แจงปมเที่ยว ‘ฮ่องกง’ บอก ยังเป็น ‘แม่และภรรยา’

19 เมษายน 2567 - 10:31

ink-19apr2024-SPACEBAR-Hero.jpg
  • ‘แพทองธาร’ แจงดราม่าพาลูกเที่ยวฮ่องกงช่วงสงกรานต์ บอก นอกจากเป็นประธาน Soft Power แล้วยังเป็น ‘แม่และภรรยา’ ขอช่วยใจดีกันบ้าง การทำทุกบทบาทเต็มที่ ก่อนไปเดินสายเปิดงานตั้งแต่ 12 เม.ย.

  • ยันไม่เคยมีพูดคุยเปลี่ยนตัว ‘ปธ.สภาฯ’ บอกปรับ ครม. ให้ไปถามนายกฯ ปัดตอบพอใจการทำงานของรัฐมนตรี หรือถึงเวลาเปลี่ยน

แพทองธาร ชินวัตร ประธานกรรมการพัฒนาชอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์เรื่องเดินทางไปฮ่องกงในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ทั้งที่เป็นจุดเริ่มต้นของ Soft Power แต่กลับไม่อยู่ร่วมงานว่า ความจริงอยู่ร่วมกิจกรรมตั้งแต่วันที่ 12 เม.ย. แล้ว โดยไปเปิดงานตามที่ต่างๆ และการจัด Soft Power ปีนี้เราวางยุทธศาสตร์ขึ้นมาว่า จะจัดงานแบบไหนและกระจายงานไปให้กระทรวงต่างๆรวมถึงททท. ในการจัดเทศกาลครั้งนี้ ซึ่งเราก็เต็มที่ตั้งแต่ตอนประชุมมาเรื่อยๆ และวางแผนว่าแม่งาน Soft Power แต่ติดเรื่องงบประมาณดังนั้นปีหน้าก็มีบทเรียนแล้วว่าจะทำอย่างไรต่อ

แพทองธาร กล่าวต่อว่า นอกจากการเป็น ประธาน Soft Power และหัวหน้าพรรคแล้ว ส่วนตัวยังเป็นคุณแม่และภรรยา ก็จะพยายามทำทุกหน้าที่ให้สุดความสามารถจริงๆ แม้ว่าการทำงานที่ยุ่ง ก็ได้ทำความเข้าใจกับคนในครอบครัวเสมอ และคิดว่า เป็นช่วงปิดเทอม จึงอยากใช้เวลากับครอบครัว ครั้งนี้จึงเป็นโอกาสที่ดีและงานก็ออกมายิ่งใหญ่ เพราะส่วนตัวสนับสนุนทุกทางที่สนับสนุนได้

“ดังนั้นเรื่องของดราม่าต่างๆ และเฮทสปีชต่างๆ ก็อยากให้เข้าใจ เพราะคิดว่า ผู้หญิงทุกคนทราบดีว่า การแบ่งเวลา ไม่ได้แบ่งได้ดีทุกวัน แต่มีวันไหนที่เราสามารถจะทำให้ได้ดีแล้ว ก็ขอความเข้าใจด้วย ขอให้ใจดีกันนิดนึง การทำงาน ก็ต้องเติมพลังไปด้วยและพลัง ของอิ๊งค์ก็คือครอบครัว จะดราม่าอย่างไรก็พร้อมรับฟัง และเมื่อถึงมาหน้าที่ของอิ๊งค์ ทำเต็มที่แน่นอน ไม่ว่าจะเป็นบทบาทไหนก็ตาม” แพทองธาร กล่าว

แพทองธาร ยังกล่าวถึงกรณีที่โพสต์ภาพครอบครัวพร้อมหน้า ทั้งทักษิณ ชินวัตร และคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ว่า ตอนนั่งกินข้าว ตอนนั่งรับประทานอาหารร่วมกันในงานวันเกิดของพินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ ซึ่งตนเองกับพี่สาวหันไปมองหน้ากันว่า คุณพ่อนั่งอยู่หัวโต๊ะ ซึ่งเป็นความไม่ชิน แต่ก็รู้สึกดีใจ เพราะก่อนหน้านี้ ตอนที่รับประทานอาหารร่วมกัน ก็มักจะพูดคุยกันเสมอว่า จะถ่ายรูปส่งไปให้ คุณพ่อดูจะดีไหม แต่พี่สาวก็บอกว่า ไม่ควรส่งไป เพราะเกรงว่า คุณพ่อซึ่งไม่ได้อยู่ด้วย จะเหงา ปีนี้ไม่ต้องแล้ว เพราะพ่ออยู่ตรงนี้ ซึ่งเป็นโมเมนต์ของครอบครัว และความจริงครอบครัวอิ้งค์สนิทกันมาก พึ่งพาซึ่งกันและกัน

