‘ภัณฑิล น่วมเจิม’ สส. กทม. พรรคประชาชน กล่าวถึงกรณีที่ออกมาเปิดเผยถึงการของบประมาณของสำนักงานเลขาธิการสภาฯ และ สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา โดยเฉพาะงบประมาณในการปรับปรุงพื้นที่รัฐสภาหลายรายการมูลค่าเกือบ 1,000 ล้านบาท ว่า จากการตรวจสอบร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2569 เรามีข้อสงสัยในการของบของหน่วยงานเยอะมา
ส่วนตัวยังไม่ได้แถลงออกไปทั้งหมด เพราะมีเวลาจำกัด ซึ่งมีทั้งงบที่ได้แถลงข่าวไปเมื่อวันที่ 3 พ.ค.ที่ผ่านมา งบก่อสร้างใหม่ขนาดใหญ่ที่เป็นหลัก 100 ล้าน ซึ่งสาธยายยังไม่ครบ และยังไม่รวมพวกปลีกย่อยที่พยายามแตกย่อยออกอีก ความจริงเจตนาเขียนโครงการแต่ละอย่างก็ดูไม่ค่อยดีเท่าไร ถ้าพูดภาษาชาวบ้านคือการแปรงบเข้าตัวเอง ความจริงฝ่ายนิติบัญญัติไม่สามารถหยิบงบประมาณได้เพราะเป็นการแทรกแซง แต่มันก็มีการแปรงบเข้าอำนาจฝ่ายนิติบัญญัติค่อนข้างเยอะ
ภัณฑิล กล่าวอีกว่า แม้บางเรื่องจะเป็นเพียงแค่คำขอ แต่เราก็ต้องดักขอไว้ก่อน เช่น เขาจะทำจิตรกรรมฝาผนังตรงหลังบัลลังก์ประธานสภา ซึ่งตอนนี้มันยังโล่งๆ อยู่ เขาจะทำใช้งบเป็นหลัก 100 ล้านบาท แต่โชคดีเขาไม่ได้รับการจัดสรรเหมือนกัน อันนี้ก็น่ากลัว นอกจากนั้นยังมีระบบไอทีต่างๆ เช่น แชทบอต ซึ่งมีระบบพวกนี้เยอะมากและซ้ำซ้อนกัน ถามว่าเวลาประชาชนมาติดต่อสภาเขาจะคุยกับแชทบอตหรือก็ไม่ใช่ และยังมีพวกระบบเลิร์นนิ่ง ซิสเต็ม หรือระบบการเรียนรู้ต่างๆ ซึ่งตนเป็น สส.ก็ไมเคยใช้ระบบเหล่านี้ของรัฐสภา จึงไม่เข้าใจว่าเขาทำอะไรกันบ้าง
อย่างไรก็ตามต้องรอติดตามเรื่องนี้ต่อไป และต้องให้ความเป็นธรรมกับทางฝ่ายเจ้าหน้าที่ด้วยเหมือนกัน โดยเราได้ขอรายละเอียดไปว่าขอให้เขาชี้แจงการใช้ประโยชน์พื้นที่ทั้งหมด ในเรื่องพิพิธภัณฑ์รัฐสภาที่ตนได้พูดไปแล้ว ซึ่งงบประมาณ 120 ล้านนั้นเป็นภาพรวมทั้งหมด แต่จริงๆ มีการทำไว้แล้วบางส่วนและยังไม่เสร็จ แต่ก็ยังจะมาขอเพิ่ม
“คำถามคือแล้วที่ทำไป ไม่รู้ใช้เงินไปเท่าไร แต่ยังไม่เสร็จและไม่มีคนใช้เลย มันเป็นสุสาน มันอยู่ใต้สภา มันไม่มีคนไปใช้ แล้วเราจะถมเงินเข้าไปเพิ่ม คิดว่ามันจะเวิร์คเหรอ ถ้าเรายังทำแบบเดิม แต่คาดหวังผลใหม่ มันเป็นไปไม่ได้ มันเสียเงินไปเป็น 100 ล้านบาทแล้ว”
ภัณฑิล กล่าว
ภัณฑิล กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมายังไม่ได้พูดถึงที่จอดรถ เพราะมันถูกพักไป เข้าใจว่ามีปัญหาในเรื่องที่จอดรถสภาที่ไม่เพียงพอ ทั้งผู้มาชี้แจง เจ้าหน้าที่ สส. สว. และ ประชาชนทั่วไปมาใช้ มันมีอยู่แค่หลัก 2,000-3,000 คัน ก็มีดำริที่จะสร้างที่จอดรถเพิ่มบริเวณใต้ดิน สนามหญ้าหน้าอาคารรัฐสภา ซึ่งผ่านมติ ครม.ไปแล้วงบประมาณ 4,000 ล้านบาท แต่ระงับไว้อยู่ โดยจะเป็นการเจาะใต้ดินใหม่ ส่วนตัวยังไม่ได้เห็นแบบ แต่ทราบว่ามีการประกวด TOR เพื่อออกแบบก่อสร้างแล้ว ซึ่งค่าออกแบบก่อสร้างนี้ก็ใช้งบประมาณเป็น 100 ล้านบาท อันนี้ก็น่าตกใจ คืองบยังไม่ถูกอนุมัติแต่จะเอางบจากเงินตกเบิก หรือเขาเรียบงบกลางฝ่ายนิติบัญญัติของสำนักงานเลขาธิการสภาฯ มาออกแบบ ซึ่งเป็นงบที่ไม่ต้องผ่านสภา
