แจง ‘ทักษิณ’ ไม่ได้วางอำนาจเหนือนายกฯ แนะ ‘ลุงป้อม’ ทำใจ จากดาวฤกษ์สู่ดาวดับ

26 ธ.ค. 2567 - 08:44

  • ‘เต้น ณัฐวุฒิ’ แจง ‘ทักษิณ’ ไม่ได้วางอำนาจเหนือนายกฯ

  • แนะ ‘ลุงป้อม’ ทำใจ จากดาวฤกษ์สู่ดาวดับ

  • แนะฝ่ายค้านหากยังถามหาภาวะผู้นำของนายกฯ คงต้องย้อนดูภาวะผู้นำของ ‘ผู้นำฝ่ายค้าน’ ในสภาฯ ด้วย

nattawut_udd_26_dec_2024_part2_SPACEBAR_Hero_96141d41ff.jpg

กรณี ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปราศรัยเดือดระหว่างช่วยผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทย หาเสียงเลือกตั้ง นายกอบจ. ที่ จ.เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 24 ธ.ค. ที่ผ่านมา โดยมีเนื้อหาบางช่วงพูดถึงการปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และประเด็นเรื่องว้าแดง 

ล่าสุดวันนี้ (26 ธ.ค.)  ผู้สื่อข่าวได้สอบถาม ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ว่าท่าทีของนายทักษิณที่กล่าวปราศรัยในวันดังกล่าว อาจทำให้สังคมมองว่ามีอำนาจเหนือนายกรัฐมนตรีได้ ณัฐวุฒิ เชื่อว่าไม่ใช่แบบนั้น เพราะท่านปราศรัยบนเวทีหาเสียงในบรรยากาศที่พี่น้องประชาชนแสดงความรู้สึกว่าได้รับผลกระทบจากปัญหาต่างๆ โดยเฉพาะเรื่องแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ดังนั้นการที่จะพูดให้ชัดว่าท่านคิดอย่างไร ควรมีมาตรการแบบไหน มันสร้างขวัญกำลังใจให้ผู้คน และการใช้อำนาจใดๆ ต้องใช้โดยรัฐบาลอยู่แล้ว เชื่อว่ากลไกรัฐของแต่ละประเทศก็มีการประสานงานเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด ย้ำว่าต้องทำโดยรัฐบาลแน่ๆ ไม่ใช่ทักษิณจะเป็นคาวบอย

“ ผมว่าประชาชนที่เขาได้ยิน เขาดีใจนะครับ เขาเกิดความหวัง เขาคงไม่ได้หลับตานึกภาพว่า นายกฯ ทักษิณจะแต่งชุดคาวบอย ขี่ม้าพกปืน บุกเข้าไปจับพวกคอลเซ็นเตอร์ที่ประเทศไหน แต่เขาคาดหวังว่า อดีตนายกรัฐมนตรีซึ่งมีความใกล้ชิดอย่างยิ่งกับนายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันเห็นปัญหานี้ ก็เชื่อว่านายกรัฐมนตรี และกลไกรัฐ ก็จะจะเห็นปัญหาในมิติหรือในน้ำหนักแบบเดียวกัน เขาคาดหวังอย่างนั้น ”

ส่วนจะเป็นแบบ รัฐบาลพ่อเลี้ยง หรือเปล่า ณัฐวุฒิ ระบุว่า เป็นฉายาของสื่อมวลชน ซึ่งนายกฯ หรือว่าคนในรัฐบาลไม่ได้เกรี้ยวกราด ไม่ได้ออกมามีวิวาทะใดๆ เพราะเคารพหน้าที่กัน พร้อมพูดติดตลกว่า เห็นท่านนายกฯทักษิณบอกว่าหากรัฐบาลนี้แก้ปัญหาเศรษฐกิจได้ ปีหน้าคนไทยจะได้เป็นพ่อเลี้ยงกันหมด ส่วน นายกฯแพทองธาร ท่านก็บอกว่ามีพ่อเป็นนายกฯ ที่มีประสบการณ์มีความสามารถ และส่วนตัวผมเห็นว่าท่านนายกฯทักษิณเป็นคนระดับโลก จึงไม่แปลกอะไรถ้าท่านจะคอยให้คำปรึกษา

เมื่อถามว่าประเด็นที่ทักษิณพูดจะกลายเป็นประเด็นที่ถูกนำมาเชื่อมโยงว่าเป็นการครอบงำพรรคเพื่อไทยหรือไม่ ณัฐวุฒิ ระบุว่าอยากให้มองที่ประโยชน์ของประชาชนเป็นหลัก ให้มองที่ความต้องการของประชาชนก่อน

