government-kicks-off-gives-out-the-first-lot-of-ten-thousand-baht-SPACEBAR-Photo00.jpg
government-kicks-off-gives-out-the-first-lot-of-ten-thousand-baht-SPACEBAR-Photo01.jpg
government-kicks-off-gives-out-the-first-lot-of-ten-thousand-baht-SPACEBAR-Photo02.jpg
government-kicks-off-gives-out-the-first-lot-of-ten-thousand-baht-SPACEBAR-Photo03.jpg
government-kicks-off-gives-out-the-first-lot-of-ten-thousand-baht-SPACEBAR-Photo04.jpg
government-kicks-off-gives-out-the-first-lot-of-ten-thousand-baht-SPACEBAR-Photo05.jpg
government-kicks-off-gives-out-the-first-lot-of-ten-thousand-baht-SPACEBAR-Photo06.jpg
government-kicks-off-gives-out-the-first-lot-of-ten-thousand-baht-SPACEBAR-Photo07.jpg
government-kicks-off-gives-out-the-first-lot-of-ten-thousand-baht-SPACEBAR-Photo08.jpg
government-kicks-off-gives-out-the-first-lot-of-ten-thousand-baht-SPACEBAR-Photo09.jpg

‘นายกฯ อิ๊งค์’ คิกออฟ! แจก ‘เงินหมื่น’ ล็อตแรก ‘กลุ่มเปราะบาง’

25 ก.ย. 2567 - 04:59

  • ‘แพทองธาร’ คิกออฟโอน ‘เงินหมื่น’ ล็อตแรก ‘กลุ่มเปราะบาง 14.55 ล้านคน’

  • หวังกระตุ้นเศรษฐกิจ พร้อมชูมอตโต ‘คนไทยมีกิน มีใช้ มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี’ ยันเดินหน้าเฟสต่อไป

government-kicks-off-gives-out-the-first-lot-of-ten-thousand-baht-SPACEBAR-Photo00.jpg
government-kicks-off-gives-out-the-first-lot-of-ten-thousand-baht-SPACEBAR-Photo01.jpg
government-kicks-off-gives-out-the-first-lot-of-ten-thousand-baht-SPACEBAR-Photo02.jpg
government-kicks-off-gives-out-the-first-lot-of-ten-thousand-baht-SPACEBAR-Photo03.jpg
government-kicks-off-gives-out-the-first-lot-of-ten-thousand-baht-SPACEBAR-Photo04.jpg
government-kicks-off-gives-out-the-first-lot-of-ten-thousand-baht-SPACEBAR-Photo05.jpg
government-kicks-off-gives-out-the-first-lot-of-ten-thousand-baht-SPACEBAR-Photo06.jpg
government-kicks-off-gives-out-the-first-lot-of-ten-thousand-baht-SPACEBAR-Photo07.jpg
government-kicks-off-gives-out-the-first-lot-of-ten-thousand-baht-SPACEBAR-Photo08.jpg
government-kicks-off-gives-out-the-first-lot-of-ten-thousand-baht-SPACEBAR-Photo09.jpg

แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในงานเปิดตัว (Kick Off) การโอนเงินโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ปี 2567 ผ่านผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและคนพิการ ณ ตึกสันติไมตรี (หลังใน) ทำเนียบรัฐบาล โดยมีบรรดารองนายกฯ และรัฐมนตรี ตลอดจนหน่วยงานเกี่ยวข้องเข้าร่วมงานครั้งนี้

แพทองธาร กล่าวว่า ที่ผ่านมาประเทศไทยประสบกับปัญหาทางเศรษฐกิจมาอย่างเรื้อรังนานหลายปี ปัจจัยที่ทำให้เกิดปัญหาเศรษฐกิจเหล่านี้ไม่ได้มาจากแค่ปัจจัยภายในประเทศเท่านั้น ยังมีปัญหาที่เกิดขึ้นทั่วโลก ซึ่งเศรษฐกิจทั่วโลกฟื้นตัวช้าลงกว่าปกติ มากไปกว่านั้น ยังมีในเรื่องของปัญหาความขัดแย้ง และปัญหาอุทกภัยในปีนี้ ถือเป็นปัญหาที่รุนแรงที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ก็ว่าได้

