มาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.การต่างประเทศ กล่าวถึงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาว่า รอให้ผลการเลือกตั้งออกมาให้ชัดเจนก่อนค่อยพูด
เมื่อถามว่า ถ้าผลการเลือกตั้งครั้งนี้มีการเปลี่ยนแปลง มีการพลิกขั้ว จะส่งผลอะไรต่อนโยบายของรัฐบาลหรือไม่ มาริษ กล่าวว่า เคยให้สัมภาษณ์ไปแล้วว่า ไม่ว่าใครจะมาเป็นประธานาธิบดีของสหรัฐฯ หรือใครจะเปลี่ยนตัวในประเทศใดๆ ก็ตาม เป็นเรื่องของผู้นำ แต่ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยกับสหรัฐยังคงมั่นคง เข้มแข็ง และแน่นแฟ้นเหมือนเดิม และเรามีความชัดเจน มีความสัมพันธ์ที่ดีกันมายาวนาน รวมทั้งมีความร่วมมือกันเป็นอย่างดีไม่ว่าใครจะมาก็ตาม นี่คือนโยบายสำคัญของ แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่ต้องการเห็นประเทศไทยมีบทบาท ไม่ใช่จะเป็นผู้ไปกำหนดใครหรืออะไร แต่รัฐบาลต้องการเห็นความร่วมมือระหว่างประเทศไทยกับทุกๆ ประเทศเป็นอย่างดี ซึ่งจะต้องมีความยุติธรรมและอยู่บนพื้นฐานของความร่วมมืออย่างยุติธรรมเพื่อผลประโยชน์ของทั้งสองประเทศวินๆ ทั้งสองฝ่าย
มาริษ กล่าวว่า ความสัมพันธ์ระหว่างไทยสหรัฐยังคงเหมือนเดิม แต่อาจจะมีการปรับเปลี่ยนบ้างขึ้นอยู่กับการพูดคุยกันระหว่างผู้นำของไทยและทุกภาคส่วน เพราะความจริงแล้วรัฐบาลเข้ามาดูในเรื่องนโยบาย แต่ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ความร่วมมือระหว่างกันมันมีอยู่ในหลายระดับและหลายมิติ รวมทั้งทุกภาคส่วนก็ต้องไปด้วยกัน ทั้งภาครัฐบาล แบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) และภาคเอกชนต้องไปด้วยกัน รวมถึงภาคประชาชนกับประชาชน ฉะนั้นทั้งสามระดับมันดีอยู่แล้ว ใครจะมาเป็นหัวเรือก็ไม่มีปัญหา เราก็ดำเนินความสัมพันธ์ระหว่างกันได้
ทั้งนี้ หากมีการเปลี่ยนประธานาธิบดีสหรัฐ นโยบายของเรายังคงเหมือนเดิมใช่หรือไม่ มาริษ กล่าวว่า ยังไม่อยากพูดในตอนนี้เพราะยังไม่รู้ว่าใครมา และเมื่อเขามาแล้วนโยบายที่เราคาดหวังว่าจะเป็นไปตามอย่างนี้ มันอาจจะไม่ใช่ก็ได้ ก็ต้องรอฟังผลการเลือกตั้งที่ชัดเจน และพูดคุยกับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ทั้งกระทรวงการต่างประเทศของเขาว่าใครจะมาเป็นรัฐมนตรีต่างประเทศ และมีนโยบายอย่างไร ซึ่งขณะนี้มันเป็นการคาดการณ์กันทั้งนั้น ไม่อยากจะพูด เพราะจะทำให้การพูดคุยในอนาคตมันมีผลกระทบได้ เพราะฉะนั้นรอฟังทุกสิ่งอย่างให้มันแน่นอน