ที่รัฐสภา ‘ชัยธวัช ตุลาธน’ เลขาธิการพรรคก้าวไกล พร้อม ส.ส. พรรคก้าวไกลจำนวนหนึ่ง เข้ายื่นหนังสือต่อ ‘วันมูหะมัดนอร์ มะทา’ ประธานสภาผู้แทนราษฎร และประธานรัฐสภา เพื่อเสนอร่างกฎหมายแก้ไขมาตรา 272 ยกเลิกอำนาจ ส.ว. เลือกนายกรัฐมนตรี
‘ชัยธวัช’ บอกว่าร่างกฎหมายที่ภพรรคก้าวไกล เสนอมี ส.ส. พรรคก้าวไกล เข้าชื่อครบตามกฎหมายกำหนด โดยเป้าหมายของการเสนอให้แก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 272 ตัดอำนาจ ส.ว. โหวตนายกฯ ‘ชัยธวัช’ อธิบายว่าการที่มี ส.ว. หลายคลงมติงดออกเสียง และไม่มาร่วมประชุมเพื่อลงมติโหวตนายกฯ เมื่อวานนี้ (13 ก.ค.) เป็นการแสดงออกชัดว่าต้องการใช้สิทธิ์ในการเลือกนายกฯ จึงเชื่อว่าการแก้ไขมาตรานี้จะเป็นการทางออกที่ดีของทุกฝ่าย เพราะหากปล่อยให้ ส.ว. งดออกเสียง และไม่มาร่วมประชุมเพื่อลงมติ จะทำให้ประเทศเกิดทางตันและไปต่อไม่ได้ ดังนั้นการแก้กฎหมายนี้จึงเป็นการคืนอำนาจเลือกนายกรัฐมนตรีให้กับประชาชน
ส่วนข้อสังเกตว่าแม้จะมี ส.ว. จำนวนมาก ลงมติงดออกเสียง และไม่มาร่วมประชุม แต่ไม่ได้หมายความว่า ส.ว. ทั้งหมด ต้องการปิดสวิตช์เลือกนายกฯ แต่อาจเกิดจากอคติส่วนตัวที่มีต่อ ‘พิธา ลิ้มเจริญรัตน์’ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ของพรรคก้าวไกล ‘ชัยธวัช’ เชื่อว่าแม้จะไม่ใช่ทั้งหมด แต่คงมี ส.ว. อย่างน้อย 1 ใน 3 ที่ต้องการปิดสวิตช์ตัวเอง
สำหรับการยื่นร่างกฎหมายเสนอให้แก้ไข มาตรา 272 ‘ชัยธวัช’ อธิบายว่าจริงๆ แล้วพรรคก้าวไกล เตรียมยื่นเรื่องนี้อยู่เเล้ว เพียงแต่ยังไม่รู้ว่าจะยื่นเมื่อไหร่ จนกระทั่งเกิดเหตุการณ์เมื่อวานนี้ (13 ก.ค.) พรรคจึงได้ตัดสินใจเมื่อช่วงคืนที่ผ่านมาว่าจะยื่นวันนี้ (14 ก.ค.) เลย และได้แจ้งให้พรรคเพื่อไทย ทราบแล้วเมื่อช่วงเที่ยงที่ผ่านมา ส่วนอีก 6 พรรคร่วม ยอมรับว่ายังไม่ได้แจ้ง เพราะเป็นเรื่องที่เร่งด่วนจริงๆ
‘ชัยธวัช’ ยืนยันว่า ในการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีครั้งต่อไป ควรจะต้องเสนอชื่อ ‘พิธา ลิ้มเจริญรัตน์’ เป็นนายกรัฐมนตรีต่อ โดยวันนี้คงจะมีการหารือกับพรรคเพื่อไทยเกี่ยวกับแนวทางการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ในวันที่ 19 ก.ค.นี้ เมื่อถามว่าถ้าพรรคเพื่อไทยเสนอชื่อชิงนายกฯ ‘ชัยธวัช’ ย้ำว่าพรรคก้าวไกลยังมีสิทธิ์เสนออยู่
ส่วนประเด็นที่มีแกนนำพรรคก้าวไกลหลายจังหวัด เสนอให้ให้พรรคถอยเรื่องการแก้ไข มาตรา 112 เพื่อรักษาไว้ในนโยบายอื่นๆ ‘ชัยธวัช’ ระบุว่า ถ้าเป็นความเห็นจากแกนนำในพรรคของแต่ละจังหวัด หรือ ส.ส. พรรคจะมีกระบวนการหารือกัน แต่เบื้องต้นพยายามทำความเข้าใจก่อนว่า เรื่องนี้เป็นข้ออ้างบังหน้าเท่านั้น เพราะสาเหตุที่แท้จริงคือ คือ กลุ่มขั้วอำนาจเดิม มีความพยายามที่จะพลิกขั้วอยากจัดตั้งรัฐบาลเอง โดยร่วมมือกับกลุ่มผลประโยชน์ และกลุ่มทุนที่ไม่ต้องการเห็นพรรคก้าวไกลเป็นรัฐบาล เพราะไม่ต้องการเสียผลประโยชน์จากนโยบายของพรรคก้าวไกล ดังนั้นจึงพยายามทุกวิธีทาง ทั้งผ่านรัฐสภาหรือผ่านกระบวนการอื่นๆ รวมถึงข้อสงสัยเรื่องการทำงานขององค์กรอิสระบางองค์กรด้วยเพื่อเป้าหมายเดียว
