‘ก้าวไกล’ ชี้ปรับเงื่อนไข ‘ดิจิทัลวอลเล็ต’ สะท้อนรัฐบาลเดินเข้าสู่ ‘ทางตัน’

26 ต.ค. 2566 - 06:54

  • ‘ก้าวไกล’ ชี้ปรับเงื่อนไข ‘ดิจิทัลวอลเล็ต’ สะท้อนรัฐบาลมีเงินจำกัด เดินเข้าสู่ทางตัน

  • เตือนทบทวนจุดประสงค์ ระวังลงเอยเหมือน ‘บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ’ ไร้กระตุ้นเศรษฐกิจ แค่เยียวยาค่าครองชีพ

  • ลั่นรอบนี้ ‘ฝ่ายค้าน’ ยังใจดี ปล่อยผ่านไปก่อน เปิดสมัยประชุมหน้าเจอจองกฐิน ‘เรียกชี้แจง’

govt-adjusted-conditions-digital-wallets-reflects-that-reaching-dead-end-SPACEBAR-Hero.jpg

ในสถานการณ์ที่นโยบาย ‘ดิจิทัลวอลเล็ต’ ของรัฐบาล กำลังถูกฟาดทุกทิศทุกทาง หนึ่งในผู้ที่ออกมาวิพากษ์วิจารณ์เรื่องนี้คือ ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ที่พูดถึงกรณีรัฐบาลมีการปรับลดเงื่อนไขว่า ปัญหาสำคัญที่จำเป็นต้องมีการปรับหลักเกณฑ์โดยการที่คัดกรองคนรวยออก ก็ชัดเจนแล้วว่า รัฐบาลน่าจะมีปัญหาเรื่องงบประมาณที่จะนำมาใช้กับนโยบายนี้แน่นอน จึงจำเป็นต้องทำจำนวนคนที่ได้รับผลประโยชน์ให้ลดลง 
 

ซึ่งถึงแม้ว่าจะลดลงแล้ว ก็ยังมีคนที่จะได้รับอยู่ที่ประมาณ 43-49 ล้านคนอยู่ดี ดังนั้นโอกาสที่จะใช้เงินงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 ก็มีค่อนข้างน้อย และมีข้อเสนอออกมาอีกว่าจะใช้งบผูกพันปีละ 1 แสนล้านบาท ภายใน 4 ปี ซึ่งยิ่งชัดเจนว่างบประมาณปี 2567 มีที่ว่างให้ทำนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต เพียงแค่ 1 แสนล้านบาทเท่านั้น

“กรณีจำเป็นที่ต้องผูกพันไปถึง 4 ปี ก็เท่ากับว่าจะมีร้านค้าบางส่วนที่ไม่ได้เงินสดไปทันที และต้องรอแรกเป็นหลายรอบปีงบประมาณ ก็จะกระทบกับร้านค้า อาจจะไม่มีแรงจูงใจมากพอ ถ้าหากต้องการเงินสดมาหมุนเวียนในร้านค้าของตนเอง ก็อาจจะไม่เข้าร่วมโครงการด้วยซ้ำไป”

govt-adjusted-conditions-digital-wallets-reflects-that-reaching-dead-end-SPACEBAR-Photo01.jpg

ปรับเงื่อนไข ‘ดิจิทัลวอลเล็ต’ ตอกย้ำโครงการมาถึงทางตัน ชี้อุปสรรคชิ้นใหญ่คืองบประมาณ แนะบอกประชาชนตรงไปตรงมาว่าติดปัญหาอะไร

ศิริกัญญา กล่าวด้วยว่า สิ่งที่พูดนั้นตอกย้ำว่าโครงการดิจิทัลวอลเล็ต มาถึงทางตันแล้ว เนื่องจากไม่สามารถให้ธนาคารของรัฐ (ธนาคารออมสิน) ดำเนินโครงการนี้ไปก่อนได้ จึงติดข้อจำกัดหลักที่เป็นตอใหญ่คือ เรื่องแหล่งที่มาของเงิน ซึ่งคิดว่าการปรับเงื่อนไขครั้งนี้ ต้องพิจารณาด้วยว่ายังคงสามารถทำได้ตามวัตถุประสงค์ดั้งเดิมผลที่คาดว่าจะได้รับดั้งเดิมหรือไม่ ถ้าเงื่อนไขเปลี่ยนไปหมดแล้ว อาจจำเป็นที่ต้องทบทวนวิธีการใหม่ หรือทบทวนนโยบายใหม่ทั้งหมด 

ส่วนการปรับเงื่อนไข ทำให้จำนวนผู้ได้รับลดลงมากน้อยอย่างไรและสะท้อนอะไรบ้างนั้น ศิริกัญญา มองว่าเป็นการลดไปได้นิดเดียว สำหรับคนที่มีเงินเดือนเกิน 25,000 บาท รวมถึงเงื่อนไขบัญชีเงินฝาก ลดไปได้ 13 ล้านคน