หลายปัจจัยที่กล่าวมาข้างต้น เป็นเหตุผลหลักๆ ที่ทำให้เศรษฐกิจฝืดเคืองและไม่สามารถที่จะเพิ่มการลงทุนได้ เราจะเห็นได้ชัดเงินจากระบบของเราหายไป ตอนนี้เงินหมุนเวียนถือว่าแทบจะเป็นสิ่งที่หายาก เงินไม่หมุนเศรษฐกิจฟืดเคือง ทำให้การลงทุนน้อยลง อุตสาหกรรมใหม่ๆ ที่จะเกิดขึ้นในประเทศไทย การลงทุนต่างๆ ก็น้อยลงอย่างมาก

แน่นอนปัญหาที่เกิดขึ้นกลุ่มคนที่รับผลกระทบมากที่สุดนั่นคือ ‘กลุ่มเปราะบาง’ ที่มีรายได้น้อย รวมไปถึงผู้พิการ ซึ่งในอนาคต ประเทศไทยจะต้องเปลี่ยนโครงสร้างทางด้านเศรษฐกิจทั้งระบบ ทำให้เศรษฐกิจต้องมีความพร้อมต่อการลงทุนและความพร้อมต่ออุตสาหกรรมใหม่ๆ ที่จะเกิดขึ้นในประเทศไทย เพื่อให้คนไทยมีความมั่นคงและหารายได้อย่างยั่งยืน

นโยบายต่างๆ ที่รัฐบาลเน้นย้ำในการทำงานที่ผ่านมา ตั้งแต่รัฐบาลที่แล้วของ เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี 1 ปีที่ผ่านมา จนถึงวันนี้ เราเน้นย้ำในเรื่องของนโยบายด้านเศรษฐกิจ เพราะทราบว่า นั่นคือสิ่งที่จำเป็นจะทำให้ประชาชนสามารถมีชีวิตความเป็นอยู่และความสุขมีสิ่งที่ดีขึ้นมา ทำให้ชีวิตพัฒนาไปข้างหน้าได้มากขึ้น

แต่ละนโยบายอาจต้องใช้เวลาเป็นเดือน หรือบางนโยบายต้องใช้เวลาเป็นปี เพื่อที่จะทำให้นโยบายนั้นต่อเนื่อง และเข้าถึงพี่น้องประชาชนจริงๆ ซึ่งทั้งหมดนี้ คือความท้าทายของรัฐบาลและต้องใช้ศักยภาพทางการเมืองด้วย เพื่อให้นโยบายนั้นต่อเนื่องพัฒนาถึงมือประชาชนจริงๆ แน่นอนทั้งหมดนี้ คือความท้าทายของรัฐบาลที่ต้องเปลี่ยนทั้งหมดนี้ให้เป็นโอกาสเพื่อพี่น้องประชาชน

แพทองธาร ชินวัตร

ที่ผ่านมา รัฐบาลให้ความสำคัญเรื่องเศรษฐกิจ และมีหลายนโยบายที่ได้ออกไปแล้ว เช่น นโยบายพักหนี้เกษตรกร ซึ่งในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติออกไป แล้วและทำเป็นปีที่ 2 ไม่ว่าจะเป็นการลดดอกเบี้ย และที่เห็นชัดเจนคือการส่งเสริมด้านการท่องเที่ยวผ่านนโยบายฟรีวีซ่า จะเห็นได้ชัดตัวเลขการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดในปีที่ผ่านมา แต่การท่องเที่ยวกระตุ้นเศรษฐกิจไม่มากพอที่จะสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งประเทศได้

