กระแสข่าว ปรับ ครม. ชุดใหม่ ที่ไม่ว่าจะจบที่สูตรใด ? แต่เก้าอี้ รมว.กลาโหม จะรีเทิร์น ‘ทหาร’ อีกครั้ง หลังยุค รบ.เพื่อไทย ‘นายกฯ เศรษฐา-นายกฯ แพทองธาร’ ที่ รมว.กลาโหม เป็น ‘พลเรือน’ ที่ไม่ได้เป็น นายกฯ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ครั้งแรกๆ จาก ‘สุทิน คลังแสง’ อดีตแกนนำเสื้อแดงมหาสารคาม สู่ ‘สหายแสง-ภูมิธรรม เวชยชัย’ อดีตกลุ่มคนเดือนตุลา ที่เคยเข้าป่ามาก่อน
สะท้อนว่า ‘เพื่อไทย’ ตั้งใจให้เป็น ‘พลเรือน’ นั่ง ไม่ได้สงวนแค่ ‘ทหาร’ แต่ต้องเป็น ‘คนเพื่อไทย’ เท่านั้น
ทว่า ปรับ ครม. ครั้งนี้ ชื่อ ‘บิ๊กเล็ก’พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม มีสิทธิขึ้นเป็น รมว.กลาโหม แทน ‘ภูมิธรรม’ ที่มีชื่อ ไปเป็น รมว.มหาดไทย แทน
หลัง ‘บิ๊กเล็ก’ ทำงานกับ ครม.แพทองธาร มาราว 9 เดือน ได้รับ ‘ความไว้ใจ’ ให้ดูงาน ‘ความมั่นคง’ มากขึ้น หลัง ‘ภูมิธรรม’ ยอม ‘ผ่องถ่าย’ งานให้ดูแล
ล่าสุด ‘บิ๊กเล็ก’ เป็น ผู้อำนวยการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) ที่ต้องประสานเหล่าทัพ-หน่วยงานต่างๆ อีกด้วย ทำให้เต็งหนึ่งเป็น รมว.กลาโหม เพื่อสานงานต่อ ในภาวะเปลี่ยนม้ากลางศึก
ย้อนไปสมัย ‘บิ๊กเล็ก’ เริ่มชีวิตราชการที่ ร.31 รอ. ก่อนมาเติบโตสาย ‘ยุทธการ ทบ.’ ที่เป็นสาย ‘วางแผน-บริหารจัดการ’ ต่างๆ ถือเป็น ‘กุนซือลายพราง’ เคียงข้าง ‘บิ๊กตู่’พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ตั้งแต่เป็น ผบ.ทบ. ก่อนและในยุค คสช. มาถึงช่วงที่ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ ในการคิดแผนและคำสั่งต่างๆ
พล.อ.ณัฐพล เป็น รอง ผบ.ทบ. ถึง 2 ปี ในยุคที่ ‘บิ๊กแดง’พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ เป็น ผบ.ทบ. ในฐานะเพื่อน ตท.20 ที่ทำงานเคียงข้างกัน จนทำให้ พล.อ.ณัฐพล ได้ชื่อว่าเป็น ‘ผบ.ทบ. เงา’
แต่การจะขึ้นเป็น ผบ.ทบ. ในยุคนั้น ต้องมาจาก ‘หน่วยรบ-เป็นทหารคอแดง’ สุดท้าย พล.อ.ณัฐพล ต้องขึ้นมาเป็น เลขาธิการ สมช. ก่อนเกษียณฯ จากนั้น ‘บิ๊กตู่’ ตั้ง พล.อ.ณัฐพล เป็นที่ปรึกษานายกฯ สู้กับสถานการณ์โควิดในยุคนั้น