“ถ้าเกิดเงินเดือนเกิน 50,000 บาท ยิ่งลดไปได้น้อยใหญ่เลย ลดไปได้แค่ 7 ล้านคน ดังนั้น เกณฑ์นี้อาจจะไม่ได้ช่วยอะไรมากนักในแง่ของการที่จะประหยัดงบประมาณลง ก็เป็นโจทย์ใหญ่ที่รัฐบาลต้องคำนึงถึงว่าจะทำอย่างไรกันต่อ”

ศิริกัญญา กล่าวอีกว่า ถ้าสุดท้าย รัฐบาลกลับไปทางเลือกที่ 3 ที่ให้เฉพาะคนที่ได้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ มองว่าอาจไม่ได้กระตุ้นเศรษฐกิจด้วยซ้ำ และอาจเป็นโครงการประคับประคองเยียวยาค่าของชีพคนที่มีรายได้น้อย หรือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐแทน จะกลายเป็นการเปลี่ยนรูปแบบวัตถุประสงค์ของโครงการเป็นชัดเจน พร้อมย้ำถึงคำว่า ‘ทบทวน’ หมายถึงอาจให้เปลี่ยนวิธีการ มากกว่ายกเลิกโครงการ ซึ่งเข้าใจดีว่าสัญญาที่เคยให้ไว้กับประชาชนก็สำคัญ

“ดิฉันเข้าใจว่าเพื่อไทยได้หาเสียงไว้ แต่ก็สามารถที่จะบอกกับประชาชนอย่างตรงไปตรงมาว่า ติดปัญหาในเรื่องอะไร ดิฉันคิดว่าประชาชนน่าจะเข้าใจได้ว่า รัฐบาลได้พยายามอย่างเต็มที่แล้ว แต่มีอุปสรรคชิ้นใหญ่คืองบประมาณ”

govt-adjusted-conditions-digital-wallets-reflects-that-reaching-dead-end-SPACEBAR-Photo02.jpg

ระวังลงเอยเหมือน ‘บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ’ ไม่ใช่กระตุ้นเศรษฐกิจ แค่เยียวยาค่าครองชีพ ลั่นรอบนี้ ‘ฝ่ายค้าน’ ยังใจดี ปล่อยผ่านไปก่อน เปิดสมัยประชุมหน้าเจอจองกฐิน ‘เรียกชี้แจง’

ส่วนสุดท้ายจะเหมือนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐหรือไม่นั้น ศิริกัญญา มองว่า ต้องรอดูว่าจะเป็นรูปแบบนั้นหรือไม่ ตอนนี้งบประมาณที่ไปทบทวนในแต่ละหน่วยงานของรัฐทำการเสร็จแล้ว และเริ่มทยอยส่งกลับมาที่สำนักงบประมาณ ดังนั้น สำนักงบประมาณมีข้อมูลอยู่ในมือแล้วว่าจะสามารถที่จะตัดลดงบหรือไกล่เกลี่ยงบประมานปี 2567 ได้เท่าไหร่

“ดังนั้น ถ้าไม่ทำงบประมาณผูกพันข้ามปีทางออกทางเดียว ก็คือให้เฉพาะคนที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ มันก็จะไม่ใช่โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจอีกต่อไป เป็นเพียงแค่เยียวยาค่าของชีพ”

ทั้งนี้ ฝ่ายค้านจะยังรอให้มาติผลการประชุมกรรมการดิจิทัลวอลเล็ต ชุดใหญ่ออกมาก่อน เรายังใจดีให้รัฐบาลกลับไปคิดทวนลงรายละเอียดทุกอย่าง และให้คณะกรรมการชุดใหญ่มีข้อเสนอกับคณะรัฐมนตรี เราจะได้ทำการตรวจสอบกันต่อไป หลายกรรมาธิการของสภาผู้แทนราษฎรก็รอที่จะพูดคุยอยู่ ถึงแม้ว่าจะเป็นช่วงปิดสมัยประชุม แต่หากเปิดสมัยประชุมเราก็จะมีการพูดคุยเรื่องนี้กันอย่างแน่นอน พร้อมย้ำสื่อมวลชนให้สอบถามร้านค้าว่า หากมีการทยอยจ่ายเงินสดไม่ได้ทันที ร้านค้าเข้าร่วมโครงการอยู่หรือไม่

“ตอนนี้ แหล่งเงินจากธนาคารออมสินไม่สามารถใช้ได้แล้ว ถ้าจะใช้ธนาคารออมสินต้องแก้ไขกฏหมาย ส่วนการออก พ.ร.ก.กู้เงินเหมือนช่วงโควิดนั้น เป็นทางออกที่ง่ายที่สุด แต่ขณะเดียวกัน รัฐธรรมนูญเขียนไว้ชัดเจนว่า พ.ร.ก. จะออกได้เมื่อมีความจำเป็นเร่งด่วนเท่านั้น ซึ่งต้องกลับไปถามสำนักบริหารหนี้สารธารณะ ว่าจะยอมหรือไม่ ในกรณีที่ไม่ได้มีความจำเป็นเร่งด่วนและเสี่ยงต่อการขัดต่อรัฐธรรมนูญ บอกว่าอาจเป็นการฆ่าตัวตายได้”

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์