ที่ทำเนียบรัฐบาล แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เรียกประชุมติดตามความคืบหน้า ความคืบหน้าเหตุอาคาร สตง. ถล่ม โดยมี พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมประชุม
หลังใช้เวลาประชุม ประมาณ 1 ชั่วโมง นายกรัฐมนตรี ได้แถลงข่าวว่า วันนี้ (18 เม.ย.) ได้รับรายงานจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกรมสอบสวนคดีพิเศษ ถึงความคืบหน้าแล้ว พอได้คุยรายละเอียดทุกอย่างแล้ว ต้องขอความร่วมมือจาก สตง. และทุกหน่วยงานที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ที่ต้องให้ความร่วมมือกับตำรวจมากกว่านี้ เพราะยังมีในเรื่องเอกสารหลักฐานสำคัญ ที่ขอความร่วมมือไปแต่ยังได้รับความร่วมมือค่อนข้างช้า
ย้ำว่า เรื่องนี้รอไม่ได้ เราต้องหาหลักฐานและเหตุผลให้ครบ เพื่อจะได้มีข้อมูลที่รับผิดชอบต่อชีวิตที่เสียไป รวมถึงต้องตรวจสอบเรื่องการผิดสัญญา แต่ไม่มีการยกเลิกสัญญาในเวลาที่กำหนด ตั้งแต่เดือนมกราคม 68 แต่กลับมีการร้องขอเรื่องการยกเลิกสัญญา จึงต้องขอดูเอกสารเพิ่มเติมในส่วนนี้ด้วย
🔴 กำชับกัน ‘บุคคล’ ที่เกี่ยวข้องออกจาก ‘คกก.ตรวจสอบฯ’ ย้ำรัฐบาลไม่ปล่อยผ่านเรื่องนี้แน่
นายกรัฐมนตรี ยังขอให้แต่ละหน่วยงานคัดกรองบุคคลที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับเหตุดังกล่าวออกจากคณะกรรมการสืบสวนสอบสวน เพื่อไม่ให้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการสืบสวนด้วย
ส่วนเรื่องการตรวจสอบมาตรฐานของเหล็ก และคุณภาพของปูนที่ไม่ได้มาตรฐาน รวมถึงและการแก้ไขแบบ และการแก้ไขแบบปล่องลิฟต์ ที่เป็นจุดศูนย์กลางของตึกโดยไม่มีการเสริมเหล็ก ทำให้เกิดความเสี่ยงของอาคาร รวมถึงการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวและการฮั้วประมูล ตอนนี้กรมสอบสวนคดีพิเศษ อยู่ระหว่างการตรวจสอบ ซึ่งเรื่องนี้จะนำไปกำชับในที่ประชุม ครม. ต่อไป
“ขอให้ประชาชนมั่นใจว่าเรื่องนี้รัฐบาลไม่ได้ปล่อยมือเลย และไม่มีแพลนว่าจะปล่อยด้วย ในส่วนตัวของดิฉันเอง ดิฉันรับเรื่องนี้ไม่ได้กับการที่จะมีคนเสียชีวิต ไปด้วยเหตุผลที่มีตึกถล่ม 1 ตึก แต่เข้าใจได้อยู่แล้วถ้ามีแผ่นดินไหวเหมือนที่เมียนมา ที่แผ่นดินไหวกันทั้งหมดและรุนแรง มันห้ามไม่ได้ แต่อันนี้มีแค่ 1 ตึก ดิฉันพูดมาตั้งแต่วันแรกมีแค่1 ตึก และดิฉันติดตามเรื่องนี้อยู่อย่างจริงจัง”
นายกฯ กล่าว
🔴 เผย ‘ตร.’ จ่อออกหมายจับ ผู้ที่เกี่ยวข้องกับเหตุตึก สตง. ถล่ม ยันเรื่องนี้ต้องมีคนรับผิดชอบ!
ส่วนการทำโมเดลจำลองเหตุตึกถล่ม ของ 4 สถาบันการศึกษาและกรมโยธาธิการและผังเมือง ที่วางกรอบไว้ 90 วัน นายกรัฐมนตรี ชี้แจงว่า เป็นการหาเหตุผลโดยละเอียด ซึ่งข้อมูลที่มีอยู่ตอนนี้ยังสรุปอะไรไม่ได้ ต้องรอรวบรวมข้อมูลจากทุกฝ่ายก่อน แต่ยืนยันว่าอีกไม่นาน หากตำรวจมีหลักฐานเพียงพอ คาดว่าจะออกหมายจับได้เลย ย้ำว่าไม่นานจะเริ่มออกหมายจับ
นายกรัฐมนตรี ยังให้ความมั่นใจว่า เราทำทุกอย่างตามหลักฐาน และจะตรวจสอบเรื่องข้อสงสัยที่อาจมีการทุจริตเรื่องการจัดซื้อจัดจ้างด้วย ส่วนคนใน สตง. ต้องรับผิดชอบกับเหตุดังกล่าวมากน้อยแค่ไหน ต้องว่ากันตามพยานหลักฐาน ส่วนเรื่องที่สังคมกังวลว่าสุดท้ายนี้ เหตุการณ์นี้อาจไม่มีใครรับผิดชอบ นายกฯ ย้ำว่า
“มันเป็นไปไม่ได้ที่จะไม่มีคนผิดเลยในเรื่องนี้ มันทราบอยู่แล้วว่าต้องมีบางจุดที่ผิดไปจากทุกตึก มันชัดเจน การที่จะมีศูนย์คนที่ไม่ต้องรับผิดชอบเลยเป็นไปได้ยากมาก” นายกฯ กล่าว
🔴 พบ ‘วิศวกร’ ถูกปลอมลายเซ็น หลายราย
ส่วนประเด็นการปลอมลายเซ็นผู้ออกแบบและวิศวกร นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ได้รับรายงานว่าบางท่าน ถูกปลอมลายเซ็น แต่เจ้าหน้าที่ต้องตรวจสอบว่ามีการปลอมแปลงจริงหรือไม่
🔴 เรียก ‘ชัชชาติ-ปลัดกทม.’ แจงปมไม่ปล่อยหน่วยงานอื่นเข้าเก็บหลักฐาน ส่งผลทำงานยาก-ล่าช้า
ทั้งนี้ มีรายงานข่าวว่าจากเหตุการณ์ตึกถล่มดังกล่าว กทม. ในฐานะผู้บัญชาการเหตุการณ์ ซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่ แต่ไม่ยอมให้หน่วยงานใดเข้าไปเก็บหลักฐาน โดยเฉพาะกองพิสูจน์หลักฐาน ไม่สามารถเข้าไปเก็บหลักฐานได้อย่างอิสระ จะต้องมีการขออนุญาต กทม. ก่อนทุกครั้งทำให้การเก็บหลักฐานเป็นไปอย่างล่าช้า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำงานได้ยาก ภายหลังคุยกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกรมสอบสวนคดีพิเศษ นายกฯ จึงได้เรียก ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. และ พญ.วันทนีย์ วัฒนะ ปลัดกทม. เข้าชี้แจงในเรื่องดังกล่าว
