‘แพทองธาร ชินวัตร’ นายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี ครั้งแรก นัดพิเศษ เสร็จสิ้นว่า คณะรัฐมนตรี รู้สึกสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้คณะรัฐมนตรี เข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณตนรับหน้าที่ พร้อมย้ำว่า หลังจากนี้ทุกกระทรวง จะยังคงดำเนินกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 6 รอบ 72 พรรษาต่อเนื่องตลอดทั้งปี
นายกฯ ยังมั่นใจว่า จะสามารถประสานพลังทุกคนให้มีพลังที่จะแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนให้ทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพใช้ความสามารถของตัวเองอย่างเต็มที่ ยืนยันว่า คณะรัฐมนตรีจะทำงานอย่างหนักเพื่อสร้างโอกาสให้กับคนไทย พร้อมจะทำงานอย่างแน่วแน่มั่นคงเพื่อชีวิตที่ดีกว่าของประชาชน และพร้อมสร้างความเชื่อมั่นว่า จะทำงานอย่างเป็นทีม ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่วันนี้ทันที ทั้งนี้ นโยบายส่วนใหญ่จะสานต่อจากรัฐบาลของ ‘เศรษฐา ทวีสิน’ และจะนำข้อมูลต่างๆ มาปรับให้เข้ากับสถานการณ์ปัจจุบันและแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี เพราะปัญหาของประเทศเป็นปัญหาที่เรื้อรังและท้าทาย จึงมีนโยบายทั้งระยะสั้นและระยะ เช่น การแก้ไขปัญหาหนี้ เสริมสร้างสร้างสรรค์รวมถึง Soft Power โครงสร้างคมนาคม และระบบสาธารณูปโภค รวมถึงการกระตุ้นเศรษฐกิจที่รัฐบาลเน้นย้ำมาตลอด ส่งเสริมด้านการท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง เพราะการท่องเที่ยวจะสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งระบบได้ ขณะเดียวกัน ยังดูแลสินค้าเกษตร ซึ่งถือเป็นสิ่งที่สำคัญที่จะเน้นย้ำต่อไป สำหรับปัญหาน้ำท่วม คณะรัฐมนตรีเล็งเห็นตรงกันว่า เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นทุกปีและกระทบกับชีวิตของประชาชนรัฐบาลจึงจะแก้ไขปัญหานี้ให้เข้มข้นและจริงจังมากขึ้น
สำหรับการประเมินผลการทำงานของคณะรัฐมนตรีก็จะต้องติดตามต่อเนื่อง ต้องทำงานแข่งกับเวลา ส่วนการดำเนินงานของแต่ละกระทรวงก็ขึ้นอยู่กับแต่ละกระทรวงว่า จะดำเนินการอย่างไรอย่างไร โดยจะประเมินระยะ 3 เดือนแรกก่อน เบื้องต้นวางแผนว่า จะเชิญรัฐมนตรีของแต่ละกระทรวงหมุนเวียนเข้ามาหารือเป็นรายกระทรวงในทุกสัปดาห์ เพื่อติดตามงานให้เป็นไปตามแผน แต่เชื่อว่าทุกคนพยายามทำให้เป็นไปตามนโยบายและวิธีการนี้จะทำให้เกิดการกระตุ้นให้มีผลงานมากขึ้น
