไป และเรียกให้ชัยธวัช ดำเนินการตามวาระถามกระทู้สด พร้อมระบุว่าหากไม่ตั้งคำถามกระทู้จะตกไปตามข้อบังคับ

ทำให้ชัยธวัช กล่าวว่า เพื่อความสบายใจ จะไม่รอนายกฯ แต่มองว่า รมว.ยุติธรรมไม่อยู่ในฐานะที่จะตอบได้ ดังนั้น จึงไม่ถามกระทู้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่ชัยธวัช แจ้งต่อที่ประชุมว่า ไม่ประสงค์ตอบกระทู้ถามสด และเป็นลำดับการตั้งกระทู้ถามสดของพรรครวมไทยสร้างชาติ จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง แจ้งต่อที่ประชุมว่า เศรษฐา ทวีสิน นายกฯ ได้เดินมายังรัฐสภาแล้วและขอให้รอสักครู่

จากนั้น เศรษฐา ได้ตอบกระทู้ถามสดต่อที่ประชุมสภาฯ เป็นครั้งแรก ตั้งแต่มีสภาฯ ชุดที่ 26 ซึ่งตั้งถามถึงการเดินทางเยือนต่างประเทศของนายกฯว่าได้อะไรบ้าง โดยอัครเดช ทั้งนี้ ประโยคแรก เริ่มต้นว่า “ผมให้เกียรติสภาฯ เสมอ หากไม่ติดภารกิจจำเป็นจะมาตอบกระทู้และข้อสงสัยของสส. เพราะเป็นหน้าที่ของฝ่ายบริหารที่มีต่อฝ่ายนิติบัญญัติ วันนี้ผมใส่เนคไทสีส้มถุงเท้าสีเขียว” หลังจาก อัครเดช ถามแซวเรื่อง วันนี้สวมถุงเท้าสีอะไร

จากนั้น เศรษฐา ชี้แจงถึงการเดินทางเยือนต่างประเทศในช่วงที่ผ่านมาในหลายประเทศว่า  ได้พูดคุยถึงการค้าขาย สินค้าเกษตร คุยกับภาคเอกชน ภาคอุตสาหกรรม ซึ่งมีความสนใจต้องการลงทุนในประเทศ รวมถึงการเปิดตลาดสินค้าเพิ่มเติมในประเทศไทย นอกจากนี้ ยังมีประเด็นการหารือตอนที่เดินทางเยือนซาอุดิอาระเบีย เพื่อขอให้ช่วยเจรจาในการปล่อยตัวประกันในเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้น ในหลายประเทศที่เดินทางไป ยืนยันว่า ขณะนี้ประเทศไทยพร้อมแล้ว เปิดแล้ว และดีแล้วที่จะมาลงทุน

เศรษฐา ชี้แจงด้วยว่า การรัฐบาลที่ผ่านมาเจรจากับภาคเอกชนให้ลงทุนในการผลิตรถยนต์อีวี ก็ไปสานต่อ เพื่อให้ลงทุนด้านซัพพลายเชน และลงทุนด้านอื่นๆ  เพื่อส่งเสริมเอสเอ็มอีในประเทศด้วย ในด้านองค์ความรู้ ซึ่งทีมงานจะดำเนินงานต่อไป ส่วนการเจรจาเอฟทีเอ ได้รับความช่วยเหลือจากปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกฯ และรมว.การต่างประเทศ ให้เร่งเจรจาและปิดดีลให้ได้ เพื่อให้สบายใจว่าในการลงทุนจะมีสนธิสัญญาและผลักดันการค้าระหว่างสองประเทศ

เศรษฐา ยังตอบคำถามถึงมาตรการช่วยเหลือแรงงานไทยที่เดินทางกลับประเทศหลังเผชิญเหตุการณ์ความรุนแรงในประเทศอิสราเอลว่า ขณะนี้มีแรงงานที่ต้องการเดินทางกลับประเทศ 8,000 คน และอพยพออกมาได้ยังเหลืออีก 4,000 คน ทั้งนี้ พบปัญหาใหญ่ใน 4-5 วันที่ผ่านมาว่า นายจ้างเสนอเงินเพิ่มเพื่อให้แรงงานไทยอยู่ต่อ ดังนั้นการแก้ปัญหา รัฐบาลจะใช้แผนซ้อนแผน คือ การหามาตรการช่วยเหลือและเยียวยาแรงงานที่อพยพออกจากพื้นที่ โดยได้ประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงต่างประเทศที่ต้องการแรงงานไปทำงาน ซึ่งพบว่าได้ค่าแรงที่สูงเช่นกัน 

