‘หัวหน้าเท้ง’ ชี้เป็นไปได้! ‘เพื่อไทย’ เขี่ยทิ้ง ‘ภูมิใจไทย’ แต่ย้ำ ‘ปชน.’ ไม่ร่วมรัฐบาลนี้แน่นอน

23 เม.ย. 2568 - 06:41

  • ‘หัวหน้าเท้ง’ ยัน ‘ปชน.’ ไม่ร่วมรัฐบาลสมัยนี้แน่นอน

  • มองสมการการเมืองเป็นไปได้ ‘เพื่อไทย’ เขี่ยทิ้ง ‘ภูมิใจไทย’

  • เหตุฝ่ายค้านมี ‘คดี 44 สส.’ ทำตัวเลขเปลี่ยน

Natthaphong-said-Peoples-Party-definitely-not-join-this-government-SPACEBAR-Hero.jpg

ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคประชาชน แสดงความเห็นถึงกระแสข่าวรัฐบาลจะผลักพรรคภูมิใจไทยออก แล้วเอาพรรคพลังประชารัฐเข้าไปแทน ว่า เป็นสิ่งที่พรรคเพื่อไทยเองต้องตัดสินใจ หากจะมองต่อไปในเรื่องสมการและตัวเลขทางการเมือง หรือจำนวน สส. ของฝ่ายค้าน ก็ยังมีส่วนของคดี 44 สส. ที่อาจจะส่งผลกระทบต่อ 25 สส. ของพรรคประชาชนที่อยู่ในสภาฯ ด้วย และตัวแปรนี้ก็อาจส่งผลกระทบทางการเมือง

เราคงตอบแทนรัฐบาลไม่ได้ แต่สิ่งที่เราทำได้อย่างเต็มที่คือการเตรียมตัวในการต่อสู้คดี และผลักดันนโยบาย ส่วนรัฐบาลจะเอาอย่างไร ก็อยู่ที่ตัวนายกรัฐมนตรีเอง แต่สิ่งสำคัญที่สุดที่ประชาชนอยากเห็นคือเสถียรภาพของรัฐบาลในการเดินหน้าแก้ปัญหาของประเทศ ซึ่งนายกรัฐมนตรีควรให้ความชัดเจนได้มากกว่านี้

ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ

เมื่อถามว่า มีความเป็นไปได้หรือไม่ที่จะเอาพรรคภูมิใจไทยออก แล้วเอาพรรคประชาชนเข้าไปแทน? ณัฐพงษ์ มองว่า “ไม่น่าเป็นไปได้อยู่แล้ว เรื่องนี้น่าจะตอบได้ค่อนข้างชัด เพราะที่ผ่านมา ผมยืนกรานไปหลายครั้งว่า ในสภาฯ ชุดนี้ พรรคประชาชนจะไม่เข้าร่วมรัฐบาล

เมื่อถามว่ามีการเจรจาเบื้องลึกเบื้องหลังกับพรรคเพื่อไทยหรือไม่ สำหรับการเลือกตั้งรอบหน้า? ณัฐพงษ์ ยืนยันว่า ตอนนี้ยังไม่มีการพูดคุยเรื่องการจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคร่วมรัฐบาลใดๆ ทั้งสิ้น รวมถึงพรรคอื่นด้วยก็ไม่มีการพูดคุยกัน เพราะก่อนจะมีการพูดคุยเรื่องนี้ น่าจะอยู่ในช่วงใกล้การเลือกตั้งครั้งหน้า ที่จะต้องหารือกันเรื่องจุดยืน อุดมการณ์ทางการเมือง และจุดยืนในการดำเนินนโยบายต่างๆ

ตอนนี้ยืนยันว่า อย่างไรก็ตาม พรรคประชาชนไม่มีทาง ไม่เคยมีโอกาสเข้าไปคุย และไม่คิดจะเข้าไปคุย

ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ

ส่วนที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่าการอภิปรายของพรรคประชาชนไม่ดุเดือดเท่าการอภิปรายในสมัยรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นเพราะเอาไว้ต่อรองในการเลือกตั้งรอบหน้า? ณัฐพงษ์ กล่าวว่า ไม่ได้คิดว่าจะจับหรือไม่จับกับพรรคไหน แต่พรรคประชาชนเราชัดเจนว่าต้องการเสนอนโยบายที่เป็นผลประโยชน์สูงสุดของประชาชนเป็นหลัก ยังคงยืนยันในจุดเดิม

การทำหน้าที่ของฝ่ายค้านในขณะนี้ คือการทำหน้าที่ฝ่ายค้านเชิงรุก ผลักดันกฎหมาย และยังคงเดินหน้าทำงานต่อไป ส่วนจุดยืนว่าจะจับกับใครนั้น ในการหาเสียงเลือกตั้งครั้งหน้า คงมีการแสดงจุดยืนชัดเจนมากกว่านี้

ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ

เมื่อถามว่าเป็นไปได้หรือไม่ที่พรรคเพื่อไทยจะนำพรรคภูมิใจไทยออก และส่งผลต่อสมการทางการเมืองจนทำให้เสียงปริ่มน้ำหรือไม่? ณัฐพงษ์ กล่าวว่า ถ้ามองตัวเลขทางการเมือง ก็มีความเป็นไปได้ หากมีเรื่อง 44 สส. เข้ามา แต่อย่างไรก็อยู่ที่ตัวนายกรัฐมนตรี ผมไม่สามารถตอบแทนพรรคเพื่อไทยได้”

ส่วนเมื่อถามถึงเสถียรภาพของรัฐบาลในขณะนี้? ณัฐพงษ์ กล่าวว่า แน่นอนว่าในกรอบใหญ่หรือบริบทการค้าโลก เราอยากได้รัฐบาลที่มีเสถียรภาพในการไปเจรจาผลประโยชน์ประชาชน ให้ประชาชนแสดงความคิดเห็นทำทุกอย่างตรงไปตรงมาอย่างสร้างสรรค์ ไม่ได้เอาทุกอย่างมาเป็นประเด็นทางการเมืองเพื่อที่จะสั่นคลอนเสถียรภาพของรัฐบาลเป็นหลัก ดังนั้น คงต้องมองเป็นเรื่องๆ

เรื่องไหนที่เราสนับสนุนรัฐบาลเพื่อประโยชน์ของประเทศ เราก็พร้อมทำงาน ถ้าเรื่องไหนที่รัฐบาลทำผิด เราก็พร้อมแสดงความคิดเห็นอย่างตรงไปตรงมา

ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ

‘พรรคประชาชน’ พร้อมอภิปราย ‘งบฯ 69’ มองรัฐบาลทำไม่ตอบโจทย์

ส่วนการเตรียมเปิดสมัยประชุมสภาผู้แทนราษฎรสมัยวิสามัญ เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2569 ในช่วงวันที่ 28-30 พฤษภาคม

ผู้นำฝ่ายค้าน ชี้แจงว่า ขณะนี้พรรคประชาชนได้เตรียมความพร้อมสำหรับการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบฯ แล้ว มีการแบ่งหน้าที่ให้สมาชิกว่าใครจะอภิปรายเรื่องอะไร

โดยมี ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคและ สส.บัญชีรายชื่อ เป็นผู้เตรียมเนื้อหาให้กับสมาชิกทุกคน พรรคประชาชนจึงมีความพร้อมอย่างเต็มที่ในการอภิปรายและส่งข้อเสนอไปยังรัฐบาลว่า งบประมาณปี 2569 ควรจะจัดสรรอย่างไรให้ตอบโจทย์ประเทศมากที่สุด

ส่วนการอภิปรายของพรรคประชาชนจะพุ่งเป้าไปที่งบประมาณหลัก อย่างโครงการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต ที่ต้องแจกอีกหลายเฟสหรือไม่นั้น? ณัฐพงษ์ มองว่าปัญหาในการจัดสรรงบประมาณ คือการไม่ตอบโจทย์ประเทศในอนาคตมากกว่า ซึ่งบริบทของโลกและสถานการณ์ของประเทศที่เปลี่ยนแปลงไป คิดว่าพรรคประชาชนจะมีข้อเสนออะไรใหม่ๆ โดยเฉพาะปัญหาด้านเศรษฐกิจ และปัญหาที่เกี่ยวข้องกับการเกษตรที่จะอภิปรายงบประมาณในส่วนนี้ ที่คนใช้แรงงานและเกษตรกรต้องการรอฟังคำตอบว่า จะสรรงบฯ อย่างไรที่จะตอบโจทย์

เชื่อ ‘เพื่อไทย’ ไม่กล้าเร่งถก ‘กฎหมายเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์’ เพราะเคยมีบทเรียน

ส่วนที่ วันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ยอมรับว่าหากในสมัยวิสามัญพิจารณางบประมาณฯ ปี 2569 รวมถึงร่าง พ.ร.ก. 2 ฉบับ เสร็จสิ้นแล้ว ยังสามารถพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจรฯ ต่อได้นั้น ผู้นำฝ่ายค้าน กล่าวว่า น่าจะยังเร็วเกินไป 

เพราะผลการศึกษาเรื่องความเสี่ยง อย่างเรื่องการฟอกเงิน และการป้องกันการทุจริตคอร์รัปชัน รวมถึงปัญหาที่จะตามมาอย่างการติดการพนัน น่าจะต้องใช้ระยะเวลามากกว่านี้ในการศึกษาอย่างรอบด้าน จึงเห็นว่ารัฐบาลไม่ควรหยิบขึ้นมาพิจารณา

แม้รัฐบาลจะถือเสียงข้างมาก แต่ความเห็นของพรรคร่วมรัฐบาลในเรื่องนี้ยังแตกต่างกันอยู่ คิดว่าพรรคเพื่อไทยน่าจะมีบทเรียนจากการพยายามผลักดันเข้าสภาฯ แต่สุดท้ายพรรคร่วมไม่เห็นด้วย จึงไม่ควรจะรีบเร่งจนเกินไป

ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์