ไม่ละเลย ‘ปล่อยโคม’ ย้ำ มีมาตรการชัดเจน

29 พ.ย. 2566 - 03:53

  • ‘เกรียง’ ยันไม่ละเลยปล่อยโคม

  • ย้ำ มีมาตรการชัดเจนห้ามปล่อยในเทศบาลเชียงใหม่ แต่อยู่ที่จิตสำนึกต้องช่วยกัน

  • ระบุ ปภ.พร้อมหนุนแก้ฝุ่น PM 2.5

Krieng-do-not-neglect-floating-lanterns-SPACEBAR-Hero.jpg

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 29 พ.ย.66 ที่ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ เฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา ตำบลช้างเผือก อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ เกรียง กัลป์ตินันท์  รมช.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงการปล่อยโคมในช่วงเทศกาลของจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งอาจจะทำให้เกิดอุบัติเหตุไฟไหม้ได้ว่า เรื่องโคมลอยทางจังหวัดได้มีมาตรการที่ชัดเจนว่า ในเทศบาลนครเชียงใหม่ห้ามปล่อยโคมลอย ซึ่งโคมลอยคงหลงมาจากด้านนอกส่วนหนึ่ง และส่วนหนึ่งเป็นเยาวชนที่ปล่อยอยู่ข้างใน เป็นเรื่องที่ทำนอกเหนือจากกฎหมายกำหนด ทั้งนี้ เรื่องมาตรการป้องกันของจังหวัดเชียงใหม่ชัดเจน แต่ก็มีหลงเหลือ ถือเป็นเรื่องปกติ เพราะเป็นวัฒนธรรมที่สืบทอดกันมายาวนาน อย่างกรณีเด็กวัยรุ่นเมื่อเห็นมีการปล่อยโคมลอยอยู่ด้านนอก เด็กวัยรุ่นข้างในก็อยากจะเล่น อย่างไรก็ตาม มาตรการของจังหวัดเชียงใหม่ ที่ร้านขายโคมลอยจะต้องติดหมายเลขที่โคมทุกใบ ซึ่งถือเป็นมาตรการที่ชัดเจน 

เมื่อถามว่าในช่วงเทศกาลปล่อยโคมปีหน้า 2567 กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) จะมีการเตรียมความพร้อมอย่างไรบ้าง เกรียง กล่าวว่า ปภ.ได้เตรียมเรื่องการป้องกันและบรรเทา แต่จะให้ทั่วถึงจริงๆ ต้องอยู่ที่สำนึกด้วยผู้ปกครองต้องช่วยกัน หากผู้ปกครองช่วยกันเรื่องเหล่านี้จะสำเร็จได้รวดเร็ว ขอฝากประชาชนช่วยดูแล 

เมื่อถามต่อว่า กรณีที่ร้านขายโคม จะต้องตามต่อไปถึงร้านที่ผลิตว่ามีความผิดร่วมด้วยใช่หรือไม่ เกรียง กล่าวว่า มาตรการเหล่านี้ ทางจังหวัดไม่ได้ละเลย เลขจะต้องติดที่โคมอยู่แล้วในร้านที่ขาย แต่ก็ยังมีกลุ่มประชาชนที่ผลิตเองและปล่อย ซึ่งเหนือการควบคุม เรียนว่า เป็นวัฒนธรรมที่สืบทอดกันยาวนาน เราจะแก้ปัญหาวันหนึ่งวันเดียวคงไม่ได้

เกรียง ยังให้สัมภาษณ์เรื่องการแก้ปัญหาฝุ่น PM 2.5 ว่า เรื่องปัญหาฝุ่นทางปภ.เป็นหน่วยสนับสนุน โดยกรมควบคุมมลพิษ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเป็นผู้ดูแลโดยตรง แต่ทางเราก็มีเฮลิคอปเตอร์และเครื่องมือสนับสนุน ถ้ามีการขอการสนับสนุนมา เราก็เข้าไปช่วยเหลือเต็มที่ และปภ.ก็กำลังเริ่มมาตรการ 7 วันอันตรายในช่วงใกล้เทศกาลปีใหม่ โดยการตั้งด่านทั่วประเทศปีนี้ได้มีการร่นระยะทาง โดยในปีนี้กำหนดไว้ชัดเจนว่า ด่านจะต้องไม่น้อยกว่า 50 กิโลเมตรถึงจะมีด่านถึงจะมี 1 ด่านในถนนสายหลัก จะทำให้ระยะทางที่ประชาชนจะเดินทางกลับภูมิลำเนาน้อยลง โดยจะส่งผลให้อุบัติเหตุน้อยลง

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์