เศรษฐา ชี้แจงด้วยว่า มาตรการเยียวยาของรัฐบาล ตามที่ได้ข้อเสนอจากรัฐมนตรีที่เกกี่ยวข้อง คือ การช่วยแรงงานที่เป็นหนี้สิน ซึ่งเกิดจากการจ่ายค่านายหน้าเพื่อให้ได้ไปทำงาน เฉลี่ย 1.5 แสนบาท โดยจะหารือกับธกส. เพื่อให้สินเชื่อพิเศษเพื่อใช้หนี้ ผ่อนจ่ายระยะยาว 30 ปี ดอกเบี้ย 0.1% ขณะที่กระทรวงแรงงานสร้างแรงจูงใจในการจ้างงานสำหรับแรงงานที่มาจากอิสราเอลเพราะถือว่าเป็นแรงงานคุณภาพ ซึ่งรัฐบาลพร้อมทำเต็มที่เพื่อนำแรงงานไทยกกลับมาให้เร็วที่สุด

“ยืนยันว่ารัฐบาลทำเต็มที่ เพื่อพาแรงงานกลับมาโดยเร็ว โดยไม่อยากใหคำนึงเรื่องเงิน มาก่อนเรื่องชีวิต และต้องเผชิญความเสี่ยง อย่างไรก็ดีจากเหตุที่เกิดขึ้น รัฐบาลตระหนักถึงสภาพเศรษฐกิจ  และฐานะคนไทย ดังนั้นสิ่งที่ต้องทำคือการยกกระดับชีวิตตนไทยทุกคน” เศรษฐา ชี้แจง

เศรษฐา ยังได้ตอบกระทู้ถามสดต่อที่ประชุมสภาฯ  เรื่อง มาตรการของรัฐบาลเพื่อปราบปรามการพนันออนไลน์และแก๊งหลอกหลวงหรือคอลเซ็นเตอร์ ตั้งถามโดยชัยชนะ เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ว่า  ในวันนี้ (26 ต.ค.) ช่วงบ่าย จะหารือกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กำชับให้จัดการเรื่องดังกล่าวอย่างเด็ดขาด รวมถึงการจับกุมผู้ที่กระทำผิดกฎหมายในต่างประเทศมาดำเนินการ  โดยที่ผ่านมาได้ตั้งชุดและทีมที่ติดตามแก้ปัญหา ผ่านการตั้งศูนย์ต่อต้านอาชญากรรมออไนลน์ (เอโอซี) เพื่อเป็นช่องทางการรับเรื่องและให้เกิดความร่วมมืออย่างครบวงจร 

ทั้งนี้ หลังจากถามกระทู้ถามสด ชัยชนะได้ยื่นหนังสือถึงนายกฯ ที่หน้าห้องประชุม และจากนั้น ประเสริฐ จันทรรวงทอง รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ชี้แจงในประเด็นที่ถูกพาดพิงว่า ไม่สามารถปราบปรามบัญชีม้าได้ว่า ในส่วนของบัญชีม้าหน่วยงานสามารถปราบปรามได้ แต่เนื่องจากบัญชีดังกล่าวเกิดอย่างต่อเนื่องทำให้ต้องใช้การปราบปรามที่ทำอย่างต่อเนื่องเช่นกัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนการถามกระทู้ ชัยชนะ กล่าวแซวขึ้นว่า “ผมขอบคุณนายกฯ ที่ให้ความสำคัญกับสภาฯ ก่อนจะเข้าคำถาม ขอให้ทีมงานนายกฯ เอายาเบาหวานให้นายกฯ ทานด้วย เพราะกระทู้ก่อนหน้าที่ถามโดยอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ ชงหวานเหลือเกิน และขอให้เจ้าหน้าที่สภาฯ ฉีดยาฆ่ามดด้วย เพราะมดขึ้นเต็มสภาระหว่างกระทู้ถามสดก่อนหน้านี้”

ทำให้เศรษฐา กล่าวตอบว่า “เพิ่งตรวจร่างกายไป ไม่ได้เป็นความหวานและความดัน ส่วนคำชมของอัครเดช นั้นผมจะไปตรวจว่าน้ำตาลขึ้นหรือไม่”

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์