น่าจับตาเป็นอย่างยิ่งสำหรับเดือนสิงหาคมนี้ เนื่องด้วยมี 3 ประเด็น ‘การเมือง’ ร้อน ๆ ที่กำลังจะมาถึง ได้แก่ คดียุบพรรคก้าวไกล, คดี ‘40 สว.’ ยื่นถอดถอน เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี กรณีแต่งตั้ง พิชิต ชื่นบาน อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ และกรณีที่ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ จะพ้นโทษ
ขณะที่ จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ สส.บัญชีรายชื่อ และอดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้ความเห็นถึงสถานการณ์ทางการเมืองในเดือนนี้ ว่า อาจเป็นเดือนที่นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองได้ในหลายกรณี เพราะมีหลายเหตุการณ์ที่ประดังกันเข้ามาในช่วงเดือนสิงหาคมพอดี
แต่ถ้าดูให้ลึก จะเห็นว่าแต่ละสถานการณ์มันมีที่มาที่ไป หรือเกิดแต่เหตุ ไม่ใช่เรื่องที่ใครคนใดคนหนึ่งจงใจสร้างขึ้นมาได้ และหลายเหตุก็มาจากการกระทำของรัฐบาลเอง
แต่ไม่ว่าสถานการณ์การเมืองจะเป็นอย่างไร มันก็มีทางออกของมัน ในฐานะของผู้ที่อยู่กับการเมือง จึงไม่ได้รู้สึกห่วงใยอะไรเป็นพิเศษ แต่ที่เห็นว่าน่าห่วงเป็นอย่างยิ่งคือ สถานการณ์ทางเศรษฐกิจ
โดยเฉพาะชีวิตความเป็นอยู่ของคนรากหญ้าไปถึงคนชั้นกลาง ที่กำลังประสบกับภาวะความยากลำบากทางเศรษฐกิจ จากการบริหารงานของรัฐบาลชุดนี้มากขึ้นทุกวัน ทั้งภาวะค่าครองชีพ หนี้ครัวเรือน ที่มีรายได้มาเท่าไหร่ต้องใช้หนี้ 90 กว่า% จนคนไทยต้องจมปลักอยู่กับภาวะชักหน้าไม่ถึงหลัง ธุรกิจจีนเข้ามากินรวบกิจการคนไทย ธุรกิจฐานรากไทยเข้าคิวปิดกิจการ เป็นต้น
ที่สำคัญ จนถึงวันนี้ยังไม่มีแสงสว่างใด ๆ จากปลายอุโมงค์ให้เห็น นอกจาก ‘เงินยาไส้ชั่วคราว’ ก้อนเดียวคือ ‘ดิจิทัลวอลเล็ต’ ซึ่งเมื่อพ้นจาก ‘ดิจิทัลวอลเล็ต’ หรือเงินกู้มาแจกแล้ว ยังมองไม่เห็นว่า ประชาชนจะมีอะไรหลงเหลือให้หวังได้อีก