คำพูดตำหนิพรรคร่วมรัฐบาลของ ‘ทักษิณ ชินวัตร’ กลางเวทีสัมมนาพรรคเพื่อไทย กำลังเรียกเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง พร้อมๆ กับการจับตาว่าประเด็นร้อนดังกล่าวจะส่งแรงไปเพื่อมต่อ ‘รัฐบาลแพทองธาร’ ภายใต้การนำของพรรคเพื่อไทย หรือไม่
หนึ่งในผู้ที่ออกมาให้ความเห็นเรื่องนี้ได้อย่างเผ็ดร้อนนั่นก็คือ จตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน ที่ชี้ให้เห็นว่า ทักษิณ เริ่มขู่พรรคร่วมรัฐบาลกรณีไม่เข้าประชุม ครม. ลงมติ พ.ร.ก.ภาษีระหว่างประเทศ พร้อมคำรามขับไล่พรรคอีแอบ อยู่ไม่ได้ก็ออกไป บ่งชี้ถึงการแสดงความยิ่งใหญ่ที่มีมากขึ้นตามลำดับ
ใครไปดีลหรือทำข้อตกลงอย่างไรก็ตาม แต่การแสดงความยิ่งใหญ่ย่อมสะท้อนได้ชัดเจนว่า ดีลกลับบ้านมาเลี้ยงหลานไม่มีอยู่จริง ยิ่งไปกว่านั้น ทักษิณกำลังเร่งสถานการณ์ให้กลับไปสู่สถานการณ์ของรัฐที่สร้างความกลัว โดยใช้ตำรวจป็นเครื่องมือ เหมือนคราวเกิดรัฐตำรวจในสงครามปราบยาเสพติดที่เคยเกิดขึ้นมา
— จตุพร พรหมพันธุ์
อย่างไรก็ตาม ทักษิณ ถูกตัดสิทธิทางการเมืองตลอดชีวิต และลี้ภัยอยู่ต่างประเทศ 17 ปี เวลาที่เสียไปนั้น เพราะเลือกเอง หนีเอง ถ้าไม่หลบหนีก็ไม่เสียเวลาถึง 17 ปี ดังนั้นเมื่อทักษิณ ใหญ่เกินเบอร์เหมือนเดิมแล้ว ปัญหาส่อจะจบแบบเดิมอีก
ทักษิณ บอกว่ารอบนี้ไม่หมู แต่ผมจะบอกให้ว่า ในแต่ละครั้งที่เกิดปัญหาขึ้นมานั้น บทเรียนที่สำคัญคือความตายของมุนษย์ที่ไม่ได้ผ่านกระบวนการยุติธรรม เป็นความตายที่ใครไม่มีสิทธิไปฆ่าใคร ไม่ว่าจะใช้ชื่อสงครามใดก็ตาม แต่กระบวนการบ้านเมืองเสียหายกันหมด ดังนั้น ต้องรอดูว่าพรรคร่วมจะว่าอย่างไร หรือจะอยู่เป็นทาสกันแบบนี้หรือไม่
— จตุพร พรหมพันธุ์
จตุพร ยังอ้างถึงข่าวการประชุมของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) จะพิจารณาเรื่องป่วยทิพย์ชั้น 14 ซึ่งปกติประชุมทุกวันพุธ แต่คงกลัวประชาชนไปให้กำลังใจกันมาก จึงเลื่อนมาประชุมวันจันทร์ที่ 16 ธ.ค.นี้ เพื่อหลีกเลี่ยงขบวนการประชาชนไปให้กำลังใจทำหน้าที่ในวันพุธที่ 18 ธ.ค.นี้
แต่เอาเถอะ อยากจะทำอะไรได้ก็ทำเลย ถ้าบ้านเมืองนี้กระบวนการยุติธรรมไม่มีความหมายใดๆ ก็ให้เป็นไป ถ้าจะอยู่ในสภาพแบบนี้ อะไรจะเกิดก็ให้เกิดไป ระบอบทักษิณจะกลับมาก็ให้เป็นไป แต่ประชาชนยังจะไปหา ปปช.ในวันที่ 18 ธ.ค.ตามเดิม
