Paetongtarn-presented-vision-at-the-44-th-ASEAN-Summit-SPACEBAR-Photo00.jpg
Paetongtarn-presented-vision-at-the-44-th-ASEAN-Summit-SPACEBAR-Photo02.jpg
Paetongtarn-presented-vision-at-the-44-th-ASEAN-Summit-SPACEBAR-Photo03.jpg
Paetongtarn-presented-vision-at-the-44-th-ASEAN-Summit-SPACEBAR-Photo04.jpg
Paetongtarn-presented-vision-at-the-44-th-ASEAN-Summit-SPACEBAR-Photo05.jpg

‘หนึ่งนารี’ ใจกลาง ‘ผู้นำอาเซียน’

9 ต.ค. 2567 - 06:33

  • ‘นายกฯ อิ๊งค์’ โชว์วิสัยทัศน์ ‘3 ประเด็นสำคัญ’ เวทีประชุมสุดยอดอาเซียน

  • เน้นความยั่งยืนของสมาชิก-ความมั่นคงของมนุษย์-บูรณาการร่วมกันระดับภูมิภาค

  • เพื่อเชื่อมโยงประเทศอาเซียนที่แข็งแรงระหว่างกัน

  • นำไปสู่ ‘การกินดีอยู่ดี’ ของประชากรกว่า 700 ล้านคนในภูมิภาค

Paetongtarn-presented-vision-at-the-44-th-ASEAN-Summit-SPACEBAR-Photo00.jpg
Paetongtarn-presented-vision-at-the-44-th-ASEAN-Summit-SPACEBAR-Photo02.jpg
Paetongtarn-presented-vision-at-the-44-th-ASEAN-Summit-SPACEBAR-Photo03.jpg
Paetongtarn-presented-vision-at-the-44-th-ASEAN-Summit-SPACEBAR-Photo04.jpg
Paetongtarn-presented-vision-at-the-44-th-ASEAN-Summit-SPACEBAR-Photo05.jpg

แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เข้าร่วมการกล่าวถ้อยแถลงในการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 44 (แบบเต็มคณะ) ณ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) เพื่อย้ำถึงความจำเป็นที่อาเซียนต้องมี “Collective Leadership” หรือการทำงานร่วมกันระหว่างชาติสมาชิก ในการแก้ไขปัญหาของประชาชน และส่งเสริมการกินดีอยู่ดีของประชาชนกว่า 700 ล้านคนในภูมิภาค
   
นายกรัฐมนตรีขอบคุณสำหรับการต้อนรับในครอบครัวอาเซียนอย่างอบอุ่น ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญของนโยบายต่างประเทศของไทย ในการมุ่งมั่นที่จะเดินหน้าพัฒนาประชาคมอาเซียน ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อที่สำคัญนี้ ที่ประเทศสมาชิกอาเซียนต้องเผชิญกับความท้าทายที่ยากและซับซ้อน

ทั้งจากการแข่งขันทางภูมิรัฐศาสตร์ จนถึงการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ความเสียหายจากพายุไต้ฝุ่น “ยางิ” ที่ส่งผลกระทบเป็นวงกว้างในหลายประเทศของสมาชิกอาเซียน จึงเป็นสิ่งย้ำเตือนให้ประเทศไทยต้องให้ความสำคัญกับการพัฒนา โดยมีประชาชนเป็นศูนย์กลาง นอกจากนี้ จำเป็นที่จะต้องสร้างประชาคมอาเซียนที่เชื่อมโยงและยืดหยุ่นในแต่ละปัญหาให้มากยิ่งขึ้น
 
นายกรัฐมนตรีเชื่อว่า ความเป็นผู้นำร่วมกัน (collective leadership) ที่พร้อมจะสร้างความแตกต่างและนำไปสู่การแก้ไขปัญหา และความเจริญร่วมกันได้ โดยประเทศไทยได้เสนอประเด็นสำคัญ ดังนี้
           
