บรรยากาศงานเลี้ยงพรรคร่วมรัฐบาลช่วงท้าย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ได้ขึ้นกล่าวว่า “วันนี้ได้มีการ เอาป้ายโลโก้ของแต่ละพรรคมาติดในงานทั้ง 11 พรรค แต่ตอนนี้เรามีพรรคเล็กเข้ามาร่วมรัฐบาลแล้ว ทั้งที่หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยดูแลอยู่ก็มีหลายพรรค แต่พลังประชารัฐก็ไม่อยากจะน้อยหน้าพรรคภูมิใจไทย ก็เอามาดูแลหลายพรรคเหมือนกัน ซึ่งก็ 20 กว่าพรรคแล้วที่ร่วมรัฐบาลในตอนนี้”
“ซึ่งงานเลี้ยงวันนี้เป็นความรับผิดชอบของพรรคพลังประชารัฐ พร้อมพูดติดตลกว่า ขณะนี้เราได้ยึดพรรคเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยที่ขณะนั้นนายอนุทินได้ตะโกนแซวว่า พรรคประชาเพื่อไทย”
จากนั้น ร.อ.ธรรมนัส ได้กล่าวต่อว่า วันนี้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ได้มอบหมายให้ พล.ต.อ.พัชราวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรฯ ในฐานะประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรค มาเป็นตัวแทนในการต้อนรับ แต่เนื่องจากท่าน ได้รายงานมาในตอนเย็นว่าไม่สบาย ก็เลยได้มอบหมายให้สันติ พร้อมพัฒน์ รมช.สาธารณสุข พร้อมตน และ อรรถกร ศิริลัทธยากร รมช.เกษตรฯ มาต้อนรับคณะรัฐมนตรีนายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคและเลขาพรรคต่างๆ รวมถึงผู้บริหารพรรคทุกๆคน ซึ่งวันนี้อาจจะเป็นการสร้างมาตรฐานใหม่ พรรคต่อไปที่จะเป็นเจ้าภาพให้ดูวันนี้ให้ดี
จากนั้น เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า วันนี้เรามาในฐานะพี่น้องในบรรยากาศสบายสบายๆ พลังประชารัฐได้สร้างมาตรฐานในงานเลี้ยง คราวหน้าก็คงต้องมีมาตรฐานที่สูงขึ้นอีก อย่างที่เห็นว่าบนกระดานมีหลายพรรคและมีหลายพรรคที่ไม่ได้โชว์บนกระดานนี้ แสดงให้เห็นว่ารัฐบาลนี้มีมากกว่า 314 เสียงแน่นอนว่าการอยู่ด้วยกัน
เมื่อสักครู่ได้มีการพูดคุยกันว่าการทำงานร่วมกันอาจจะตึงเครียดบ้าง ผมอาจจะดุบ้าง พูดจาไม่เข้าหูบ้าง แต่เรามีกว่า 314 เสียง ตนยืนยันว่าทำงานด้วยกัน เป็นน้ำหนึ่งอันเดียวกัน มีการพูดคุยกันอย่างเป็นผู้ใหญ่ แม้จะมีเสียงเล็ดลอดออกไปบ้าง
แต่วันนี้พี่น้องสื่อมวลชนมาอยู่ที่นี่แล้ว ก็ขอให้ดูบรรยากาศเอาเองว่าเราจะสมัครสมานสามัคคีกันหรือไม่ ดูจากรอยยิ้ม วิธีการพบปะพูดคุยกัน ผมมั่นใจว่า 314 เสียงเป็นอย่างน้อยนั้น มีความแน่นแฟ้น ไม่มีการแตกแถว และเรามาที่นี่ทำงานกันทุกคน เพื่อประโยชน์ของพี่น้องประชาชน ทั้งการทำงานในทำเนียบรัฐบาล และในกระทรวงต่างๆ ในการลงพื้นที่ซึ่งเท่าที่ตนติดตามการเมืองมา ก็ไม่เคยเห็นรัฐบาลไหนลงพื้นที่เยอะเท่ารัฐบาลนี้ รัฐมนตรีทุกคน ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพยายามลงพื้นที่พบปะพูดคุยกับประชาชน เอาปัญหามาถกกัน และเชื่อว่ารัฐบาลนี้จะแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ พร้อมขอบคุณพรรคพลังประชารัฐอีกครั้งสำหรับการจัดงานในครั้งนี้
