12 เมษายน 2567 แหล่งข่าวความมั่นคง เปิดเผยถึงกระแสข่าวการโจมตีและเข้ายึดพื้นที่เมืองเมียวดี ประเทศเมียนมาได้แล้วนั้น ว่า จากการข่าวที่รายงานมา ยังไม่มีการสู้รบในตัวเมืองเมียวดี การสู้รบล่าสุดคือ ที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ 10เม.ย. บริเวณที่ตั้งของ กองพัน 275 ซึ่งอยู่ห่างจาก ตัวเมืองเมียวดีประมาณ 1กม. ห่างจาก อ.แม่สอด 5 ก.ม. โดยกองพัน 275 มีทหารอยู่ประมาณ 140 นาย ส่วนกองกำลังพันธมิตรกระเหรี่ยง ที่เข้าตีประกอบไปด้วย KNLA, KNA (BGF), PDF, KTLA
การสู้รบวานนี้ที่บริเวณรอบกองพัน 275 ทางกองทัพอากาศเมียนมาได้นำเครื่องบินมาทิ้งระเบิด ทำให้ประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณรอบๆ ที่ตั้งดังกล่าวพากัน อพยพหนีการสู้รบบริเวณดังกล่าว ดังที่ปรากฏในข่าว
ในช่วงเย็น 10 เมษายน 2567 ที่ผ่านมา ทางกองกำลังพันธมิตรกะเหรี่ยง สามารถเข้ายึดค่ายได้ โดยทางกองกำลังพันธมิตรกะเหรี่ยงได้เปิดทางให้ ทหารของกองพัน 275 วางอาวุธและเดินทางออกจากค่าย ด้วยความปลอดภัย
การสู้ที่เกิดขึ้นในวันที่ 11เม.ย. บริเวณ อ.กอการเร็ก ห่างจาก อ.แม่สอด ประมาณ 60-80 กม. ตามที่ปรากฏในข่าวสาร ว่ามีการการเพิ่มเติมกำลังเข้ามาจาก พล.ร.เบา 55 การสู้รบในพื้นที่ดังกล่าว เป็นสู้รบที่เกิดขึ้นมานาน และต่อเนื่องหลายเดือน ผลจากการสู้ดังกล่าว ไม่ได้ส่งผลกระทบกับใดๆ กับชายแดนไทย เพราะการอพยพของประชาชนดังกล่าว จะอพยพไปยังเมืองไปร่จง เมืองนาบู และ เมืองตามันยะ ที่ไทยเพิ่งส่งความช่วยเหลือเข้าไป เมื่อวันที่ 25 มี.ค.67 ที่ผ่านมา
สำหรับประเด็นสำคัญ เมืองเมียวดี เป็นเมืองที่ถือได้ว่าเป็นเส้นเลือดใหญ่ของประเทศเมียนมา ที่ผ่านมามีกองกำลัง BGF ซึ่งเป็นกองกำลังดูแลรักษาความสงบเมืองนี้ BGF เป็นกองกำลังที่ ได้รับผลประโยชน์จากประเทศเมียนมาในการดูและรักษาความสงบเรียบร้อย ในเมืองเมียวดี ปัจจุบัน BGF ได้ถอนตัวจากการอยู่ภายใต้รัฐบาลเมียนมา เมื่อวันที 11 มี.ค. เปลี่ยนเป็น กองกำลัง KNA ที่ผ่านมา เพื่อมาร่วมกับกะเหรี่ยงกลุ่มอื่นๆ แต่ถึงจะถอนตัวออกมาจากเมียนมาแล้ว แต่ทาง KNA (BGF) ยังสามารถติดต่อสื่อสารพูดคุยกับทางรัฐบาลของเมียนมาได้
นอกจากนี้ทาง KNA (BGF) ยังปรากฏข่าวสารว่าเป็นผู้ที่เจรจาให้ทหารพม่ากลุ่มต่างๆ ในเมียวดี วางอาวุธโดยไม่ต้องสู้รบ เพื่อที่จะได้ไม่สร้างความเสียหาย ให้กับเมืองเมียวดีและประชาชน
ทั้งนี้มีรายงานสถานการณ์ฝั่งเมืองเมียวดี ว่า เริ่มมีการพูดคุยถึงการขับเคลื่อนเมืองเศรษฐกิจเมืองเมียวดีให้กลับมาปกติ ดำเนินชีวิตอย่างเดิม โดยทางรัฐบาลเมียนมา อาจจะให้ทางพันธมิตรกะเหรี่ยง เป็นผู้ดูแลบริหารจัดการสะพานมิตรภาพทั้ง 2 แห่ง โดยแบ่งปันสัดส่วนผลประโยชน์ให้เป็นที่พึงพอใจกันทุกฝ่าย สถานการณ์ในเมืองเมียวดี จึงยังไม่มีความน่าวิตกกังวลใดๆ
“ที่ผ่านมาประชาชนส่วนใหญ่ก็เริ่มกลับไปใช้ชีวิตแบบเดิม ใครที่ออกจากบ้าน ไปด้วยความกังวลสถานการณ์สู้รบ ก็จะเริ่มเดินทางกลับเข้าไป โดยสรุปสถานการณ์ ในเมืองเมียวดี น่าจะกลับมาปกติในเร็ววัน ไม่มีสถานการณ์ใดทีน่ากังวลตามที่ปรากฏในสื่อต่างๆ ในห้วงที่ผ่านมา” แหล่งข่าวความมั่นคง ระบุ
