การประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ศึกษาการจัดทำและติดตามการบริหารงบประมาณ สภาผู้แทนราษฎร ที่มี สุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน เป็นประธานกมธ.ฯ ได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาชี้แจงเรื่องการใช้งบประมาณในการก่อสร้างตึก สตง. ที่ถล่มจากเหตุแผ่นดินไหว โดยมี มณเฑียร เจริญผล ผู้ว่าการการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) พร้อมด้วย พงษ์นรา เย็นยิ่ง อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง มาชี้แจงด้วยตนเอง
โดย ผู้ว่าสตง. ชี้แจงว่า สตง. ได้ส่งเอกสารสำคัญไปให้ คณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงที่รัฐบาลตั้งขึ้นและดีเอสไอแล้ว และได้มอบเงินช่วยเหลือผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บแล้ว รวมทั้งได้ประสานบริษัทประกันทั้ง 4 บริษัท มาพูดคุยเรื่องเงินเยียวยา เพราะผู้รับจ้างได้ทำประกันความเสียหายไว้
หากคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง พิสูจน์สาเหตุของความเสียหายได้แล้ว บริษัทประกันควรเป็นผู้จ่ายเงินให้กับผู้เสียหาย เพราะรัฐจ่ายเงินในส่วนนี้ไปกว่า 900 ล้านบาท พร้อมย้ำว่า
“เราเป็นผู้เสียหาย จึงควรคืนเงินจำนวนนี้มา เพื่อชดเชยค่าใช้จ่ายที่รัฐได้จ่ายไปทั้งหมด”
— มณเฑียร กล่าว

ส่วนค่าใช้จ่ายในการรื้อถอน ผู้ว่า สตง. ชี้แจงว่า ได้ประสานไปยังผู้รับจ้าง ให้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายระหว่างการรื้อถอนทั้งหมด ส่วนข้อกฎหมายที่จะต้องดำเนินการหลังจากนี้ เช่น ข้อกฎหมายตามสัญญา หรือข้อกฎหมายอื่นๆ ผู้ว่าสตง. ระบุว่า ได้ส่งหนังสือไปถามสำนักงานอัยการสูงสุดแล้วว่าต้องทำอย่างไรต่อไป ซึ่งตอนนี้รอตอบกลับมา
นอกจากนี้ ผู้ว่าสตง. ยังระบุว่า ได้ทำหนังสือแจ้งตำรวจให้อายัดพื้นที่เกิดเหตุไว้ก่อนจนกว่าคดีจะแล้วเสร็จ ซึ่งทางตำรวจจะเข้ามาอายัดพื้นที่ หลังจากที่ กทม. ส่งมอบพื้นที่อย่างเป็นทางการ และตนเองได้เซ็นหนังสือไปยังผู้รับจ้าง ให้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นหลังจากนี้ทั้งหมดด้วย
ทั้งนี้ ผู้ว่าสตง. ยืนยันว่า ไม่ได้มีการพูดคุยเรื่องการสร้างตึกใหม่ เพราะต้องให้ความสำคัญกับการเยียวยาผู้เสียชีวิต และการสอบสวนหาสาเหตุของตึกถล่มก่อน
ขณะที่ พงษ์นรา เย็นยิ่ง อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง ชี้แจงว่า ภายใน 90 วัน จะได้ข้อสรุปเบื้องต้นว่าเหตุถล่มมาจากข้อผิดพลาดด้านใด โดยใช้แบบจำลองอาคารจาก 7 หน่วยงาน ร่วมกับการคำนวณแรงสั่นสะเทือนและแบบคณิตศาสตร์

เบื้องต้นมีการเก็บตัวอย่างเหล็กกว่า 300 ชิ้น และคอนกรีตกว่า 300 ตัวอย่าง แต่อุปสรรคสำคัญคืออาคารพังราบ 100% ทำให้ยากต่อการพิสูจน์รายละเอียดการก่อสร้าง โดยเฉพาะฐานคอลิฟท์ที่เป็นจุดสงสัยว่าเป็นต้นเหตุการถล่มก็พังทลายหมด
อธิบดีกรมโยธาฯ ยังระบุว่า แม้การออกแบบจะไม่สอดคล้องกฎหมาย แต่ยังไม่ฟันธงว่าเป็นเหตุถล่ม ต้องรอผลแบบจำลองก่อน ขณะเดียวกัน ผู้เชี่ยวชาญจากวิศวกรรมสถานฯ ชี้ว่าแบบชั้น 19 มีข้อสงสัยเรื่องการเปลี่ยนแปลงจากแบบเดิม และเน้นว่าตึก สตง. มีจุดอ่อนหลายด้าน โดยเฉพาะการใช้เหล็กและการออกแบบไม่สอดคล้องกฎกระทรวง แต่เอกสารสำคัญยังไม่สามารถเปิดเผยได้เนื่องจากอยู่ในกระบวนการสอบสวนของดีเอสไอและตำรวจ