เมื่อถามว่า นโยบายที่จะแถลงต่อรัฐสภา สิ่งที่แตกต่างจากรัฐบาลของเศรษฐาและจะสู้รบกับนิติสงครามอย่างไร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐมนตรีทุกคนมีความตั้งใจอยู่แล้ว และมีทีมกฎหมาย มีผู้มีประสบการณ์ ช่วยกันตีความในข้อกฎหมาย ทุกอย่างต้องมีความตั้งใจและดูอย่างรอบด้าน ต้องการทำงานให้ครบ 3 ปี เพื่อให้เกิดความต่อเนื่องในการทำงาน แม้จะเปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรีคนใหม่ก็ยังเป็นนายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทย ดังนั้น นโยบายก็ยังเป็นนโยบายเดิมที่จะสานต่อ ขณะเดียวกัน ก็เป็นความเห็นของพรรคร่วมรัฐบาล ที่จะหารือว่า จะปรับแก้ให้เข้ากับสถานการณ์ปัจจุบัน ส่วนการปรับแก้ก็จะสามารถทำให้สามารถดำเนินนโยบายได้อย่างเต็มที่ และส่วนใหญ่เป็นนโยบายที่ใช้ในในการหาเสียงทั้งพรรคเพื่อไทยและพรรคร่วมรัฐบาล
นายกรัฐมนตรี ยังย้ำว่า นโยบายส่วนใหญ่เป็นเหมือนเดิม และมั่นใจว่าจะสามารถทำได้อย่างแน่นอน
ส่วนที่มีคนจองคิวกฐินไว้จำนวนมาก นายกรัฐมนตรีถึงกับอึ้งกับคำถามของผู้สื่อข่าว โดยนายกฯ ได้หัวเราะแห้ง พร้อมตอบว่า คิวกฐินเลยเหรอคะ นี่คือคำเปรียบเทียบใช่หรือไม่ แค่สื่อมวลชนถามก็รู้สึกสงสารเราแล้ว ตั้งแต่เกิดมา ยังไม่เคยมีคดี มาถึงจุดนี้ แล้วมีคดีความก็จะพยายามรับมือให้ดีที่สุด จริงๆ ไม่อยากมีคดี เพราะลูกยังเล็ก
สำหรับกรณีที่หลายคนปรามาดว่า ระบอบทักษิณกลับมาอีกแล้ว นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จะไม่ขอตอบเรื่อง ทักษิณ ชินวัตร อีกแล้ว เพราะ ต้องเดินไปข้างหน้าวิสัยทัศน์ที่ดี ไม่ว่าจะมาจากใครก็ตาม อายุเท่าไหร่ก็ตาม วิสัยทัศน์ที่ดี คือสิ่งที่ดี เพราะฉะนั้นขอตอบแค่นี้
สำหรับโครงการดิจิทัลวอลเล็ต นายกรัฐมนตรี ระบุว่า เรื่องของไทม์ไลน์โครงการมอบหมายให้ จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เป็นผู้ชี้แจงรายละเอียด แต่ยืนยันว่า การกระตุ้นเศรษฐกิจจะเกิดขึ้นทันทีอย่างแน่นอน เพราะเป็นข้อแรกที่รัฐบาลจะต้องเน้นย้ำและผลักดันต่อไป
นายกรัฐมนตรี ยังตอบคำถามสื่อมวลชนต่างประเทศ ที่สอบถามถึงกรณีที่หลายประเทศมีความกังวลต่อสถานการณ์ทางการเมืองของไทย ดังนั้น นายกรัฐมนตรี จะสื่อสารกับต่างชาติเกี่ยวกับอนาคตของประเทศไทย และเสถียรภาพทางการเมืองของประเทศอย่างไร โดยนายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า พร้อมที่จะทำให้ประเทศกลับมามีอนาคต และในวันนี้ ในฐานะนายกรัฐมนตรี ก็พร้อมที่จะเดินหน้า ซึ่งเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมานั้น ก็เป็นความโชคร้ายของเศรษฐา ซึ่งพวกเราเข้าใจทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้น แต่พวกเราก็พร้อมที่จะทำทุกอย่างให้ดีที่สุด เพื่อให้รัฐบาลอยู่ครบวาระ และส่งต่อนโยบายของรัฐบาลไปสู่ประชาชน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมคณะรัฐมนตรีนัดพิเศษในวันนี้ ได้มีมติเห็นชอบให้ นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เป็นเลขาธิการนายกรัฐมนตรี