1. ประเด็นด้าน “ความยั่งยืน” นั้น ประเทศไทยในฐานะผู้ประสานงานอาเซียนเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน เห็นว่าอาเซียนต้องร่วมกันดำเนินการด้านสภาพภูมิอากาศ และความเป็นกลางทางคาร์บอน การเปลี่ยนผ่านไปสู่พลังงานสะอาด การเงินสีเขียว และเศรษฐกิจสีเขียว รวมถึงนวัตกรรมดิจิทัลเพื่ออนาคตที่ยั่งยืน เพื่อให้มั่นใจได้ว่า การเติบโตทางเศรษฐกิจในยุคสมัยใหม่นี้จะไม่กระทบสิ่งแวดล้อม หรือเกิดความเสี่ยงด้านสิ่งแวดล้อมในภูมิภาค
 
2. ประเด็นด้าน “ความมั่นคงของมนุษย์” นั้น ประเทศไทยได้เสนอว่า อาเซียนต้องทำงานร่วมกันในการต่อสู้กับทุกวิกฤต เพื่อให้ประชาชนมีอาหาร พลังงาน และสิ่งจำเป็นพื้นฐาน และควรส่งเสริมการเกษตรอัจฉริยะ ไปพร้อมๆ กับเกษตรยั่งยืน เพื่อวางรากฐานที่มั่นคงสำหรับผลผลิตและความมั่นคงทางอาหารในระยะยาวของภูมิภาค

นอกจากนี้ จะต้องเร่งเสริมสร้างกรอบการทำงานของอาเซียน ในด้านพลังงาน เช่น การเชื่อมโยงโครงข่ายไฟฟ้าของอาเซียน เพื่อการยืดหยุ่นด้านพลังงานในภูมิภาค

ขณะเดียวกัน สมาชิกอาเซียนควรร่วมกันส่งเสริมการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ ที่มีพรมแดนระหว่างกัน รวมถึงเพิ่มศักยภาพในการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ โดยเฉพาะการหลอกลวงออนไลน์ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ และการปราบปรามการค้ายาเสพติด โดยเพิ่มความเข้มข้นในการควบคุมพื้นที่บริเวณชายแดนระหว่างกัน

3. สำหรับประเด็นเรื่อง “การบูรณาการระดับภูมิภาคที่ลึกซึ้ง” นั้น นายกรัฐมนตรีได้กล่าวถึงการสนับสนุนในความพยายามของอาเซียน ในการปรับปรุงและยกระดับ FTA กับคู่เจรจา และในฐานะที่ไทยเป็นประธานคณะกรรมการเจรจา ASEAN Digital Economy Framework Agreement (DEFA) จะผลักดันการเจรจาให้แล้วเสร็จภายในปีหน้านี้ (พ.ศ.2568) เพื่อสร้างเครื่องยนต์กลไก เพื่อกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจใหม่ๆ ในอาเซียน

นอกจากนี้ ยังส่งเสริมการพัฒนาทักษะดิจิทัล สำหรับธุรกิจขนาดกลาง ขนาดย่อม และขนาดย่อย หรือ MSMEs เพื่อเพิ่มการเข้าถึงแหล่งเงินทุน เพื่อช่วยสร้างการเติบโตในเศรษฐกิจของโลกที่ผันผวนอยู่ในขณะนี้

Paetongtarn-presented-vision-at-the-44-th-ASEAN-Summit-SPACEBAR-Photo06.jpg

นายกรัฐมนตรียังกล่าวถึงการสร้างความเชื่อมโยงในทุกๆ ด้าน ที่จะเป็นกุญแจสำคัญ อาทิ ขอให้อาเซียนส่งเสริมความเชื่อมโยงระหว่างประชาชนต่อกันเป็นพิเศษ เช่น การเพิ่มเที่ยวบินและขยายระยะเวลาการยกเว้นวีซ่า (visa-free) ระหว่างประเทศอาเซียน การส่งเสริมการค้าและการท่องเที่ยว

รวมทั้งความร่วมมือกับประเทศพันธมิตรอื่นๆ เพื่อเสริมสร้างความเป็นแกนกลางและความสามัคคี ที่จะทำให้การมีส่วนร่วมของอาเซียนกับประเทศพันธมิตรภายนอก มียุทธศาสตร์ที่เกี่ยวข้องมากขึ้น