“ เมื่อ นายกฯทักษิณ ท่านพูดด้วยอีกเสียงหนึ่ง มันก็เน้นย้ำว่าทุกองคาพยพที่เกี่ยวข้องกับอำนาจรัฐนี้ เห็นปัญหาเดียวกัน และตอบโจทย์ประชาชน มันคงไม่ใช่เรื่องว่าใครจะไปครอบงำ แล้วก็ทำให้ต้องยุบพรรคการเมืองกันอีก ในเมื่อเวลานี้สิ่งที่ครอบงำประชาชนอยู่ คือขบวนการคอลเซ็นเตอร์ ที่ผมใช้คำว่าครอบงำเพราะว่ามันเพียงแค่การโทรศัพท์ เพียงแค่การวิดีโอคอล มันสามารถหลอกคนได้เป็นแสน เป็นล้านบาท ดังนั้นรัฐบาลแสดงเจตนาชัดเจนที่จะจัดการคนพวกนี้ ขบวนการครอบงำสังคมไทยแบบนี้ ผมว่าประชาชนส่วนใหญ่เขาเอาด้วย ”

ณัฐวุฒิ ยังมองว่า เท่าที่ผมได้ทำงานกับท่านนายกฯแพทองธาร ท่านไม่ปล่อยเรื่องนี้ให้ผ่านวันๆ แน่ หากหน่วยงานราชการใดที่เกี่ยวข้องและรับผิดชอบ ไม่ขานรับนโยบายในการจัดการเรื่องนี้ ผมว่ามีปัญหาแน่ๆ เพราะนี่คือการแก้ปัญหาให้ประชาชนอย่างตรงไปตรงมา

  • แนะ ‘ลุงป้อม’ ทำใจ จากดาวฤกษ์สู่ดาวดับ

นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวยังถามถึงฉายาสภาฯ ประจำปี 2567 ที่มอบฉายาดาวดับให้กับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ และ ธิษะณา ชุณหะวัณ หรือแก้วตา สส.กทม.พรรคประชาชน

โดย ณัฐวุฒิ มองว่า เป็นภาพสะท้อนจากสื่อมวลชน ส่วนผู้ที่ได้รับการตั้งฉายาจะชอบใจหรือไม่ชอบใจต้องยอมรับว่าเป็นหนึ่งเสียงจากคนที่ทำหน้าที่เฝ้ามอง และอยู่ที่ใจของตัวเองว่ายอมรับหรือไม่

โดยเฉพาะ พล.อ.ประวิตร เท่านอยู่ในฐานะดาวฤกษ์มานาน ถ้าวันหนึ่งแสงจะเบาลงหรือริบหรี่ลงบ้าง ขอให้ท่านทำความเข้าใจกับสิ่งนี้ให้ได้ และชีวิตท่านน่าจะมีความสุขขึ้นหลังปีใหม่ 

ส่วน ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ผู้นำฝ่ายค้าน ที่ได้รับฉายาเท้งเต้ง ณัฐวุฒิ มองว่า คงเป็นการบ้านของณัฐพงษ์รวมถึงพรรคการเมืองฝ่ายค้านว่าจะตีโจทย์ข้อนี้อย่างไร ไม่อยากไปวิจารณ์ลงลึกเพราะอาจมีการตอบโต้กันไปมา 

แต่เรื่องนี้ ถ้าฝ่ายค้านยังคงพูดถึงภาวะผู้นำของนายกรัฐมนตรี คงต้องหันไปดูภาวะผู้นำของผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรด้วย 

ส่วนประเด็นที่ฝ่ายค้านเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีเข้าไปตอบกระทู้ในสภาฯ ณัฐวุฒิ ระบุว่า การตอบกระทู้ในสภาเป็นภาระหน้าที่หนึ่งของคนเป็นนายกรัฐมนตรี เพียงแต่ ถ้าผู้ถามประสงค์จะได้คำตอบจริงๆ ไม่แปลกที่นายกรัฐมนตรีจะมอบหมายรองนายกฯ หรือรัฐมนตรี ที่เกี่ยวข้องโดยตรงไปให้คำตอบได้

พร้อมมองว่ารัฐบาลนี้เดินหน้าได้กว่า 3 เดือน สถานการณ์ขณะนี้ถึงขนาดช่วยกันเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีเข้าตอบกระทู้ในสภาฯ ทันที ในเมื่อคำถามยังมีคำตอบจากรัฐบาลอยู่ และนายกรัฐมนตรีได้แสดงเจตนาว่าช่วงเวลาในการจัดการภารกิจต่างๆ ได้ลงตัว การเข้าสภาฯ ไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะเกิดขึ้นได้ 

ดังนั้น หากเราลดพื้นที่ทางการเมืองในแต่ละเรื่องลง และเน้นเนื้อหาสาระ เรื่องแบบนี้คงไม่ถูกตีฟููเป็นเรื่องใหญ่ เมื่อมีคำถามมีผู้รับผิดชอบไปตอบซึ่งมีรูปธรรมในการดำเนินการรองรับมองว่าประโยชน์จะเกิดกับประชาชนอยู่แล้ว

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์