— จตุพร พรหมพันธุ์
จตุพร กล่าวว่า ทักษิณ กลับมารอบนี้แสดงความยิ่งใหญ่กันจริงๆ โดยคำรามดุดันใส่พรรคร่วมและขู่ สส.พรรคเพื่อไทยกันเอง รวมถึงจะกำราบประชาชนที่เห็นต่าง ดังนั้น บ้านเมืองนี้จะงอมืองอเท้าไม่คิดอ่านกันเลยหรือว่า หนทางข้างหน้าจะเกิดอะไรตามมาอีก ส่วน ปปช. อยากจะทำอะไรก็เชิญ จะลงมือวันจันทร์โดยคิดจะจัดการอะไรให้เรียบร้อย ก็ว่ากันไป
นอกจากนี้ ทักษิณ พยายามอธิบาย mou 44 ซึ่งเป็นเรื่องใหญ่ ว่า ปฐมบทเริ่มจากทักษิณ แล้วหายเงียบไปไม่มีการดำเนินการต่อ อีกอย่างทักษิณอยู่ถึงปี 49 ทำไมเจรจาปักปันเขตแดนไม่จบ ผ่านรัฐบาลยุคยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ผู้เป็นน้องสาว ยังปักปันเขตแดนไม่จบอีก จนมาวันนี้พูดถึงการเจรจาแบ่งผลประโยชน์ 50:50 และไม่พูดถึงการปักปันเขตแดนเลย
จตุพร กล่าวอีกว่า ทักษิณจะแบ่งประโยชน์ 50:50 นั้นมันเป็นสิทธิอะไรของคุณ แล้วไทยยกสัมปทานให้เชฟรอนมา 52 ปีแล้วกลับเงียบไม่พูดถึงเลย จะยกเลิกสัญญาได้หรือไม่ แล้วช่วงนี้ก็ไปปักปันเขตแดนให้จบ และการเร่งแบ่งประโยชน์เท่ากับไทยได้ประโยชน์แค่ค่าภาคหลวง ส่วนเชฟรอนได้ไปเต็มๆ
รัฐบาลเพื่อไทยไม่พูดถึงเชฟรอนเลย อาจมีใครไปเจรจานอกเหนือกฎหมายหรือไม่ ซึ่งเป็นเรื่องที่แปลกมาก ยิ่งเร่งให้แบ่งประโยชน์โดยเชฟรอนได้ ไม่ใช่ ปตท. แล้วเชฟรอนได้พลังงานในอ่าวไทยแต่ละที่นั้นทำให้น้ำมันราคาถูกกันหรือเปล่า ส่วนที่บอกเกาะกูดเป็นของไทยนะใช่ แต่ถ้าไปตกลงผลประโยชน์ 50:50 กัน ในวันข้างหน้าถ้ากัมพูชาบอกให้แบ่งดินแดน 50:50 จะว่าอย่างไง
สิ่งที่กำลังทำไทยจะได้ประโยชน์เล็กน้อยมาก และบุคคลบางคนกลับเร่งเกม ไม่ไปจุดประกายขึ้นมา เรื่องนี้ก็ไม่เกิด อีกอย่างอย่าลืมว่าทักษิณ ต้องคดีข้อหาทุจริตคอร์รัปชัน ดังนั้นคำพูดจะการันตีอะไรได้ เพราะทุกเรื่องไม่ได้ทำตามคำพูด บอกกลับมาเลี้ยงหลานแต่คำรามขู่แสดงอาการของคนยิ่งใหญ่ทางการเมือง
— จตุพร พรหมพันธุ์
ส่วนนายกฯ อุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร ชินวัตร แถลงผลงานรัฐบาล 3 เดือนนั้น ไม่ใช่ผลงานเลย เพราะผลงานคือสิ่งที่ทำมาแล้ว ดังนั้นการแถลงจึงเป็นนโยบายของรัฐบาลจะทำ เช่น บ้านเพื่อคนไทย ผ่อน 30 ปี มีสิทธิอยู่ 99 ปี หรือการขุดโคลนไปขาย ล้วนเป็นสิ่งที่ยังไม่ได้ทำเลย