เมื่อถามถึงประเด็นที่มีกระแสข่าวว่าอาจมีการเสนอชื่อ ‘พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ’ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตร ‘ชัยธวัช’ เชื่อว่ามีหลายพรรคที่ไม่เห็นด้วยกับการจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย และหวังว่าพรรคเหล่านี้จะยังยึดจุดยืนเดิม และไม่สนับสนุนให้ ‘พลเอกประวิตร’ เป็นนายกฯ เพราะรัฐบาลเสียงข้างน้อยบริหารประเทศไม่ได้ และหวังว่า ส.ว. จะไม่โหวตให้ ‘พลเอกประวิตร’ เช่นกัน
‘ชัยธวัช’ ย้ำว่าการที่พรรคก้าวไกล เสนอให้แก้ไขมาตรา 272 เป็นคนละเรื่องกับการโหวตนายกรัฐมนตรี ดังนั้นพรรคก้าวไกลจะยังคงเดินหน้าเจรจาขอเสียงจาก ส.ว. เพื่อให้สนับสนุน ‘พิธา’ เป็นนายกฯ เหมือนเดิม โดยเชื่อว่าหากร่างกฎหมายแก้มาตรา 272 ผ่านวาระแรกแล้ว จะใช้ระยะเวลาเพียง 2-3 สัปดาห์ก็จะเข้าสู่วาระ 3 ได้
ด้าน ‘วันมูหะมัดนอร์ มะทา’ ประธานสภาผู้แทนราษฎร และประธานรัฐสภา อธิบายขั้นตอนการแก้กฎหมายมาตรา 272 ว่า หลังจากนี้เจ้าหน้าที่จะตรวจสอบความถูกต้องของรายชื่อ และตรวจสอบว่าการแก้ไขมาตรานี้ ขัดต่อข้อบังคับหรือรัฐธรรมนูญหรือไม่ ยืนยันว่าจะดำเนินการให้เร็วที่สุด เพราะเป็นเรื่องเร่งด่วน
‘ชัยธวัช’ บอกว่าร่างกฎหมายที่ภพรรคก้าวไกล เสนอมี ส.ส. พรรคก้าวไกล เข้าชื่อครบตามกฎหมายกำหนด โดยเป้าหมายของการเสนอให้แก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 272 ตัดอำนาจ ส.ว. โหวตนายกฯ ‘ชัยธวัช’ อธิบายว่าการที่มี ส.ว. หลายคลงมติงดออกเสียง และไม่มาร่วมประชุมเพื่อลงมติโหวตนายกฯ เมื่อวานนี้ (13 ก.ค.) เป็นการแสดงออกชัดว่าต้องการใช้สิทธิ์ในการเลือกนายกฯ จึงเชื่อว่าการแก้ไขมาตรานี้จะเป็นการทางออกที่ดีของทุกฝ่าย เพราะหากปล่อยให้ ส.ว. งดออกเสียง และไม่มาร่วมประชุมเพื่อลงมติ จะทำให้ประเทศเกิดทางตันและไปต่อไม่ได้ ดังนั้นการแก้กฎหมายนี้จึงเป็นการคืนอำนาจเลือกนายกรัฐมนตรีให้กับประชาชน
ส่วนข้อสังเกตว่าแม้จะมี ส.ว. จำนวนมาก ลงมติงดออกเสียง และไม่มาร่วมประชุม แต่ไม่ได้หมายความว่า ส.ว. ทั้งหมด ต้องการปิดสวิตช์เลือกนายกฯ แต่อาจเกิดจากอคติส่วนตัวที่มีต่อ ‘พิธา ลิ้มเจริญรัตน์’ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ของพรรคก้าวไกล ‘ชัยธวัช’ เชื่อว่าแม้จะไม่ใช่ทั้งหมด แต่คงมี ส.ว. อย่างน้อย 1 ใน 3 ที่ต้องการปิดสวิตช์ตัวเอง
