ที่รัฐสภา พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เปิดเผยถึงการเตรียมความพร้อมอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีว่า ในส่วนของกระทรวงยุติธรรม พร้อมชี้แจงในประเด็นที่ถูกพาดพิง ส่วนประเด็นชั้น 14 ของ ทักษิณ ชินวัตร มองว่าเป็นเรื่องเก่าที่เกิดขึ้นมาเป็นปีแล้ว และตอนนี้เรื่องดังกล่าวอยู่ในการตรวจสอบขององค์กรอิสระ และ ป.ป.ช. แล้ว ยืนยันเรื่องที่เกิดขึ้นเราทำทุกอย่างถูกต้องตามกฎหมาย
พร้อมบอกว่า ประเด็นเรื่องชั้น 14 ในฐานะที่เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม สามารถชี้แจงให้ฝ่ายค้านเข้าใจได้ เพราะบางเรื่ืองรัฐมนตรีควรเป็นผู้ชี้แจงเอง แต่ก็จะทำสรุปข้อมูลให้นายกรัฐมนตรีได้รับทราบด้วย ย้ำว่า ส่วนตัวไม่กังวลกับการอภิปรายไม่ไว้วางใจในครั้งนี้ เพราะรัฐบาลไม่ได้ทำอะไรผิด
“สำหรับข้อมูลชั้น 14 นอกจากนายกรัฐมนตรี ผมในฐานะรัฐมนตรี ก็สามารถชี้แจงได้ เพราะบางเรื่องรัฐมนตรีควรชี้แจงเอง แต่ก็จะทำสรุปประเด็นส่งให้นายกรัฐมนตรีด้วย ยืนยันว่า ไม่กังวล และผมมองว่าการที่ถูกอภิปราย ฝ่ายรัฐบาลได้เปรียบ เพราะรัฐบาลอยู่กับข้อมูล ถ้ารัฐบาลนั้นไม่ทุจริต”
— พ.ต.อ.ทวี กล่าว
ส่วนการที่ฝ่ายค้านตั้งประเด็นว่ารัฐบาลมีดีลแลกประเทศกับผลประโยชน์ของครอบครัวชินวัตร ที่ผ่านมามีการแลกผลประโยชน์อย่างที่ฝ่ายค้านกล่าวหาหรือไม่ โดย พ.ต.อ.ทวี ยืนยันว่า ไม่มี สิ่งที่ฝ่ายค้านกล่าวหาเป็นความพยายามที่ต้องการทำลายรัฐบาล
- ยันไม่ได้จัดฉากพบ ‘อุยกูร์’ ว่าปลอดภัยดี ย้อน ‘กัณวีร์’ เป็นมุสลิมหรือเปล่า
นอกจากนี้ พ.ต.อ.ทวี ยังระบุถึงการเดินทางไปเยี่ยมเยือนชาวอุยกูร์ที่รัฐบาลไทยส่งกลับมณฑลซินเจียง ประเทศจีนว่า รัฐบาลจีนอำนวยความสะดวกให้คณะเราเป็นอย่างดี แต่เนื่องจากพื้นที่ซินเจียงมีความกว้างใหญ่ และชาวอุยกูร์กระจ่ายอยู่ในหลายเมือง จึงทำให้คณะผู้แทนไทยต้องกระจายกันไปแต่ละจุด โดยทางการจีนได้เตรียมล่ามไว้ค่อยอำนวยความสะดวก และเปิดโอกาสให้สื่อไทยทำข่าวอย่างอิสระ และจากการลงพื้นที่ไม่พบว่ามีชาวอุยกูร์ถูกบังคับหรือทรมาน
“เท่าที่เราไปดูทุกคนก็ยิ้มแย้ม ที่สำคัญคือ คนที่เป็นพ่อเป็นแม่ ทุกคนพยายามจะโผเข้ากอดตน ที่เอาลูกเขามาคืน ส่วนลูกก็ดีใจ และมีคนหนึ่งที่มีลูก ลูกเขาโตแล้ว เขาก็ดีใจที่พ่อเขากลับมา”
— พ.ต.อ.ทวี กล่าว
ส่วนข้อกังวลของทางสหรัฐฯ และสหภาพยุโรป (EU) ในเรื่องนี้ พ.ต.อ.ทวี ระบุว่า กระทรวงการต่างประเทศ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะเป็นผู้ชี้แจง แต่ในส่วนของกระทรวงยุติธรรมยืนยันว่า เราได้ทำตามกฎหมาย และเห็นว่ามนุษย์ทุกคนมีคุณค่ามีความสำคัญ มีศักดิ์ศรี
“วันนี้เหมือนให้เขาไปมีชีวิตใหม่ที่เขาอยู่ในห้องกักขังในประเทศไทยมา 11 ปี และในห้อง มีพันกว่าคน จึงไม่อยากให้คำว่าสิทธิมนุษยชนหายไปแต่เอาความสะใจหรือ สร้างความเกลียดชังมาพูดซึ่งเป็นสิ่งไม่ดี เพราะรัฐบาลไทยนึกถึง ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ประโยชน์ของประเทศชาติ และประโยชน์ของส่วนรวม”
— พ.ต.อ.ทวี กล่าว
ส่วนเรื่องที่ กัณวีร์ วีสืบแสง สส.พรรคเป็นธรรม ตั้งข้อสังเกตเรื่องภาพผู้หญิงชาวอุยกูร์ ซึ่งเป็นชาวมุสลิมมาโผกอดผู้ชาย พ.ต.อ.ทวี ย้อนถามว่าคุณกัณวีร์ เป็นมุสลิมหรือเปล่า เพราะแต่ละพื้นที่ก็มีอัตลักษณ์ของเขา และการที่เข้ามาสวมกอดผู้ชาย เราก็ป้องกันเต็มที่แล้ว แต่เขาต้องการเข้ามาแสดงความรู้สึกและร้องไห้