ด้านนพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองประธานการพัฒนาชอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ กล่าวถึงกรณีที่แพรทองธารไม่ได้อยู่ร่วมงานสงกรานต์ว่า เรื่องการเตรียมงานการออกแบบการเตรียม ออกแบบยุทธศาสตร์ได้คุยมานานมากแล้วตั้งแต่ปีที่แล้ว จึง สามารถจัดวางให้กรุงเทพมหานคร จัดงาน ได้และกระจายงานกันต่อ เมื่องานเดินหน้าไปได้ แพทองธารก็ขอเวลา 3 วันที่สามารถพักผ่อนได้ก็ขอไปพักผ่อนกับลูก ซึ่งคิดว่า สามารถไว้วางใจทุกส่วน

แพทองธาร ยังกล่าวถึงกระแสเปลี่ยนตัวประธานสภาผู้แทนราษฎรที่เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี โยนมาถามหัวหน้าพรรคเพื่อไทยว่า ยังไม่มีมีการพูดคุยว่า จะเปลี่ยนตัว และในรายละเอียดก็มีการปรึกษาอยู่เรื่อยๆ แต่ไม่ได้จะเปลี่ยนตัว ส่วนมีความจำเป็นหรือไม่ที่ตำแหน่งประธานสภาฯ ควรมาจากฝั่งพรรคเพื่อไทย หรือมองว่า พรรคประชาชาติยังทำหน้าที่ได้อยู่ แพทองธาร กล่าวว่า ทุกคนก็มีความสามารถ ดังนั้น ก็เลือกคนที่มีความสามารถมาทำหน้าที่ได้ดี และเป็นที่ไว้วางใจของประชาชนดีกว่า 

เมื่อถามย้ำว่า พรรคเพื่อไทยจะไม่เปลี่ยนตัวประธานสภาฯ เพราะภูมิธรรม เวชชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะแกนนำพรรคเพื่อไทย ระบุว่า ขอให้สบายใจว่า พรรคเพื่อไทยจะไม่ยึดตำแหน่งประธานสภาฯ คืนนั้น แพทองธาร กล่าวย้ำ จริงๆ ไม่มีการคุยว่าจะยึดคืน และไม่เคยมี สส.มาพูดคุยว่า อยากให้ประธานสภาฯ มาจากพรรคเพื่อไทย รวมถึงไม่มีการคุยกันเรื่องนี้ ส่วนในอนาคตจะมีหรือไม่ แพทองธาร ยังย้ำคำเดิมว่า ขณะนี้ยังไม่มีสัญญาณอะไรที่จะพูดเรื่องการเปลี่ยนตัวประธานสภาผู้แทนราษฎร และเมื่อถามย้ำว่าอาจจะมีรัฐมนตรีบางคนที่ถูกปรับออก จะสามารถกลับมาทำหน้าที่ในสภาฯ ได้ดีกว่า จึงเป็นที่มาของการจะเปลี่ยนตัวประธานสภาฯ นั้น แพทองธาร ระบุว่า เรื่องนี้อยากให้ไปถามนายกรัฐมนตรีมากกว่า เพราะไม่ได้อยู่ในอำนาจของตนเอง แต่ยอมรับว่า มีการปรึกษาในเรื่องของการทำงานในแต่ละหน้าที่ และสุดท้ายก็ขึ้นอยู่กับนายกรัฐมนตรี 

สำหรับการปรับคณะรัฐมนตรีในฐานะที่เป็นหัวหน้าพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาล รัฐมนตรีที่มีชื่อว่าจะถูกปรับได้เข้ามาพูดคุยหรือไม่ แพทองธาร กล่าวว่า ก็มีการให้ข้อมูลในเรื่องของข่าว แต่สุดท้ายอยากให้ไปถามนายกรัฐมนตรีดีกว่า 

ทั้งนี้ เมื่อถามว่ารัฐบาลทำงานมา 7 เดือนแล้ว ถึงเวลาเหมาะสมที่จะปรับครม. แล้วหรือไม่ แพทองธาร ย้ำคำเดิมว่า ส่วนตัวไม่ได้อยู่ใน ครม.จึงไม่ทราบ ให้ไปถามคนที่ทำงานร่วมกันจะดีกว่าว่าการทำงานที่ผ่านมาเป็นอย่างไร อยากจะปรับแล้วใช่หรือไม่

ขณะเดียวกัน เมื่อผู้สื่อข่าวพยายามถามถึงความพึงพอใจการทำงานของรัฐมนตรี หรือจะต้องมีการปรับเปลี่ยน แพทองธาร ไม่ตอบและขอให้ผู้สื่อข่าวถามคำถามอื่น ที่ไม่ใช่เรื่องปรับ ครม.

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์