ได้ “ไฟเขียว” จากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เป็นที่เรียบร้อย สำหรับร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. .... หรือ ‘เอ็นเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์’ (Entertainment Complex)
โดย แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เผยว่า ที่ประชุม ครม.เห็นชอบตามที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา เสนอร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจรฯ โดยมีวัตถุประสงค์ต้องการสร้างการท่องเที่ยวแบบใหม่ ไม่ต้องรอการท่องเที่ยวตามฤดูกาล โดยร่างกฎหมายฉบับนี้ ผ่านการรับฟังความคิดเห็นว่า 8 หมื่นราย ซึ่ง 80% เห็นด้วย เมื่อครม.เห็นชอบแล้ว ก็จะส่งต่อไปยังสภาฯ พิจารณาต่อไป
อยากจะอธิบายว่า ‘เอ็นเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์’ ไม่เท่ากับ ‘กาสิโน’ เพราะในเอ็นเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์มีกาสิโนไม่ถึง 10% อีก 90% เป็นฮอลล์คอนเสิร์ตขนาดใหญ่ความจุ 5 หมื่นคน และอินดอร์สเตเดียม (Indoor Stadium) ซึ่งประเทศไทยไม่เคยมีสถานที่รองรับคอนเสิร์ตใหญ่ขนาดนั้นได้
แพทองธาร ชินวัตร
นอกจากนี้ ยังมีสวนน้ำ โรงแรม ร้านอาหาร คาดว่าจะสร้างรายได้ 119,000-238,000 ล้านบาท และจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติจะเพิ่มขึ้น 5-10% ต่อปี, รัฐจะมีรายได้เพิ่มขึ้นประมาณ 12,000-39,000 ล้านบาทต่อปี และเก็บภาษีจากธุรกิจอื่น 8,000-35,000 ล้านบาทต่อปี, ภาษีของกาสิโนขั้นต่ำ 3,264 ล้านบาทต่อปี
มีการจ้างงานและอาชีพใหม่ๆ ในประเทศเพิ่มขึ้น รัฐบาลจะสามารถเก็บภาษีจากกาสิโน และธุรกิจอื่นๆ ที่อยู่ในนั้นได้ด้วย เพื่อนำมาพัฒนาประเทศ และที่สำคัญ จะมีกฎหมายควบคุมป้องกันการติดการพนันและกำกับดูแลอย่างเคร่งครัด
เรื่องนี้ถือเป็นโอกาสของประเทศ อย่าไปโฟกัสที่ฟลอร์เดียว และดิฉันก็จะเดินหน้าอธิบายต่อ
แพทองธาร ชินวัตร
เมื่อถูกถามว่า จะใช้ช่องทางไหนอธิบายเพิ่มเติมให้ประชาชนเข้าใจว่า ‘กาสิโน’ เป็นแค่ส่วนหนึ่งของเอ็นเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์? แพทองธาร ตอบว่า ความจริงยังมีเนื้อหาเพิ่มอีก อาชีพใหม่ๆ ต้องเกิดขึ้นอยู่แล้ว
เพราะเอ็นเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์ ประกอบด้วยหลายอย่าง จะมีการจ้างงาน สำหรับธุรกิจที่มีอยู่ในเมืองไทย สวนน้ำ โรงแรม ประชาชนจะเข้าใจ แต่ที่จำเป็นมาก คือ อินดอร์สเตเดียมที่จัดคอนเสิร์ตใหญ่ๆ
ดิฉันเข้ามาตรงนี้ ได้ฟังหลายๆ กลุ่มที่เขาอยากจัดงานที่ประเทศไทย เพราะต่างชาติชอบประเทศไทย, ออแกไนเซอร์ (Organizer) ก็ชอบ แต่สถานที่ของเรายังไม่ใหญ่เพียงพอรับคอนเสิร์ตใหญ่ๆ ได้ ทำให้หลายครั้งแราพลาดโอกาสดีๆ ไป อันนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้น ถ้าทำเอ็นเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์ได้ มีทุกอย่างครบวงจร สามารถจัดงานได้ และเอ็นเตอร์เทนสำหรับครอบครัวได้ด้วย ต้องมองเป็นภาพใหญ่ ไม่ใช่เจาะเฉพาะกาสิโน ต้องมองความจริงทั้งหมด ทั้งคอมเพล็กซ์ ว่ามีอีกเยอะ และแน่นอนว่า เป็นสิ่งที่เวลานักท่องเที่ยวมาเที่ยวเป็นซีซั่น แต่อันนี้สามารถเที่ยวได้ทั้งปี จึงขออยากให้มองภาพรวม ภาพใหญ่นี้ด้วย