สำหรับการยื่นร่างกฎหมายเสนอให้แก้ไข มาตรา 272 ‘ชัยธวัช’ อธิบายว่าจริงๆ แล้วพรรคก้าวไกล เตรียมยื่นเรื่องนี้อยู่เเล้ว เพียงแต่ยังไม่รู้ว่าจะยื่นเมื่อไหร่ จนกระทั่งเกิดเหตุการณ์เมื่อวานนี้ (13 ก.ค.) พรรคจึงได้ตัดสินใจเมื่อช่วงคืนที่ผ่านมาว่าจะยื่นวันนี้ (14 ก.ค.) เลย และได้แจ้งให้พรรคเพื่อไทย ทราบแล้วเมื่อช่วงเที่ยงที่ผ่านมา ส่วนอีก 6 พรรคร่วม ยอมรับว่ายังไม่ได้แจ้ง เพราะเป็นเรื่องที่เร่งด่วนจริงๆ
‘ชัยธวัช’ ยืนยันว่า ในการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีครั้งต่อไป ควรจะต้องเสนอชื่อ ‘พิธา ลิ้มเจริญรัตน์’ เป็นนายกรัฐมนตรีต่อ โดยวันนี้คงจะมีการหารือกับพรรคเพื่อไทยเกี่ยวกับแนวทางการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ในวันที่ 19 ก.ค.นี้ เมื่อถามว่าถ้าพรรคเพื่อไทยเสนอชื่อชิงนายกฯ ‘ชัยธวัช’ ย้ำว่าพรรคก้าวไกลยังมีสิทธิ์เสนออยู่
ส่วนประเด็นที่มีแกนนำพรรคก้าวไกลหลายจังหวัด เสนอให้ให้พรรคถอยเรื่องการแก้ไข มาตรา 112 เพื่อรักษาไว้ในนโยบายอื่นๆ ‘ชัยธวัช’ ระบุว่า ถ้าเป็นความเห็นจากแกนนำในพรรคของแต่ละจังหวัด หรือ ส.ส. พรรคจะมีกระบวนการหารือกัน แต่เบื้องต้นพยายามทำความเข้าใจก่อนว่า เรื่องนี้เป็นข้ออ้างบังหน้าเท่านั้น เพราะสาเหตุที่แท้จริงคือ คือ กลุ่มขั้วอำนาจเดิม มีความพยายามที่จะพลิกขั้วอยากจัดตั้งรัฐบาลเอง โดยร่วมมือกับกลุ่มผลประโยชน์ และกลุ่มทุนที่ไม่ต้องการเห็นพรรคก้าวไกลเป็นรัฐบาล เพราะไม่ต้องการเสียผลประโยชน์จากนโยบายของพรรคก้าวไกล ดังนั้นจึงพยายามทุกวิธีทาง ทั้งผ่านรัฐสภาหรือผ่านกระบวนการอื่นๆ รวมถึงข้อสงสัยเรื่องการทำงานขององค์กรอิสระบางองค์กรด้วยเพื่อเป้าหมายเดียว
เมื่อถามถึงประเด็นที่มีกระแสข่าวว่าอาจมีการเสนอชื่อ ‘พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ’ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตร ‘ชัยธวัช’ เชื่อว่ามีหลายพรรคที่ไม่เห็นด้วยกับการจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย และหวังว่าพรรคเหล่านี้จะยังยึดจุดยืนเดิม และไม่สนับสนุนให้ ‘พลเอกประวิตร’ เป็นนายกฯ เพราะรัฐบาลเสียงข้างน้อยบริหารประเทศไม่ได้ และหวังว่า ส.ว. จะไม่โหวตให้ ‘พลเอกประวิตร’ เช่นกัน
‘ชัยธวัช’ ย้ำว่าการที่พรรคก้าวไกล เสนอให้แก้ไขมาตรา 272 เป็นคนละเรื่องกับการโหวตนายกรัฐมนตรี ดังนั้นพรรคก้าวไกลจะยังคงเดินหน้าเจรจาขอเสียงจาก ส.ว. เพื่อให้สนับสนุน ‘พิธา’ เป็นนายกฯ เหมือนเดิม โดยเชื่อว่าหากร่างกฎหมายแก้มาตรา 272 ผ่านวาระแรกแล้ว จะใช้ระยะเวลาเพียง 2-3 สัปดาห์ก็จะเข้าสู่วาระ 3 ได้
ด้าน ‘วันมูหะมัดนอร์ มะทา’ ประธานสภาผู้แทนราษฎร และประธานรัฐสภา อธิบายขั้นตอนการแก้กฎหมายมาตรา 272 ว่า หลังจากนี้เจ้าหน้าที่จะตรวจสอบความถูกต้องของรายชื่อ และตรวจสอบว่าการแก้ไขมาตรานี้ ขัดต่อข้อบังคับหรือรัฐธรรมนูญหรือไม่ ยืนยันว่าจะดำเนินการให้เร็วที่สุด เพราะเป็นเรื่องเร่งด่วน
