กระทรวงการต่างประเทศ รายงานสถานการณ์คนไทยที่ได้รับผลกระทบจากเหตุความไม่สงบในตะวันออกกลาง โดยมีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 3 ราย รวมเป็น 24 ราย, บาดเจ็บเพิ่ม 2 ราย รวมเป็น 16 ราย และผู้ที่ถูกจับไปยังคงอยู่ที่ 16 รายไม่เปลี่ยนแปลง สำหรับตัวเลขผู้ขอกลับประเทศไทย มีจำนวน 6,778 ราย
ใช้ความสัมพันธ์ส่วนตัวคุยเอกชน ขอคนไทยร่วมเดินทางกลับบ้าน
นอกเหนือจากรายงานตัวเลขผู้เสียชีวิตและถูกจับเป็นตัวประกัน ที่ได้รับทราบจากสถานทูตไทยประจำอิสราเอล (ตรงกับกระทรวงการต่างประเทศ) แล้ว เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง เปิดเผยด้วยว่า ขณะนี้ยังมีการประสานงานกันอย่างต่อเนื่อง เพื่อเร่งนำคนไทยกลับมาสู่ประเทศให้เร็วที่สุด ปัจจุบันมีผู้แสดงเจตจำนงจะเดินทางกลับไทยประมาณ 7,000 กว่าคน ซึ่งต้องขอขอบคุณสายการบินพาณิชย์ทั้ง 3 แห่ง คือ นกแอร์ แอร์เอเชีย และการบินไทย ที่ได้ทำงานร่วมกันเป็นอย่างดี ในการหาลู่ทางการที่จะนำคนไทยออกมาโดยเร็วที่สุด รัฐบาลเองก็ไม่ได้หยุดยั้ง
อีกทั้งได้ใช้ความสัมพันธ์ส่วนตัวติดต่อกับภาคเอกชนที่มีเครื่องบิน และมีคอนเนคชั่นกับประเทศจีน ที่จะมีการประสานใช้สายการบิน Spic Jet ซึ่งมีเครื่อง A340 แต่ละไฟลท์สามารถรับคนได้ประมาณ 350 คน อาจจะเร็วที่สุดคือวันอาทิตย์ที่ 15 ต.ค.นี้ โดยได้ให้ช่องทางการติดต่อกับกระทรวงการต่างประเทศไปเรียบร้อยแล้ว เพราะทางสายการบินดังกล่าว จะมีการลำเลียงคนอินเดียไปส่งอยู่แล้ว หากเราสามารถตกลงกันได้ และเคลียร์กับทางรัฐบาลอิสราเอล เพื่อให้เครื่องบินลงจอดได้ ก็จะจัดการโดยเร็วที่สุด
ย้ำจุดยืนไม่ได้เข้าข้างฝ่ายใด หวังเพียงช่วยคนไทยกลับประเทศ
ส่วนกรณีนักวิชาการฝ่ายความมั่นคงแสดงความกังวลถึงการวางตัวของรัฐบาลไทยกับอิสราเอล อาจกระทบเรื่องปาเลสไตน์นั้น นายกฯ ได้ยืนยันถึงการวางตัวเป็นกลาง เพราะไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของความขัดแย้ง และมีหน้าที่การทำงานร่วมกับทุกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นปาเลสไตน์ หรือทางสถานทูตอิสราเอล เพื่อปกป้องคนไทยให้ปลอดภัยจากวิกฤตสงครามครั้งนี้
“ยืนยันว่าเราไม่ได้มีการช่วยเหลือใครทั้งสิ้น ไม่ได้มีการแสดงจุดยืนว่าเข้าข้างใคร เราเข้าข้างคนไทยที่ประสบปัญหาอยู่ในขณะนี้ สิ่งที่รัฐบาลไทยเป็นห่วงตอนนี้คือ คนไทยอีกกว่าประมาณ 6,000-7,000 คน ที่อยากจะออกมา รวมทั้งพี่น้องของคนเหล่านี้ที่อยู่ในเมืองไทยกว่าหมื่นคนที่มีความกังวล เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เราให้ความสำคัญสูงสุด เรายินดีทำงานร่วมกับทุกฝ่าย เพื่อให้คนไทยปลอดภัย”
เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง
ประสานนานาชาติเปิดน่านฟ้า บินรับคนไทยกลับ
สำหรับประเด็นความร่วมมือกับนานาชาติในการเปิดน่านฟ้า เพื่อบินไปรับคนไทยกลับประเทศนั้น เศรษฐา บอกว่า เท่าที่ได้รับรายงานเข้ามายังไม่มีปัญหาอะไร ปกติจะใช้เวลาเป็น 10 วันในการขออนุญาต ตอนนี้ก็เหลือเพียง 2 วัน และถ้ามีปัญหาอะไร ก็พร้อมที่จะยกหูพูดคุยกันทั้งหมด ที่ไปมาแล้วก็ขอความกรุณาในเรื่องของความมั่นคง เรื่องการติดต่อกับชาติต่างๆ ที่เป็นพันธมิตรกับคู่ขัดแย้ง เราเองก็ประสานงานกันอย่างดี โดยเฉพาะเรื่องการปล่อยตัวประกัน รวมทั้งการดูแลตัวประกันให้ดี วงการพูดคุยกันตลอด อย่างไรก็ตาม ในช่วงเย็นวันที่ 15 ต.ค.นี้ จะมีการหารือร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อหาแนวทางในการนำตัวคนไทยกลับประเทศ