แพทองธาร ชินวัตร
เมื่อถามว่าสำหรับมิติในสภาฯ พรรคร่วมรัฐบาล, สว. และม็อบ คิดว่าจะเอาอยู่หรือไม่? แพทองธาร กล่าวว่า เราต้องอธิบายไปเรื่อยๆ
ไม่อยากจะพูดว่า จะจัดการได้ทั้งหมด แต่ยินดีที่จะรับฟังความคิดเห็นทั้งหมด และพร้อมที่จะตอบด้วย ถ้ามีรายละเอียดอะไรเพิ่มเติมที่อยากทราบ และอยากรู้อะไร จะตอบและสื่อสารให้มากขึ้น
แพทองธาร ชินวัตร
เมื่อถามย้ำว่าที่ผ่านมาได้คุยกับหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลในเรื่องนี้ เคลียร์หรือยังเพื่อไม่ให้มีปัญหาในสภาฯ? แพทองธารกล่าวว่า “คุยค่ะ, คุยแล้ว แต่ในรายละเอียด ให้ทางสภาฯ เขาทำไป เพราะต้องแก้ให้เหมาะสมที่สุดได้อีก” พร้อมหันไปมอง อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าภูมิใจไทย ที่กล่าวเสริมว่า “เข้า ครม.ไปแล้ว”
ก่อนที่ แพทองธาร จะแซวผู้สื่อข่าวว่า “นี่จะให้มีรายร้าวในพรรคร่วมฯ อีกแล้ว” พร้อมกล่าวอีกว่า “ตอนนี้ผ่านไปหนึ่งขั้นก่อน แต่ไม่ได้มีปัญหาอะไรในการคุยเรื่องคอนเซ็ปต์ เนื่องจากเป็นการสร้างโอกาสให้ประเทศมากๆ”
เมื่อถามว่า ได้วางไทม์ไลน์ว่าเรื่องนี้จะผ่านสภาฯ เมื่อไหร่ อย่างไร? แพทองธาร กล่าวว่า “ยังไม่ได้วางไทม์ไลน์ชัดเจน เดี๋ยวต้องไปดูอีกที”
ส่วนเมื่อถามถึงเรื่อง “เงินฝาก 50 ล้านบาท” ต้องว่ากันในสภาฯ ใช่หรือไม่? แพทองธาร กล่าวว่า “ใช่, เรื่องนี้ไปว่าในสภาฯ อีกที”
‘ภูมิใจไทย’ ไม่ขัดข้อง
ส่วนการให้สัมภาษณ์ของ อนุทิน ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ถึงประเด็นที่ ครม.เห็นชอบร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจรฯ ทางพรรคภูมิใจไทยต้องนำเรื่องนี้เข้าที่ประชุมพรรคหรือไม่นั้น?
อนุทิน บอกว่า เรื่องนี้ถือเป็นร่างที่ได้ผ่านการเห็นชอบจาก ครม.แล้ว ซึ่งก็มีกระบวนการตามขั้นตอนที่จะเข้าสู่การพิจารณาของสภาฯ รัฐบาลเองก็มีการปรับรายละเอียดมาแล้ว เช่น กาสิโนเหลือแค่ 10 เปอร์เซ็นต์, เกณฑ์เรื่องคนที่เข้าที่ต้องมีรายได้ขั้นต่ำมี 50 ล้านบาท ซึ่งในส่วนกระทรวงมหาดไทยก็ไม่ได้มีความเห็นอะไร หากเป็นไปตามนี้ก็ไม่มีปัญหา
เมื่อถามถึงกรณีที่ก่อนหน้านี้มีการมองว่าพรรคภูมิใจไทยขวางกฎหมายฉบับนี้? อนุทิน กล่าวว่า “เราเป็นพรรคร่วมรัฐบาล ก็ต้องให้การสนับสนุนนโยบายของรัฐบาล เราก็ได้พูดถึงข้อกังวลของเรา แต่เมื่อไม่ได้เกิดขึ้น มีการปรับรายละเอียดลงเยอะ”
‘ปชน.’ ติง ‘รัฐบาล’ รีบไฟเขียว
ขณะที่ฝ่ายค้านก็มีความเห็นต่อเรื่องนี้เช่นกัน โดยทาง สิทธิพล วิบูลย์ธนากุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน กล่าวว่า สส.ของพรรคประชาชน มีการติดตามอยู่ จนคิดว่าหลายเรื่องที่เราเรียกร้องไป รัฐบาลควรสื่อสารอย่างตรงไปตรงมาเพื่อให้สังคมไม่คลางแคลงใจ เช่น ใครจะเป็นผู้ได้รับสิทธิ์ประโยชน์ และจะทำอย่างไรให้กระบวนการออกใบอนุญาตเอ็นเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์มีความโปร่งใส ซึ่งประเด็นเหล่านี้คนต่างให้ความสำคัญ
