ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกเหนือจากไฮไลท์การขึ้นเวทีปราศรัยของ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เพื่อช่วยหาเสียงให้ กานต์ กัลป์ตินันท์ ผู้สมัครนายก อบจ.อุบลราชธานี ณ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานีแล้ว
ยังมี ณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ในฐานะแกนนำพรรคเพื่อไทย ที่ขึ้นปราศรัยเช่นกัน โดยเจ้าตัวอ้างว่า “มีข่าวแว่วๆ มาจากกรุงเทพฯ มาบอกให้สบายใจกันก่อน พี่น้องชาวนาฟังทางนี้ ได้ยินมาว่า งบช่วยเหลือชาวนา ไร่ละพันของจังหวัดอุบลราชธานี น่าจะโอนในวันพรุ่งนี้แล้ว” ซึ่งเรื่องนี้เรียกเสียงเฮจากผู้เข้าร่วมฟังปราศรัยได้อย่างคึกคัก
ณัฐวุฒิ กล่าวว่า วันนี้มาในฐานะสมาชิกพรรค มาในฐานะเพื่อน ฐานะพี่น้อง และมาในฐานะคนหนึ่งที่ช่วยงานรัฐบาลชุดนี้อยู่ และอยากจะมาบอกพี่น้องว่าวันพรุ่งนี้ 10.00 น. ให้เปิดทีวีดู แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะแถลงนโยบายรัฐบาล ที่แก้ปัญหาเศรษฐกิจ ประกาศแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือนทั้งระบบ
รัฐบาลพยายามแก้ปัญหาเศรษฐกิจ พิชิตความยากจน รัฐบาลกำลังทำงานเดินหน้า ก็อยากได้ผู้บริหารท้องถิ่นอย่างนายก อบจ. เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน จะได้เข้ามาทำงานประสานในเรื่องงบประมาณ ในเรื่องโครงการพัฒนาทั้งหลาย
มีคนมาถามผมว่า รัฐบาลจะอยู่ได้ไหม? เพราะรู้สึกไม่สบายใจเพราะเห็นนายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ดำเนินรายการ ‘สนธิทอล์ค’ ออกมาแล้ว ออกมายื่นหนังสือ หลายคนมีความเป็นห่วงและไม่สบายใจ ผมขอพูดตรงนี้ รัฐบาลไม่ได้ทำอะไรผิด ไม่มีทุจริตคอรัปชั่น ไม่มีใครชาติ ไม่มีเสียดินแดน ดังนั้นมั่นใจได้ว่าอยู่ยาวๆ จนหมดสมัย ประชาชนที่เห็นต่างกับรัฐบาล เราก็ไม่ได้ไปท้าทายเขา เราเป็นรัฐบาล ไม่หาเรื่องเผชิญหน้าประชาชน แต่เมื่อมั่นใจว่าไม่ได้ทำความผิด มั่นใจว่ารัฐบาลกำลังเดินหน้าเรื่องนโยบาย ก็ไม่มีความจำเป็นต้องกังวล บางคนก็ห่วงว่าจะเสียดินแดน ทำให้ตกเป็นของเพื่อนบ้าน จะเสียได้อย่างไร ยังไม่ได้คุยอะไรกันเลย ยังไม่ได้มีกรรมการอะไรไปตกลงเลย
ณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ
เมื่อต่างคนต่างบอกว่าดินแดนตรงนี้เป็นของประเทศตัวเอง ก็ต้องมีบันทึกความเข้าใจพื้นที่ทับซ้อนของไหล่ทวีป (MOU 44) นี่คือปกติของประเทศที่มีชายแดนติดกัน จะมีพื้นที่ที่ตกลงกันไม่ได้ เรียกว่าพื้นที่ทับซ้อน
โดยปกติพื้นที่ทับซ้อนก็ไม่มีใครเข้าไปครอบครองก็ปล่อยเอาไว้ และสิ่งที่เป็นประเด็นอยู่ จึงทำให้ต้องมีบันทึกข้อตกลงขึ้นมา เพราะทั้งสองประเทศมองว่าถ้าจะคุยกันเรื่องนี้ต้องคุยกันตามข้อตกลงเพื่อให้เกิดความเห็นตรงกัน
ยังไม่มีใครเสียแผ่นดิน ยังไม่มีใครเสียแผ่นน้ำ ดังนั้นให้สบายใจได้ และที่สำคัญ MOU 44 ที่มีประเด็นอยู่ก็เพราะว่า รัฐบาลทั้งสองประเทศเห็นตรงกันว่สใต้ทะเลตรงนั้น มีก๊าซมหาศาล มีพลังงานปิโตรเลียมมูลค่าไม่ต่ำกว่า 10 ล้านล้านบาท จึงต้องพูดคุยกัน ใครจะเป็นรัฐบาลเพื่อขายดินแดน รัฐบาลนี้ไม่มี รัฐบาลนี้มาเพื่อบริหารประเทศให้ชาวนาขายข้าวได้ราคา, ขายยางพาราได้ราคาดีขึ้น
ณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