‘จตุพร’ ลั่นถ้าจำเป็น ก็ต้อง ‘คลั่งชาติ’ กันบ้าง เพื่อปกป้องอธิปไตยทางทะเล

30 ต.ค. 2567 - 03:43

  • ‘จตุพร’ ลั่นถ้าจำเป็นต้อง ‘คลั่งชาติ’ ก็ต้อง ‘คลั่งชาติ’ กันบ้าง

  • เพื่อปกป้องดินแดนเกาะกูดและเขตอธิปไตยทางทะเล

  • ไม่ให้ ‘รัฐบาลนายหน้า’ นำไปแลกเปลี่ยนขุดสูบพลังงานเพื่อประโยชน์ส่วนตัว

Jatuporn-Prompan-criticized-case-overlapping-maritime-areas-Thailand-and-Cambodia-SPACEBAR-Hero.jpg

เป็นอีกคนที่ออกมาวิพากษ์วิจารณ์กรณี ‘เกาะกูดและเขตแดนอธิปไตยทางทะเล’ ได้อย่างเผ็ดร้อน สำหรับ จตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน

โดยทาง จตุพร ได้ระบุในทำนองสนับสนุนคนไทยยึดแนวทางชาตินิยมด้วยเหตุผล หรือคลั่งชาติอย่างมีสติ เพื่อปกป้องเกาะกูดและเขตแดนอธิปไตยทางทะเล ไม่ให้รัฐบาลนายหน้าบริษัทเอกชนนำไปแลกเปลี่ยนขุดสูบพลังงานเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว

จตุพร กล่าวว่า รัฐบาลเพื่อไทยแถลงนโยบายเร่งด่วนเรื่องการเจรจาพลังงานในเขตพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลระหว่างไทยกับกัมพูชา ทั้งที่ไทยไม่มีความจำเป็นต้องรีบขุดพลังงานขึ้นมาใช้ เพราะได้ยกสัมปทานน้ำมันให้กับเชฟรอนไปแล้วตั้งแต่ 2515 แล้ว

เมื่อสูบน้ำมันและก๊าซขึ้นมาได้ ไทยไม่ได้ประโยชน์อะไรเลย ที่สำคัญยังคงใช้น้ำมันกับก๊าซในราคาเท่าเดิม นอกจากนี้ไทยยังสุ่มเสี่ยงเสียดินแดนด้วย ดังนั้น ถ้าไม่ตกลงเรื่องเขตแดนให้ชัดเจนก่อน ก็เจรจาผลประโยชน์แหล่งพลังงานทับซ้อนไม่ได้

จตุพร พรหมพันธุ์

การเจรจาเอาแหล่งพลังทับซ้อนมาใช้ กลุ่มทุนการเมืองได้ซ่อนผลประโยชน์อื่นใดไปจากรัฐอยู่แล้ว เพราะนอกเหนือสัญญากับเชฟรอนได้มีการซ่อนเงื่อนให้เป็นช่องว่างเกิดการหาประโยชน์อื่นใดให้บุคคลไปหากินส่วนตัวด้วย

ดังนั้น รัฐบาลเพื่อไทยต้องเปิดเผยสัญญายกสัมปทานแหล่งพลังงานในพื้นที่ดังกล่าวให้ประชาชนได้รับรู้อย่างจริงใจ เพื่อไทยไม่ต้องสุ่มเสี่ยงกับการเสียดินแดนตามมาอีก

จตุพร พรหมพันธุ์

จตุพร ระบุอีกว่า “ผมรู้จักผู้นำกัมพูชาว่า เขาไม่ยอมเสียเปรียบไทยเด็ดขาด แต่ผมไม่ไว้วางใจประเทศไทย เพราะกัมพูชาเขาปกครองด้วยแนวทางชาตินิยม หรือเรียกเป็นการคลั่งชาติก็ได้ เพื่อเขาจะได้หลอมรวมประชาชนเป็นหนึ่งเดียวกัน หากวันนี้ถ้าเขาเสียดินแดนให้ไทยแล้ว เขาย่อมควบคุมได้ยาก”

ตั้งแต่ไทยลงนาม MOU 44 มานั้น จะนำพาไปสู่การเสียดินแดนเกาะและเขตแดนอธิปไตยทางทะเลให้กัมพูชา ดังนั้น ผลประโยชน์นอกสัญญาที่เปิดช่องว่างไว้จึงรับไม่ได้ และในทางการเมืองได้เห็นตัวกันว่า ใครจะได้ประโยชน์อื่นใดตรงไหนและอย่างไร

ถ้ากรณีเกาะกูดทำให้ไทยต้องเสียดินแดนแล้ว อยากรู้ว่าใครจะอยู่เพื่อทายท้าคำประณามจากคนในชาติ ดังนั้น คนคิดอ่านเช่นนี้จึงไม่มีความรักชาติบ้านเมือง เพราะไทยยังไม่มีความจำเป็นใดต้องรีบเร่งเจรจาแหล่งผลประโยชน์จากพลังงานพื้นที่ทับซ้อนนี้ แต่รัฐบาลออกอาการรีบทำเหมือนกับเป็นนายหน้าของเชฟรอนไปได้