นายจตุพร กล่าวว่า ทักษิณพูดถึงการเจรจากับพระเจ้าในประเทศไทยนั้น ตนไม่รู้ว่าหมายถึงอะไร แต่แผ่นดินนี้มีพระสยามเทวาธิราชคอยปกป้อง สิ่งศักดิ์สิทธิ์จะคุ้มครองบ้านเมือง ดังนั้นถัดจากนี้ถ้าทักษิณใหญ่มากเท่าไรยิ่งจะกลายเป็นชนวน เมื่อแสดงพฤติกรรมท้าทายแบบเดิม ต้องเจอเสียงคัดค้านแบบเดิมๆ อีก
ภาพการสัมนาพรรคเพื่อไทยที่หัวหิน เป็นที่ชัดเจนว่าใครมีอำนาจที่แท้จริง โดยไม่มีใครเชื่อนายกฯ อุ๊งอิ๊งจะมีอำนาจแท้จริง อีกอย่าง ปปช.เลื่อนมาประชุมวันจันทร์นั้น เราไม่ควรไปดิ้นตาม อยากทำอะไรก็เชิญ
— จตุพร พรหมพันธุ์
พร้อมทั้งกล่าวว่า ร่องรอยรัฐบาลได้เริ่มปริกันแล้ว เมื่อทักษิณรุกทุกทีและการทำสงครามกวาดต้อนกันแล้วพรรคร่วมยิ่งอยู่กันยาก และถ้าอยู่กันสภาพแบบนี้ยิ่งจะกลายเป็นปัญหา ดังนั้น ประชาชนต้องคอยติดตาม ถ้าเหลือบ่ากว่าแรงแล้ว ต้องลุกขึ้นมาต่อสู้ปกป้อง ขัดขวางการกระทำความชั่วทั้งปวงที่เกิดขึ้นกับแผ่นดินนี้
ส่วนทักษิณบอกให้เป็นพรรคร่วมเป็นเลือดสุพรรณ มาด้วยกัน ไปด้วยกัน จตุพร กล่าวว่า “เลือดสุพรรณเป็นบริบทการปกป้องชาติ เป็นการต่อสู้กับศัตรู ไม่ได้จับมือกันไปขายชาติ อย่างไรก็ตาม ถ้าแน่จริงอยากทำอะไรก็เชิญ จะเจรจาประโยชน์ก็ทำเลย 50:50 จะตั้ง เจทีซีก็ทำเลย และเสนอชื่อนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง เข้า ครม.ตั้งเป็นประธานบอร์ดแบงก์ชาติเลย หรือเพิ่ม vat เป็น 15% ก็ทำเลย อยากทำอะไรก็เชิญ บ้านเมืองต้องการเป็นแบบนี้ เราก็จะได้ดูน้ำหน้าคนไทยจะคิดอ่านกันอย่างไรกันเหมือนกัน”
จตุพร กล่าวว่า อาการคำรามของทักษิณ ในวันสัมนาพรรคเพื่อไทยนั้น เป็นการเร่งสถานการณ์ และขบวนการแต่ละขบวนการในบ้านเมืองนี้ไม่หมูเหมือนกัน อีกอย่างคนที่รวยอยู่แล้วทำไมไม่สงสัยตัวเองบ้างว่า จะไปหาความรวยเพิ่มอีกทำไม และคนที่มีสถานะทางสังคมกลับต้องคดีทุจริตแล้วสารภาพความผิด ขณะที่ชี้หน้ากล่าวหาคนอื่นว่าไม่มีอาชีพ แล้วตัวเองรวยอยู่แล้วโกงกันไปทำไมอีก
ลีลาเร่งสถานการณ์เร็วแบบทักษิณนั้น ผมอยากบอกสำนักงานตำรวจแห่งชาติว่า อย่าให้เกิดรัฐตำรวจขึ้นอีก เพราะหลังจากนั้นจะเกิดอะไรขึ้นตามมา อำนาจอื่นๆ จะคุ้มครองได้อย่างไร แค่ตัวเองยังคุ้มครองไม่ได้เลย
— จตุพร พรหมพันธุ์