นันทนา นันทวโรภาส สมาชิกวุฒิสภา (สว.) อภิปรายนโยบายรัฐบาล โดยออกตัวว่า วันนี้ขอไม่ใช้สไลด์ในการอภิปราย เพราะกลัวจะถูกเบลอ ซึ่งมิติการสื่อสารทางการเมือง คิดว่า ไม่เหมาะสมเป็นอย่างยิ่งที่เบลอบุคคลสาธารณะเหมือนอาชญากร ลองนึกดูเล่นๆ ถ้าโอบามามาเห็นการอภิปราย เขาจะเสียใจขนาดไหน ถ้าภาพเขาถูกเบลอในรัฐสภาไทย
จากนั้น ได้อภิปรายถึงนโยบายเร่งด่วนที่รัฐบาลเขียนมา 10 ข้อว่า ไม่มีเรื่องการศึกษา แต่ต้องขอชื่นชมถ้อยคำหรูหราที่ใส่ไว้ในนโยบาย ทั้งเรื่องการพัฒนาระบบการศึกษาที่ยืดหยุ่น เน้นทักษะใช้ประโยชน์ได้จริง ส่งเสริมการปลดล็อกศักยภาพ เฟ้นหาและช่วยเหลือเด็กที่หลุดจากระบบ ถ้อยคำเหล่านี้จะมีความหมาย ถ้าท่านเข้าใจความสำคัญของการศึกษาอย่างลึกซึ้ง แต่ทำไมบริษัทชั้นนำที่ผลิตสินค้าสำหรับโลกแห่งอนาคตต่างๆ จึงตัดสินใจลงทุนในประเทศมาเลเซีย อินโดนีเซีย และเวียดนาม แทนที่จะเป็นประเทศไทย นันทนา จึงได้ยกดัชนีวัดขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศต่างๆ แล้วพบว่า จุดอ่อนสำคัญ คือเรื่องประสิทธิภาพของคน หรือแรงงาน ทั้งปกขาวและปกน้ำเงิน ซึ่งมาจากคุณภาพการศึกษา โดยขณะนี้การศึกษาของประเทศไทยอยู่ในลำดับที่ 54 จาก 67 ประเทศ จากที่ไอเอ็มดีสำรวจ และการสอบ PISA ในรอบ 10 ปี ก็มีผลต่ำลงอย่างต่อเนื่องเช่นเดียวกัน รวมถึงทักษะการใช้ภาษาอังกฤษด้วย
นันทนา ชี้ว่า ได้ยินปัญหานี้กันมาทุกปี แต่ยังไม่มีรัฐบาลไหนลงมือทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน แล้วรัฐบาลนี้ควรจะทำอย่างไรต่อไป จึงเสนอแนะว่า ต้องไม่ปล่อยให้กระทรวงศึกษาธิการและกระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัฒกรรมดำเนินการแก้ไขกันเองอย่างที่ทำกันมา เพราะการศึกษาเป็นเรื่องใหญ่มากเกี่ยวกับทุกคน และอนาคตของชาติ เพราะโอกาสที่จะยกระดับความอยู่ดีกินดีของประชาชนล้วนเกี่ยวข้องอย่างลึกซึ้ง ดังนั้น การดำเนินการจะต้องทำแบบบูรณาการ วางทิศทางแก้กฎหมาย จัดระบบงบประมาณ บุคลากร และการทำงานร่วมกันของภาครัฐและเอกชน รวมทั้งการปลูกฝังค่านิยมใหม่ๆ
นอกจากนี้ เพื่อเป็นการส่งสัญญาณไปยังภาคส่วนต่างๆ รวมถึงนักลงทุนต่างประเทศ อยากให้นายกรัฐมนตรีผลักดันเรื่องนี้เป็นวาระแห่งชาติ ตั้งคณะกรรมการระดับสูงว่าด้วยการปฏิรูปการศึกษาไทย โดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานด้วยตัวเอง
“ดิฉันอยากเห็นท่านนายกฯ สร้างประวัติศาสตร์ เรื่องที่นายกฯ คนก่อนไม่เคยเห็นความสำคัญ นั่นคือการปฏิรูปการศึกษาไทย อยากให้ดูบทเรียนในประเทศภูมิภาคนี้ ที่ล้วนใช้การศึกษาเพื่อการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ เป็นแนวทางหลักในการพัฒนาประเทศทั้งสิ้น” นันทนา กล่าว
นันทนา ทิ้งท้ายว่า ถ้าต้องการแก้ปัญหาเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน ต้องเริ่มต้นที่การศึกษาพัฒนาคุณภาพของคน ให้มีศักยภาพสูงแข่งขันกับทั่วโลกได้ ด้วยการปฏิรูปการศึกษา และประกาศให้เป็นวาระแห่งชาติ นี่คือทางรอดของประเทศไทย