








ภายหลังพิธีรับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ‘แพทองธาร ชินวัตร’ ในฐานะนายกฯ คนที่ 31 ได้แถลงต่อสื่อมวลชนเป็นครั้งแรก
โดยแสดงความขอบคุณสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรผู้มาจากการเลือกตั้งของประชาชน พรรคร่วมรัฐบาล และประชาชนทุกคน ขอบคุณที่ให้ความไว้วางใจเลือกมาเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 31 ขอให้คำมั่นสัญญาว่าจะทำหน้าที่นี้ให้ดีที่สุด และขอขอบคุณ ‘เศรษฐา ทวีสิน’ อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ได้ทุ่มเทแรงกาย แรงใจทำเพื่อประเทศชาติตลอดเกือบ 1 ปีที่ผ่านมา
แม้จะไม่ได้วางแผนในการเป็นนายกรัฐมนตรีครั้งนี้มาก่อน แต่ขอให้ทุกคนมั่นใจว่าพร้อม และเต็มใจที่จะรับใช้ประชาชนอย่างสุดความสามารถ ซึ่งตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เป็นตำแหน่งที่มีความรับผิดชอบที่ยิ่งใหญ่ เพราะต้องพาประเทศชาติผ่านอุปสรรค ผ่านปัญหาต่าง ๆ ซึ่งแน่นอนว่าประเทศไทยยังมีปัญหาปากท้องที่รอการแก้ไขอยู่ ฉะนั้น การได้รับตำแหน่งนี้ จึงมีความมุ่งมั่นที่จะทำให้ปากท้องของพี่น้องประชาชนดีขึ้น และมีความตั้งใจที่จะผลักดันนโยบายทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง
แพทองธาร ยังพร้อมจะผลักดันนโยบายสำคัญในหลาย ๆ ประเด็น อาทิ การกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ ปัญหายาเสพติด ระบบสุขภาพถ้วนหน้า 30 บาทรักษาทุกที่ รวมถึงยังคงจะผลักดันนโยบาย ไทยแลนด์ซอฟต์พาวเวอร์ ที่เป็นผู้ริเริ่ม อย่างต่อเนื่อง พร้อมย้ำถึงความตั้งใจที่จะร่วมงานกับทุกภาคส่วน เพื่อที่จะผลักดันนโยบายต่าง ๆ ให้สำเร็จ พร้อมฝากติดตามการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา อย่างเป็นรูปธรรมในเดือนกันยายนนี้
สุดท้ายนี้ อยากขอบคุณพลังที่สำคัญที่สุด พลังอันยิ่งใหญ่นั่นคือพลังของพี่น้องประชาชน ทั้งที่เลือกและไม่ได้เลือกดิฉัน ดิฉันขอสัญญาว่า จะทำหน้าที่นี้อย่างเต็มความสามารถ โดยที่ไม่มีการแบ่งแยกความแตกต่างทุกเพศ ทุกวัย ทุกความหลากหลาย ดิฉันในฐานะนายกรัฐมนตรีคนที่ 31 ในฐานะแม่ ในฐานะลูก ในฐานะเพื่อน มีความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะทำให้ประเทศไทยทุกตารางนิ้วเป็นพื้นที่ของโอกาส เป็นพื้นที่ที่คนไทยทุกคนจะกล้ามีความฝัน กล้ามีความคิดที่สร้างสรรค์ และกล้าที่กำหนดอนาคตของตนเอง
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงนโยบายเติมเงิน 10,000 หรือ ‘ดิจิทัลวอลเล็ต’ มีกระแสข่าว ‘ทักษิณ ชินวัตร’ อดีตนายกรัฐมนตรี สั่งให้ล้มโครงการดังกล่าวนั้น แพทองธาร ก็ยืนยันว่า ไม่ได้มีการสั่งให้ล้ม พร้อมย้ำว่า นโยบายอะไรก็ตาม ต้องปรึกษากับพรรคร่วมรัฐบาลด้วย
ภาพของ ทักษิณ คงไม่สามารถลบออกจากทางการเมืองออกได้ เพราะเป็นอีกหนึ่งคนที่มีผู้เคารพนับถือ เมื่อมีคนขอคำปรึกษา ก็พร้อมให้ตามประสบการณ์ที่มี
ส่วนนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต คือนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ของประเทศ ปีที่แล้วที่เราหาเสียงเลือกตั้งโดยใช้โครงการนี้ เป็นโครงการที่เราศึกษา และสังเคราะห์นโยบายมาเป็นอย่างดีแล้ว แต่ในช่วงเวลาหนึ่งปีที่ผ่านมา มีเหตุการณ์เกิดขึ้นมากมาย สภาพเศรษฐกิจเปลี่ยนแปลงไป เราจะต้องศึกษาและรับฟังความคิดเห็น
แน่นอนว่าต้องอยู่ในกฎหมาย เป็นสิ่งที่ต้องทำต่อไปและรายละเอียดต้องมีความชัดเจน และรับฟังความคิดเห็นอย่างต่อเนื่อง เป้าหมายคือการกระตุ้นเศรษฐกิจ ฉะนั้น ความตั้งใจนี้ยังต้องอยู่แน่นอน
เมื่อถามถึงประเด็น ทักษิณ ได้มีคำแนะนำและจะมามีส่วนช่วยการเมืองอย่างไรต่อจากนี้ รวมถึงการจับตาเรื่อง ‘ครอบงำทางการเมือง’ ด้วย แพทองธาร ก็ยืนยันว่า ไม่ใช่การครอบงำอย่างแน่นอน เพราะตนเองและทุกคนในครอบครัว มีความคิดเป็นของตัวเอง แม้จะมีการปรึกษา แต่ทุกคนให้เกียรติกันทางความคิด สุดท้ายเมื่อใครอยู่บทบาทไหน ก็ต้องมีความคิดเป็นของตนเอง และแน่นอนว่า ความคิดเห็นของครอบครัวหรือคนที่เคารพนับถือ ย่อมมีส่วนสำคัญ
ส่วนในเรื่องของตำแหน่ง ทักษิณ ยังไม่ได้คิดไว้ ซึ่งจริง ๆ แล้วทักษิณ ก็ไม่ได้อยากมีตำแหน่งอะไร เราจึงไม่ได้คิดไว้ และกำลังคิดว่าบางครั้งกฎหมาย หรืออะไรก็ตาม ก็ต้องดูความอ่อนไหวในตรงนี้ด้วย ว่าเราจะสามารถใช้วิสัยทัศน์ของท่านได้โดยที่ไม่โดนอะไร
ผู้สื่อข่าวถามถึงกระแสข่าวว่า ทักษิณ ได้สั่งให้คณะรัฐมนตรีใน รัฐบาลแพทองธาร จะต้องไม่มีคนจากนามสกุล ‘วงษ์สุวรรณ’ นั้น แพทองธาร ก็ชี้แจงว่า “ยังเร็วไปมาก เพราะยังไม่ได้คุยกับพรรคร่วม และไม่ทราบว่าจะมีนามสกุลใด หรือไม่มีนามสกุลใด และด้วยความสัจจริง ตนเองไม่เคยได้ยินประโยคนี้จาก ทักษิณ เลย”