ทั้งนี้ สมาชิกอาเซียน ควรหลีกเลี่ยงการเป็นตัวแทนของอำนาจใดๆ หรือปล่อยให้ภูมิภาคนี้ กลายเป็นเวทีแห่งการแข่งขัน ทั้งนี้ เพื่อสร้างสมดุลเชิงยุทธศาสตร์ และไทยจะทำหน้าที่ส่งเสริมสันติภาพ และความเจริญรุ่งเรืองร่วมกันอย่างแข็งขัน เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการพัฒนาในภูมิภาค

นายกรัฐมนตรีกล่าวเสริมว่า ประเทศไทย จะรอการสถาปนาความเป็นหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์แบบรอบด้านระหว่างอาเซียน-สาธารณรัฐเกาหลี และอาเซียน-นิวซีแลนด์ และประเทศไทยพร้อมสนับสนุนข้อริเริ่มของประเทศมาเลเซียในการจัดการประชุม ASEAN-GCC-China Summit ในปีหน้า   
          
ในช่วงท้ายการประชุมช่วงเช้า นายกรัฐมนตรีได้กล่าวแสดงความยินดีกับ สปป.ลาว สำหรับความสำเร็จของการเป็นประธานอาเซียนครั้งนี้ และพร้อมสนับสนุนมาเลเซียในการเป็นประธานอาเซียนวาระถัดไป ซึ่งมั่นใจว่า จะพาประเทศสมาชิกอาเซียนให้พัฒนาในทุกๆ ด้านต่อไปในอนาคตอันใกล้นี้

Paetongtarn-presented-vision-at-the-44-th-ASEAN-Summit-SPACEBAR-Photo07.jpg

ไทย-สิงคโปร์ พร้อมจับมือส่งเสริมธุรกิจอาหาร-การท่องเที่ยวระหว่างกัน

แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้หารือทวิภาคี (pull-aside) กับ ลอว์เรน หว่อง (Mr. Lawrence Wong) นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ ณ ศูนย์การประชุม NCC ณ นครหลวงเวียงจันทน์ ระหว่างการประชุมสุดยอดอาเซียนฯ เพื่อสานต่อความเป็นพันธมิตรและหุ้นส่วนสำคัญในทุกมิติของทั้งสองประเทศ

ผู้นำทั้งสองได้เห็นพ้องความร่วมมือทางเศรษฐกิจ ช่วงครึ่งปีหลังนี้ (2567 ) โดยประเทศสิงคโปร์ เป็นอันดับหนึ่งที่ลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ในไทย ซึ่งรัฐบาลไทยให้ความสำคัญกับเศรษฐกิจดิจิทัล AI รวมถึง Digital Transportation และต้องการให้สิงคโปร์ช่วยสนับสนุน

นอกจากนี้ ไทยกับสิงคโปร์ยังมีความร่วมมือด้านความมั่นคงทางอาหาร โดยไทยอยากให้สิงคโปร์สนับสนุนสำหรับการส่งออกผลผลิตทางการเกษตรและอาหารของไทย เช่น ไข่ออร์แกนิก, เนื้อหมู

ส่วนในด้านการท่องเที่ยว จำเป็นต้องสนับสนุนและเพิ่มการท่องเที่ยวระหว่างกันให้มากขึ้น ส่วนความร่วมมือทางการทหาร ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะขยายความตกลงในการฝึกซ้อมของเหล่าทัพร่วมกัน พร้อมทั้งสานต่อความร่วมมือด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ และปัญหา ภัยธรรมชาติ

ปีหน้าพร้อมรับ ‘ผู้นำสิงคโปร์’ เยือนไทยอย่างสมเกียรติ

แพทองธาร ยืนยันกับทางสิงคโปร์ ว่า พร้อมให้การต้อนรับประธานาธิบดีสิงคโปร์ ในห้วงการเยือนประเทศไทย อย่างเป็นทางการ ในโอกาสครบรอบ 60 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูต ในปีหน้าด้วย

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์