สุดท้ายแล้วออกแบบเสร็จแล้วยังไม่ได้ทำ ก็เป็นการผลาญเงินทิ้งไป ทั้งๆ ที่มันต้องสรุปให้ได้ว่าจะทำหรือไม่ทำ ตามกระบวนการ เพราะมันเป็นเงินเราเอง เราสร้างบ้านเราเอง ถ้ายังสรุปไม่ได้ยังไม่มีงบประมาณที่จะสร้าง จะไปเสียเงินออกแบบทำไม ซึ่งเป็นเรื่องประหลาด อีกทั้งในอนาคตจะมีขนส่งสาธารณะคือรถไฟฟ้ามาจ่ออยู่ข้างหน้า เราก็อยากให้มีการส่งเสริมการใช้ขนส่งสาธารณะให้มากขึ้น หรืออาจจะมีการไปขอความร่วมมือจากหน่วยงานราชการต่างๆ รอบๆ ขอใช้พื้นที่จอดรถ หรือจัดรถชัทเทิลบัส จากสถานีรถไฟฟ้า MRT บางโพ วิ่งมาที่รัฐสภา ก็สามารถแก้ปัญหาบางส่วนได้ แต่ไม่ทำ เลือกที่จะสร้าง เอะอะก็จะสร้างเพิ่ม และกระบวนการตรงนี้ก็ไม่ค่อยชอบมาพากลเท่าไร
‘ปธ.วิปรัฐบาล’ ติงของบฯ ปรับปรุง ‘รัฐสภา’ อะไรเกินจำเป็นก็ต้องตัด แนะควรไปกระตุ้นศก.
ด้าน ‘วิสุทธิ์ ไชยณรุณ’ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) ให้สัมภาษณ์ถึงการเตรียมความพร้อมในการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569ว่า น่าจะเหมือนเดิม คือแบ่งเวลาให้ฝ่ายค้านและรัฐบาล ฝ่ายละ 20 ชั่วโมง ประธานในที่ประชุม 1 ชั่วโมง ครั้งนี้ไม่ใช่การอภิปรายไม่ไว้วางใจ ทุกฝ่ายสามารถอภิปรายได้หมด คาดว่าน่าจะใช้เวลาในการพิจารณาภายใน 3 วัน
เมื่อถามว่าในวันที่ 13พ.ค.นี้ ที่จะมีการประชุม สส. ของพรรคเพื่อไทย จะพูดคุยถึงเรื่องการตัดงบประมาณในส่วนใดด้วยหรือไม่ วิสุทธิ์ กล่าวว่า ต้องพูด - เราต้องดูว่าอะไรที่ไม่จำเป็น หรืออะไรที่จำเป็นบ้าง สิ่งที่รัฐบาลเขียนมามีอะไรบ้างต้องตรวจสอบดูด้วย ส่วนจะมีการพูดคุยเรื่องอะไรอีกหรือไม่ เพื่อนำเสนอให้ฝ่ายบริหารแก้ไขปัญหานั้น เป็นเรื่องปกติที่เมื่อปิดสมัยประชุมสภาฯ สส. จะลงพื้นที่ไปพบปะกับพี่น้องประชาชน และนำปัญหามาสะท้อนให้ฝ่ายบริหารเพื่อนำไปสู่การแก้ไขปัญหา
เมื่อถามอีกว่าจะมีการพูดคุยเรื่องการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) หรือไม่ วิสุทธิ์ กล่าวว่า ไม่มี เป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรีคนเดียว ส่วนตัวไม่ทราบจริงๆ
เมื่อถามถึงกรณีที่พรรคประชาชนเตรียมตัดงบประมาณในการปรับปรุงอาคารรัฐสภา วิสุทธิ์ กล่าวว่า อะไรที่จำเป็นก็ต้องทำ ที่ไม่จำเป็นก็ไม่ควรทำ ขณะนี้ควรกระตุ้นเศรษฐกิจในส่วนที่เป็นความเดือดร้อนของประชาชนก็ควรทำ ซึ่งไม่ใช่เฉพาะฝ่ายค้านอย่างเดียว แต่ฝ่ายรัฐบาลก็ต้องตรวจสอบด้วยว่าอะไรที่เสนอโดยหน่วยงานต่างๆ มาแล้วไม่เป็นประโยชน์ ไม่สร้างกระตุ้นเศรษฐกิจ เราต้องช่วยกันตัด
วิสุทธิ์ ยังกล่าวถึงกรณีศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองตั้งองค์คณะไต่สวนการบังคับโทษจำคุกของ ‘ทักษิณ ชินวัตร’ อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ไปรักษาตัวในชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ โดยจะมีการไต่สวนวันที่ 13มิ.ย.นี้ว่า เชื่อว่าฝ่ายกฎหมายของทักษิณคงชี้แจงได้ ในพรรคไม่ได้มีใครคุยเรื่องนี้และไม่มีใครกังวลอะไร ในพรรคเพื่อไทยก็ไม่ได้มีการพูดคุยกันนอกรอบ เพราะเป็นเรื่องของทักษิณ ที่ต้องมีทีมกฎหมาย