จากนั้น นายกฯ ได้นำแกนนำพรรคร่วมรัฐบาล ร่วมกันถ่ายรูปหมู่ โพสต์ท่าทำมินิฮาร์ทและควงแขนจับมือแสดงถึง ความสามัคคีและเอกภาพเป็นหนึ่งเดียว ก่อนที่นักข่าวจะแซวว่า จับมืออย่างนี้จะอยู่ครบ 4 ปีหรือไม่ ทำให้นายกรัฐมนตรีตอบกลับว่า ”ครับแน่นอน“
อย่างไรก็ตาม แกนนำพรรคร่วมรัฐบาลกล่าวภายหลังทานข้าว แพทองธาร กล่าวว่า วันนี้บรรยากาศดีมาก อาหารอร่อย บรรยากาศสนุกสนาน มีการร้องเพลงเล็กน้อย
ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ต้องการแสดงให้เห็นถึงความรักความสามัคคีของพรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งจะมีการจัดงานกันทุกเดือน โดยในเดือนหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ จะเป็นเจ้าภาพ
เมื่อถามว่า แต่ขณะนี้มีเรื่องข้อกฎหมายกัญชาที่พรรคเพื่อไทยและภูมิใจไทยเห็นไม่ตรงกัน ในวงอาหารวันนี้สามารถหาจุดสมดุลร่วมกันได้หรือไม่ อนุทิน กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องเล็ก และพูดคุยกันในระดับกระทรวงเท่านั้น ไม่ต้องเข้า ครม. ซึ่งอยู่ในคณะกรรมการป้องกันยาเสพติด โดยในวันนี้ไม่มีการพูดคุยในเรื่องนี้ เราคุยแต่เรื่องความมั่นคงของรัฐบาล จะทำอย่างไรให้ประโยชน์สูงสุดกับประชาชน
เมื่อถามย้ำว่าอะไรทำให้รู้สึกว่ารัฐบาลไม่มั่นคง ภูมิธรรม เวชชยชัย รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์ กล่าวว่า ยังไม่รู้สึกเลยว่าไม่มั่นคง ก็จะตอบคำถามได้อย่างไร จากนั้น ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า “อย่าทำให้บรรยากาศเครียดเลย” พร้อมกับหัวเราะ
เมื่อถามว่า กรณีที่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวภายในงานเลี้ยงว่ามีพรรคเล็กมาร่วมกว่า 20 พรรค หมายความว่าอย่างไร ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ตามจริงพรรคเล็กมาร่วมอยู่แล้ว สังเกตได้จากการโหวตงบประมาณ ซึ่งมีจำนวนพรรคร่วมรัฐบาลเพิ่มขึ้น
เมื่อถามว่ากรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ว่าภายหลังการพ้นโทษเดือน ส.ค.นี้ พร้อมที่จะมาช่วยงานรัฐบาลเต็มตัว แพทองธาร กล่าวว่า “ทุกอย่างเป็นประโยชน์เพื่อประเทศชาติ คุณทักษิณเป็นนายกฯ มาหลายปี มีประสบการณ์มากมาย ซึ่งอิ๊งค์เชื่อว่า ท่านอายุ 75 แล้ว น่าจะมีวิชั่นหรือความรู้ ประสบการณ์ดีๆ ที่สามารถแบ่งปันให้พี่น้องประชาชน ให้พรรคร่วมรัฐบาลและพรรคเพื่อไทยได้ เชื่อว่า รัฐมนตรีภายในงานเลี้ยงวันนี้ ก็เคยทำงานกับท่านมาก่อน ตอนท่านเป็นนายกฯ เพราะฉะนั้นจึงไม่ใช่คนอื่นคนไกลอยู่แล้ว”
เมื่อถามย้ำว่าเคย ทักษิณเคยเปรยหรือไม่ว่าอยากเข้ามาช่วงใด แพทองธาร ว่า ท่านพูดอยู่เสมอว่าอยากเห็นประเทศไทยพัฒนาไปข้างหน้า อยากเห็นเด็กไทยมีโอกาส มีการศึกษาที่ดี ท่านจะมองภาพอย่างคนที่เคยเป็นนายกรัฐมนตรี คือห่วงใยประเทศตลอด ตอนนี้ก็ยังเป็นอย่างนั้น ก็ดูความเหมาะสมของอนาคตว่าจะเป็นอย่างไร