รัฐบาลจำเป็นต้องสร้างความเชื่อมั่นให้กับภาคประชาชนว่า กระบวนการให้สิทธิประโยชน์กระบวนการให้ใบอนุญาตเหล่านี้ มีความโปร่งใสจริงๆ
สิทธิพล วิบูลย์ธนากุล
เมื่อผู้สื่อข่าวตั้งข้อสังเกตว่า เป็นการ ‘รีบ’ ไปหรือไม่ เพราะเพิ่งจะจบการอภิปรายไม่ไว้วางใจไปเมื่อวานนี้ (26 มี.ค.) สิทธิพล กล่าวว่า “เขาอาจจะรีบมากกว่านี้ก็ได้”
ส่วนเมื่อถามถึงท่าทีของพรรคประชาชน ต่อร่างกฎหมายดังกล่าวนั้น สิทธิพล กล่าวว่า อาจจะต้องนำไปพูดคุยกันภายในพรรคอีกครั้ง แต่จุดยืนของพรรคประชาชนเหมือนเดิม โดยพยายามคุยกันว่า กฎหมายที่ออกมาช่วยแก้ปัญหาหรือไม่
ปัญหาหลายอย่างที่รัฐบาลตั้งใจไว้ว่าจะช่วยแก้ได้ผ่าน พ.ร.บ.นี้ เช่น ‘ปัญหาการพนัน’ ช่วยแก้หรือไม่? เพื่อ ‘กระตุ้นเศรษฐกิจ ดึงดูดการท่องเที่ยว’ ดึงดูดได้จริงหรือไม่? รวมถึง ‘เงื่อนไข’ คนไทยที่จะเข้าไปเล่นในเอ็นเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์ เป็นเท่าไหร่? มีเงื่อนไขเป็นอย่างไร? ทั้งหมดคือรายละเอียดที่พรรคประชาชนอยากเห็น ยังไม่รวมถึงใครจะเป็นผู้ได้รับใบอนุญาตต่างๆ, วันนี้ ภาคเอกชนหรือประชาชนก็มีการบอกว่ามีการ ‘ล็อคสเปค’ ไว้แล้ว ซึ่งเรื่องเหล่านี้ เป็นสิ่งที่ผมและพรรคประชาชนต้องตั้งคำถามต่อไปว่า รัฐบาลควรจะทำให้โปร่งใส และทำให้ประชาชนเห็นว่า ถ้าจะมีเอ็นเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์แล้วประชาชนได้ประโยชน์
สิทธิพล วิบูลย์ธนากุล
อย่างไรก็ตาม เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า พรรคประชาชนจะยื่นร่างประกบร่างของรัฐบาลหรือไม่? สิทธิพล กล่าวว่า ในฐานะที่เป็นประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การพัฒนาเศรษฐกิจ สภาผู้แทนราษฎร ตอนนี้ยังไม่มีการดำเนินการเรื่องนี้
ถ้าเป็นธรรมคงไม่มีใครค้าน! ‘วิโรจน์’ ชี้ต้องดู ‘ประโยชน์-ผลกระทบ’
ทางด้าน วิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ให้ความเห็นกรณี ครม. ‘ไฟเขียว’ ร่าง พ.ร.บ.ธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจรฯ เช่นกันว่า เราต้องดูประโยชน์ที่เกิดขึ้นกับประชาชน หากเกิดประโยชน์และมีความเป็นธรรม ก็คงไม่มีใครคัดค้าน แต่หากมีผลกระทบต่อสังคมตามที่หลายฝ่ายกังวล แต่ไม่ได้มีข้อชี้แจง หรือแนวทางในการควบคุมจำกัดผลกระทบเชิงลบ รัฐบาลก็ควรทบทวนและเร่งดำเนินการ
ตราบใดที่เกิดประโยชน์กับประชาชน, เศรษฐกิจ โดยที่เราสามารถควบคุมผลกระทบเชิงลบได้ ผมมองว่าทุกฝ่ายก็คงยอมรับได้, ปัญหาอยู่ที่ว่า ผลกระทบเชิงลบและความเป็นธรรมในการประมูล ในการให้สัมปทาน ‘โปร่งใส’ หรือไม่?
วิโรจน์ ลักขณาอดิศร
เมื่อถามถึงมุมมองว่า ‘รีบ’ เกินไปหรือไม่ เพราะเพิ่งผ่านการอภิปรายไม่ไว้วางใจเพียงวันเดียว? วิโรจน์ กล่าวว่า แล้วแต่การคาดการณ์
ในเมื่อตกลงกันได้แล้วก็ไปต่อ เราอย่าคิดกังวลอะไรขนาดนั้น ชีวิตต้องทำงานต่อ, ผมเป็นคนตำหนิติติงรัฐบาลด้วยเหตุด้วยผล วันนี้รัฐบาลทำงานต่อ ฝ่ายค้านก็ทำงานต่อ เรามองว่าเป็นการทำงานต่อเนื่องแล้วกัน
วิโรจน์ ลักขณาอดิศร
