กรณีปรากฏข่าวพบกลุ่มทุนต่างชาติมีการกว้านซื้อคอนโดมิเนียมใจกลางเมือง ก่อนนำมาปล่อยให้เช่ารายวันแก่นักท่องเที่ยวต่างชาติผ่าน Airbnb โดยนำกุญแจและคีย์การ์ด ไปซ่อนไว้ตามตู้เก็บของตามจุดต่างๆ
ประเด็นนี้ อนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุว่า แอปพลิเคชัน Airbnb มีความสะดวก และง่ายต่อการใช้งาน โดยนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่การจองที่พักแบบระยะสั้น ทำให้มีการเข้า – ออกของคอนโดมิเนียมจากนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก และหลายครั้งนักท่องเที่ยวมีพฤติกรรมไม่เหมาะสม สร้างความเดือดร้อนรำคาญแก่ผู้อยู่อาศัย โวยวาย เสียงดัง สูบกัญชา และใช้ทรัพย์สินส่วนกลางของคอนโดมิเนียมเสียหาย
รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยังระบุว่า การกว้านซื้อคอนโดมิเนียมของกลุ่มทุนต่างชาติ และพฤติกรรมการพยายามหลีกเลี่ยงกฎหมาย การปล่อยเช่าคอนโดมิเนียมรายวันด้วยการซ่อนคีย์การ์ดหรือกุญแจห้องไว้ตามตู้เก็บของตามสถานที่ต่างๆ เพื่อนำมาปล่อยให้เช่ารายวันแก่นักท่องเที่ยวต่างชาติผ่าน Airbnb โดยไม่ได้รับอนุญาตเปิดเป็นโรงแรม ถือเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายตาม พระราชบัญญัติ โรงแรม พ.ศ. 2547 มีโทษปรับสูงสุด 20,000 บาท และปรับรายวัน 10,000 บาท จนกว่าจะเลิกดำเนินกิจการ
อีกทั้ง ตามข้อบังคับบุคคลอาคารชุด หรือ คอนโดมิเนียมส่วนใหญ่ มีการระบุไว้อย่างชัดเจนว่า ห้ามปล่อยเช่ารายวัน สำหรับสถานการณ์ปัจจุบัน เพื่อเป็นการควบคุมและตรวจสอบสถานที่คอนโดมิเนียมที่มีการถูกนำมาปล่อยให้เช่าแก่นักท่องเที่ยวต่างชาติ รัฐบาลโดยกระทรวงมหาดไทย เร่งรัดสั่งการให้กรมการปกครองลงพื้นที่เข้าตรวจสอบสถานที่คอนโดมิเนียมย่านต้องสงสัยแล้ว
หากพบว่ามีการกระทำความผิดให้ดำเนินการตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด พร้อมขยายผลถึงเครือข่ายกลุ่มนายทุนต่างชาติทุกกลุ่ม ไม่ว่าเครือข่ายผู้กระทำผิดจะเป็นคนไทยหรือคนต่างชาติต้องได้โทษทางกฎหมายอย่างถึงที่สุด