กระทรวงมหาดไทย (1 ตุลาคม 2567) อรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วย จิณณารัชช์ สัมพันธรัตน์ นายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย เข้าสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกระทรวงมหาดไทย ศาลพระชัยมงคล ศาลพระกาฬไชยศรี และพระอนุสาวรีย์ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ และเข้ารายงานตัวต่อ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย (รมว.มหาดไทย) เนื่องในโอกาสได้รับพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงมหาดไทย โดยมีผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงมหาดไทย ข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ และเจ้าหน้าที่ ร่วมแสดงความยินดี
อรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย คนที่ 42 เกิดวันที่ 16 กรกฎาคม 2514 สมรสกับ จิณณารัชช์ สัมพันธรัตน์ นายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย ผ่านการฝึกอบรมหลักสูตรนักบริหารงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย รุ่น 2 หลักสูตรนักปกครองระดับสูง รุ่นที่ 58 หลักสูตรการป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) รุ่นที่ 65 หลักสูตร Development Project Management and Implementation Skills ณ เครือรัฐออสเตรเลีย หลักสูตร Thailand Pioneering Leadership และหลักสูตรพัฒนาผู้นำ (MOILP1) สำหรับผู้บริหารกระทรวงมหาดไทย
อรรษิษฐ์ เคยดำรงตำแหน่ง ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก รองปลัดกระทรวงมหาดไทย อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน อธิบดีกรมการปกครอง และได้รับพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง ปลัดกระทรวงมหาดไทย คนที่ 42 ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2567
วันเดียวกันนี้ (1 ตุลาคม 2567) อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย เป็นประธานการประชุมผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงมหาดไทย ผ่านระบบประชุมทางไกล (VCS)
โดยกล่าวแสดงความยินดีกับปลัดกระทรวงมหาดไทยคนที่ 42 ที่เข้ารับตำแหน่งในวันนี้ ว่า คิดว่าเราทุกคนคงคุ้นเคยกันอย่างดี และได้ทำงานร่วมกันกับท่าน ซึ่งผมเชื่อมั่นว่าเราจะได้ร่วมมือกันในการขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาลและภารกิจต่างๆ ของกระทรวงมหาดไทยได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะท่านเคยดำรงตำแหน่งสำคัญของกระทรวงมหาดไทยมาแล้วในทุกระดับ จึงเชื่อว่าจะนำพาไปสู่ความสำเร็จและสัมฤทธิ์ผล ทำให้ข้าราชการกระทรวงมหาดไทยปฏิบัติหน้าที่ราชการได้อย่างเข้มแข็ง เป็นไปด้วยความสามัคคี และจะยกระดับการทำงานเพื่อพี่น้องประชาชนอย่างเต็มที่
อนุทิน กล่าวด้วยว่า ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมาถือว่าเป็นช่วงที่ทั้งรัฐมนตรี และฝ่ายประจำได้ปรับตัวเข้าหากันว่าจะทำอย่างไรให้ทำงานเพื่อประชาชนให้มีประสิทธิภาพ ซึ่งก็ได้เห็นว่าแต่และคนมีทัศนคติ หรือความพร้อมที่จะปรับตัวอย่างไร เป็น 1 ปีแห่งการเรียนรู้ไปสู่ 3-4 ปีข้างหน้าที่จะทำงานอย่างเข้มแข็ง
“ขอฝากความหวังในการปฏิบัติภารกิจของรัฐบาลและนโยบายของรัฐมนตรีมหาดไทยทุกท่านอย่างมีประสิทธิภาพ มีธรรมาภิบาล ทำให้พี่น้องคนไทยเห็นว่าเราทุกคนอยู่ที่นี่เพื่อบำบัดทุกข์ บำรุงสุขให้กับพี่น้องประชาชนอย่างชัดเจน ขอให้วันนี้เป็นโอกาสใหม่ของการเริ่มต้นปีงบประมาณ 2568 ด้วยความสมัครสมานสามัคคีไปด้วยกัน และขอย้ำว่าเราทุกคนไม่เสียเวลามองอดีต เรามีความอดทนพร้อมรับความกดดัน เอางานเป็นสำคัญ ขอให้ทุกท่านปฏิบัติหน้าที่ดำรงคงไว้ซึ่งความมีวินัยของข้าราชการอย่างเต็มที่ตามระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน การทำงานต้องรู้จักผู้บังคับบัญชาและที่สำคัญคือต้องรู้จักว่าเจ้านายของเราคือประชาชน”
อนุทิน กล่าวอีกว่า ขอให้ทุกหน่วยงานร่วมกันสนองนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงมหาดไทยอย่างเต็มที่ขอเป็นกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ทุกท่านให้ทำหน้าที่อย่างเต็มที่ต่อไป และหากมีสิ่งใดที่ท่านรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ทั้ง 3 ท่าน จะช่วยเหลือหรือสนับสนุนการทำงานของท่านเสมอ “และขอความร่วมมือผู้ว่าราชการจังหวัดทุกท่านให้ทำงานอย่างเต็มที่ไม่มีเกียร์ว่าง สิ่งที่เกิดที่เชียงรายเป็นเรื่องที่ผ่านไปแล้ว ไม่มีการตั้งกรรมการสอบไม่ต่อความยาวสาวความยืด ไม่มีถูก ไม่มีผิด ทุกคนทราบสถานการณ์ดี สิ่งที่เราต้องคิดและให้ความสำคัญตอนนี้คือปัญหาของประชาชน”