ชื่อของ พล.อ.ณัฐพล เคยมีชื่อเป็น รมว.กลาโหม ตั้งแต่ยุค ‘รบ.เศรษฐา’ แต่ฝั่ง ‘เพื่อไทย’ ไม่ยอม โดนกระแส ‘คนเสื้อแดง’ สกัด โดนอ้างว่าเกี่ยวข้องเหตุสลายชุมนุม นปช. ปี 2553 จึงทำให้ พล.อ.ณัฐพล ต้องไปเป็น เลขานุการ รมว.กลาโหม 1 ปี มาถึงยุค ‘รบ.แพทองธาร’ ขยับขึ้นเป็น รมช.กลาโหม
ก่อนหน้านี้ พล.อ.ณัฐพล เคยโชว์ฝีมือ ผ่านการแก้ปัญหาน้ำท่วม อ.แม่สาย จ.เชียงราย ในฐานะ ‘ที่ปรึกษา ศปช.ส่วนหน้า’
ซึ่งชื่อ พล.อ.ณัฐพล ถือเป็น ‘โควต้าคนกลาง’ ที่เป็นผลพวงจากการตั้ง ‘รัฐบาลข้ามขั้ว’ แต่ค่อนมาทาง ‘รวมไทยสร้างชาติ’ เป็นนายทหาร ‘สายพิราบ’ และเป็นชื่อที่ ‘ทักษิณ’ ให้ความไว้วางใจ เพราะกำลัง ‘ลงเรือลำเดียวกัน’ สามารถชี้ชะตา ‘ทักษิณ’ ได้
อย่างไรก็ตามชื่อที่ตีคู่ พล.อ.ณัฐพล ในการชิง รมว.กลาโหม คือ ‘บิ๊กนัย’พล.อ.สุนัย ประภูชะเนย์ อดีตนายทหารสายรบพิเศษ ระดับมือพระกาฬ ที่ในขณะนี้มีตำแหน่งเป็น คณะทำงานของ ‘บิ๊กแป๊ะ’พล.อ.นิพัทธ์ ทองเล็ก ผู้ช่วย รมต.สำนักนายกฯ ที่อยู่กับ ‘รองนายกฯ ภูมิธรรม’
พล.ท.สุนัย จบ ตท.21 ถือเป็นรุ่นที่ใกล้ชิด ‘บิ๊กแดง’พล.อ.อภิรัชต์ ตท.20 ที่เรียนมาด้วยกัน โดย พล.อ.สุนัย เติบโตจาก ‘รบพิเศษ’ หลังเกษียณฯ ไปลงชิง ‘นายก อบจ.ลพบุรี’ แต่พ่าย ได้คะแนนมาที่ 2 น่าสนใจว่ามี ‘สุชาติ ลายน้ำเงิน’ อดีต สส.ลพบุรี เพื่อไทย เป็น ‘กุนซือ’ เคียงข้าง สะท้อนถึงสัมพันธ์กับฝั่ง ‘พรรคเพื่อไทย’ ที่แนบแน่น
‘บิ๊กนัย’ ถือเป็น ‘สายบู้’ แบบฉบับรบพิเศษ ที่บุคลิกนิ่งๆ ตามม็อตโต้ รพศ. “พลังเงียบ เฉียบขาด” ผ่านหลายเหตุการณ์สำคัญ เช่น เหตุการณ์จ่าคลั่ง จ.นครราชสีมา ปี 2563 , เหตุการณ์ ‘ก็อต อาร์มี่’ ปี 2542-43 เป็นต้น รู้จัก ‘ทหารกัมพูชา’ ผ่านการฝึกโดดร่มรบพิเศษ ระหว่าง ‘หน่วยรบพิเศษ’ ของไทย กับ กองพลรบพิเศษที่ 911 ของกัมพูชา ที่ในขณะนั้นมี พล.ต.จาบ เพี้ยกระเดย เป็น ผบ.กองพลฯ อีกทั้ง พล.อ.สุนัย ยังเคยได้พบกับ พล.อ.ฮุน มาเนต สมัยที่ยังเป็นนายทหาร ก่อนมาเป็น นายฯ ด้วย
ดังนั้นชื่อของ พล.อ.สุนัย จึงมาจาก ‘สายเพื่อไทย’ ที่มาชนกับ ‘โควต้าคนกลาง’ ที่ค่อนไปทาง รทสช. ที่ในขณะนี้ชื่อ พล.อ.ณัฐพล ยังคงเต็งหนึ่ง รมว.กลาโหม เว้นแต่ถูก ‘สกัดดาวรุ่ง’ หรือมี ‘เงื่อนไข’ ใดเพิ่มเข้ามา หรือจะมีชื่ออื่นมาแรงแซงโค้ง