วันนี้ที่ประเทศไทยจะถูกกระตุ้นครั้งใหญ่ โดยเงินสดจะถึงมือคนไทย ระบบเศรษฐกิจจะถูกเติมเงินหมุนเวียนกว่า 145,552 ล้านบาท เป็นการสร้างพายุหมุนทางเศรษฐกิจลูกใหญ่ลูกแรก ที่จะทำให้ประชาชนได้รับประโยชน์อย่างแท้จริง และแน่นอนเงินก้อนนี้จะสามารถต่อลมหายใจให้กับพี่น้องประชาชนรายเล็กที่กำลังเดือดร้อนอยู่ในขณะนี้ นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจรอบนี้จะถึงมือพี่น้องประชาชนกลุ่มเปราะบางจำนวน 14.55 ล้านคน โดยแบ่งเป็นผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐจำนวน 12.40 ล้านคน และกลุ่มคนพิการจำนวน 2.15 ล้านคน ทุกคนจะได้รับเงินสด 10,000 บาท ผ่านบัญชีพร้อมเพย์ของผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และผ่านช่องทางการรับดอกเบี้ยเดิมของผู้พิการ ไม่ว่าจะเคยผ่านบัญชีธนาคารหรือเงินสดผ่านองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ก็จะได้รับเงินในวิธีการเดิม ที่สำคัญเงินจำนวนนี้ไม่มีเงื่อนไขใดๆ เมื่อถึงเมื่อประชาชนแล้วจะสามารถใช้จ่ายได้ทันที แน่นอนเราจะมีการทยอยโอนเงินเป็นเวลา 4 วันเริ่มตั้งแต่วันนี้ ก็จะครบทั้ง 14.55 ล้านคน

แพทองธาร ชินวัตร

นโยบายนี้จะช่วยกระจายโอกาสเศรษฐกิจให้กับพี่น้องประชาชน ได้เพิ่มโอกาส สร้างความหวัง และนำคุณภาพชีวิตที่ดีมาให้พี่น้องประชาชน ทำให้พี่น้องประชาชน “มีกิน มีใช้ มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี” อย่างที่เคยได้กล่าวไว้

เงิน 10,000 บาทจำนวนนี้ จะสามารถสร้างโอกาสสร้างชีวิตใหม่ให้กับพี่น้องประชาชนได้ และรัฐบาลมีความเชื่อมั่นในศักยภาพพี่น้องประชาชนว่าจะมีการใช้เงินนี้อย่างมีประโยชน์ หรือบางครอบครัวที่ได้มากกว่า 1 คนก็สามารถนำเงินหมื่นมารวมกันได้เพื่อต่อยอดธุรกิจ เพื่อสร้างธุรกิจ สร้างโอกาสใหม่ๆ ให้กับตัวเองและครอบครัวได้

รัฐบาลมีความเชื่อมั่นว่า พี่น้องประชาชนจะสามารถใช้เงินนี้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด และขอเน้นย้ำอีกครั้งว่า นโยบายนี้ เป็นหนึ่งในนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งจะมีนโยบายในการกระตุ้นเศรษฐกิจมาอีกมากมายแน่นอน

แพทองธาร กล่าวด้วยว่า สิ่งที่ทุกคนรอคอยและถามถึงรัฐบาลยังคงเดินหน้าเรื่อง ‘โครงการดิจิทัลวอลเล็ต’ ต่อ เพื่อจะทำให้การกระตุ้นเศรษฐกิจที่สำคัญ เป็นการวางรากฐานเศรษฐกิจดิจิทัลให้กับคนไทยด้วย เพื่อจะได้เป็น Digital ID เป็นตัวเชื่อมระหว่างรัฐบาลและประชาชน

จะทำให้ธุรกรรมต่างๆ ที่ประชาชนทำเกิดความสะดวกรวดเร็วขึ้น เชื่อมกับรัฐได้ง่ายขึ้น โปร่งใสมากขึ้น ตรวจสอบได้ง่ายมากขึ้น ถือเป็นการวางรากฐานตั้งแต่วันนี้ ซึ่งเรากำลังพัฒนาระบบนี้อยู่ อีกหน่อยจะใช้เรื่องของการเยียวยาที่รัฐจะสามารถโอนตรงสู่ประชาชนได้