ขณะนี้ไทยยังไม่ได้รับการันตีจะได้ประโยชน์อะไร ขณะเดียวกัน รัฐบาลต้องคิดหาแนวทางที่จะยกเลิกสัญญานี้อย่างไร อีกอย่างต้องเจรจาเรื่องเขตแดนกันให้จบ ต้องยืนกรานในจุดยืน เรื่องดินแดนและผลประโยชน์จากบริษัทเอกชนให้ชัดเจน มิฉะนั้น ถ้าตกลงผลประโยชน์จากใต้ทะเลก่อนแล้ว ท้ายที่สุดจะลามขึ้นบนทะเลจนเกาะกูดสุ่มเสี่ยงถูกแบ่งครึ่งให้กัมพูชา

ถ้าเราจำเป็นต้องคลั่งชาติกันเสียบ้าง ก็จำเป็นต้องคลั่งชาติกัน เมื่อเราจะสู้แล้ว ต้องยึดแนวทางความเป็นชาตินิยมโต้กลับเช่นกัน

จตุพร พรหมพันธุ์

การเจรจา MOU 44 ไทยต้องหวั่นวิตก เพราะในอดีตเคยมีบทเรียนการเสียดินแดนมาแล้ว ดังนั้น เราจะเชื่อคนมาการันตีไม่ได้ เพราะที่ผ่านมารัฐบาลเพื่อไทยไม่ได้เป็นอย่างที่เคยการันตีไว้เลย

ผมเคยตั้งขอสังเกตว่า การมาเร็ว เคลมเร็ว เขาไม่ได้มาแก้ไขปัญหา แต่มาแก้แค้น โดยวางโครงสร้างทำลายชาติตั้งแต่เยาวชนในกรณีบ่อนคาสิโน แล้วเรื่องดินแดนจะเป็นปัญหาใหม่ และที่สำคัญที่สุด วันนี้คนในรัฐบาลคิดอ่านจะแก้สัญญาที่ยกสัมปทานให้เชฟรอนแล้วหรือยัง อีกอย่างเสียงไม่ยอมเสียดินแดนเกาะกูดเริ่มดังขึ้นทุกขณะ รัฐบาลเพื่อไทยใครอยากจะลอง ก็เชิญ

จตุพร พรหมพันธุ์

จตุพร กล่าวอีกว่า ใครสนับสนุนไม่ว่าทั้งกรณีเกาะกูด บ่อนคาสิโน แลนด์บริดจ์ซุกที่ดิน 3 แสนไร่ 99 ปี แจกเงินดิจิทัล ควรออกมาหนุนรัฐบาลเพื่อไทยได้เต็ม ซึ่งจะได้รู้กัน โดยวันนี้ไทยมีประชาธิปไตยแบบมีทุนช่วยหนุน แล้วส่งคนไปมีตำแหน่ง หรือทุนได้กำหนดนโยบายของชาติ ด้วยการหวังเอาสมบัติชาติมาถอนทุนคืนผ่านนักการเมือง จึงเป็นการทำลายประชาธิปไตยให้ย่อยยับที่สุด

อีกทั้งเชื่อว่า ขณะนี้รัฐบาลเพื่อไทยมีความง่อนแง่นอย่างมาก เพราะโครงการหลายอย่างถูกพรรคร่วมเห็นต่าง ทั้งโครงการบ่อนคาสิโน ร่าง พรบ.ขนส่งทางราง จึงมีเสียงยุบสภาออกมาข่มขู่พรรคร่วมรัฐบาล

สิ่งสำคัญ การยุบสภาฯ ไม่อาจล้มคดีล้มล้างการปกครอง ยุบพรรคเพื่อไทย การทำลายพระเกียรติยศพระเจ้าแผ่นดิน และเรื่องการครอบงำครอบครองได้ เพราะเรื่องนี้ไม่ใช่คดีว่าด้วยคุณสมบัติของนายกฯ แบบนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกฯ

ส่วนพรรคฝ่ายค้าน จตุพร กล่าวว่า ควรจะทำหน้าที่ด้วยความแข็งแรงขึ้น ไม่ใช่เลือกเล่นบางเรื่อง แล้วไม่เล่นบางเรื่อง จึงน่าสงสัยการทำหน้าที่อยู่ สิ่งสำคัญฝ่ายค้านต้องปกป้องผลประโยชน์ชาติในทุกมิติ ไม่ใช่ในบางมิติเท่านั้น ดังนั้นต้องทำหน้าที่ให้แข็งแรงและตรวจสอบในเรื่องอื่นๆ ให้ชัดเจนกว่านี้ โดยอย่างน้อยคนผิดหวังจากรัฐบาล ควรได้สมหวังกับฝ่ายค้านบ้าง

หวังว่า ถ้าเราโชคดี โดยคนที่คิดจะทำเรื่องเหล่านี้ (โครงการเร่งด่วนของรัฐบาลเพื่อไทย ทั้งบ่อนและเจรจากับกัมพูชา) เขามีอันเป็นไปก่อนที่จะทำสำเร็จ ถ้าเรื่องชั้น 14 รพ.ตำรวจ จบภายในเดือน พ.ย. หรือจะเหลื่อมไปบ้างก็อย่าเหลื่อมกันไปมาก

จตุพร พรหมพันธุ์

ส่วนการอยู่หรือไปของนายกฯ ควรให้เป็นไปก่อนตรุษจีนปี 2568 เพราะโครงการสร้างความเสียหายต่างๆ จะไม่ได้เกิดขึ้น แต่ถ้าเกินเป้าหมายของกำหนดการต่างๆ แล้ว ความเหนื่อยยากจะตกมาอยู่ที่ประชาชน ดังนั้น องค์กรตาม รธน.ต่างๆ อย่าได้ทำงานกันชักช้า

View post on Facebook

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์