นี่คือสิ่งที่เราจะวางเศรษฐกิจดิจิทัลเอาไว้ เพื่อให้ประชาชนมีความสะดวกสบายมากขึ้น และรวดเร็วในการรับค่าเยียวยาต่างๆ จากรัฐบาลได้ง่ายขึ้น และประชาชนสามารถติดตามข่าวสารตรวจสอบข้อมูลได้ทุกช่องทางของกระทรวงการคลัง และกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ทั้งหมดนี้ จะเป็นเป้าหมายสำคัญเพื่อจัดสร้างสภาพแวดล้อมที่ได้เอื้อกับชีวิตพี่น้องให้มีความหวังมากขึ้น มีรอยยิ้มมากขึ้น และเป็นการต่อยอดให้พี่น้องได้มีโอกาสในชีวิตเพิ่มมากขึ้น และแน่นอนสร้างความเท่าเทียมในด้านโอกาสและหวังเป็นอย่างยิ่งว่า นโยบายนี้และอีกหลายๆ นโยบายรัฐบาลที่ฟื้นเศรษฐกิจให้กลับมาดีเหมือนเดิม ทำให้พี่น้องประชาชนกลับมามีความสุขอีกครั้ง

แพทองธาร ชินวัตร

จากนั้น ได้มีการเปิดวิดีโอของประชาชนบางส่วนที่ได้รับเงิน โดยประชาชนได้กล่าวขอบคุณรัฐบาล และระบุว่า จะนำเงินไปใช้ในการอุปโภคบริโภคภายในครอบครัว บางส่วนนำไปใช้ในการประกอบอาชีพ และใช้ทางการเกษตร  

นอกจากนี้ แพทองธาร ยังได้วิดีโอคอลสดพูดคุยกับประชาชนจากทางบ้านที่ได้รับเงิน 10,000 บาท รายแรกที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยสอบถามว่า ได้รับเงินหรือยัง? และจะนำไปใช้อะไร? รัฐบาลดีใจที่ได้มอบเงินให้ ขอให้มีความสุขมากๆ ขณะที่ประชาชนขอบคุณนายกฯ และจะนำเงินมาใช้ในชีวิตประจำวัน

ส่วนอีกรายเป็นชายผู้พิการจากจังหวัดสมุทรสาคร ซึ่ง แพทองธารสอบถามว่า ได้รับเงินตอนกี่โมง? ประชาชนตอบว่า เวลา 03.15 น. แพทองธารจึงกล่าวกับรัฐมนตรีที่ร่วมงานว่า “ตีสามสิบห้า เลขเด็ดหรือเปล่า” ก่อนจะถามต่อไปว่า “ดีใจไหม? รัฐบาลก็ดีใจ แล้วจะเอาเงินไปใช้ทำอะไรบ้าง? เล่าให้ฟังนิดนึง” คู่สนทนาจึงตอบว่า จะนำไปใช้ซื้อของจำเป็นของคนพิการ และข้าวสารอาหารแห้ง

ทางด้าน แพทองธาร ได้บอกว่า “ดีนะ 10,000 บาท ซื้อได้เยอะเลย ขอให้มีความสุข สุขภาพแข็งแรง” จากนั้น ชายผู้พิการได้กล่าวขอบคุณรัฐบาลและ วราวุธ ศิลปอาชา รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ที่ได้ช่วยเหลือ

ขณะที่อีกราย เป็นชาวบ้านจังหวัดอุตรดิตถ์ ซึ่งสัญญาณการวิดีโอคอลไม่ค่อยได้ยินเสียง แพทองธารจึงยกนิ้วโป้งขึ้น พร้อมกล่าวว่า “ถ้าดีใจให้ยกนิ้วโป้ง” ชาวบ้านจึงยกนิ้วโป้งตอบกลับ ก่อนที่แพทองธาร จะส่งมือสัญลักษณ์ไอเลิฟยู (I Love You) พร้อมกล่าวว่า “ขอให้โชคดี”

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์