‘อุ๊งอิ๊ง’ กลาง ‘ขุนศึกทหาร’ เข้าเขตกองทัพ ‘มินิ วปอ.’

22 มีนาคม 2567 - 07:05

Paetongtarn-Shinawatra-Mini-National-Defence-College-SPACEBAR-Hero.jpg
  • ย้อนหลักสูตร ‘มินิ วปอ.’ เชื่อมคอกเนกชัน ‘คนรุ่นใหม่’ สามประสาน ‘ทหาร-ตำรวจ-พลเรือน’ ขุมกำลังอำนาจแห่งใหม่ ตีคู่ ‘วปอ.ใหญ่’ สร้างคอนเนกชัน ‘ผู้บริหาร’ ที่อีก 20 ปี เกษียณฯ

  • ‘อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร’ ร่วมเรียน ‘รุ่นแรก’ ก้าวแรก ‘ชินวัตร’ ประชิดกองทัพ ครั้งแรกที่ ‘แพทองธาร’ เข้าพื้นที่ทหาร กับความรู้สึกมี ‘เพื่อน’ เป็น ‘ทหาร’ มากขึ้น กับอดีตที่ ‘กองทัพ’ ทำไว้กับ ‘ชินวัตร’

  • ย้อนสายสัมพันธ์ ‘ราบ 11 คอนเนกชัน’ ระหว่าง ‘พล.อ.อภิรัชต์ - พล.อ.ทรงวิทย์’ กับกลิ่นอายความคิดแบบ ‘บิ๊กแดง’ ในงานด้าน ‘มวลชน-การเมือง’ ถูกส่งต่อมายัง พล.อ.ทรงวิทย์ ในยุคนี้

หลักสูตร ‘มินิ วปอ.’ หรือ หลักสูตรการป้องกันราชอาณาจักรสำหรับผู้บริหารแห่งอนาคต (วปอ.บอ.) ถูกมองเป็น ‘ขุมกำลังใหม่’ ในทางการเมือง ที่หลอมรวม ‘พลเรือน-ทหาร-ตำรวจ’ ไว้ด้วยกัน ที่ได้โครงสร้างมาจาก ‘หลักสูตร วปอ.’ ที่มีการปรับ ‘เกณฑ์อายุ’ ที่เจาะไปที่ ‘คนรุ่นใหม่’ มากขึ้น ในช่วงอายุ 35-42 ปี เพราะหลักสูตร วปอ. เดิมจะอยู่ที่ช่วง 50-55 ปี ที่อีกไม่กี่ปีก็เกษียณอายุราชการ  

แต่การ ‘ปรับลดอายุ’ ทำให้บุคคลที่กำลัง ‘เติบโตในอาชีพ’ ได้มาพับกัน ที่สำคัญ ยังต้องอยู่กับ ‘องค์กร-ธุรกิจ’ ประมาณ 20 ปี ถึงจะเกษียณฯ ทำให้ ‘คอนเนกชัน’ ได้ใช้งานยาวนานกว่า  

หลักสูตร วอป.บอ. ถูกรื้อฟื้นในสมัย ‘บิ๊กแก้ว’พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ขณะเป็น ผบ.ทหารสูงสุด หรือราว 3 ปีก่อน แต่ติดปัญหาเรื่อง ‘งบประมาณ-คน’ จึงมาสำเร็จในยุค ‘บิ๊กอ๊อบ’พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผบ.ทหารสูงสุด ซึ่งเรื่องนี้ พล.อ.ทรงวิทย์ เคยถูกถามใน กมธ.พิจารณางบประมาณฯ ปี 2567 ในสภาฯ ในเรื่องตั้งหลักสูตรให้คนมาหา ‘คอนเนกชัน’ ที่ตกเป็นเป้ามา จากรากฐานของ ‘วปอ.ใหญ่’ ที่ฝ่ายตรงข้าม ‘กองทัพ’ มองว่าเป็นหลักสูตรที่สร้าง ‘คอนเนกชันให้ทหาร’ ที่ถูกใช้ประโยชน์ในทางการเมือง โดยเฉพาะการทำ ‘รัฐประหาร’ ที่ต้องหาเครือข่ายค้ำอำนาจ รวมทั้งการใช้คอนเนกชันหาประโยชน์ต่างๆ 

ซึ่ง พล.อ.ทรงวิทย์ ได้ชี้แจงต่อ กมธ.งบประมาณฯ ว่า “อยากสร้างคนในกองทัพให้มีความเข้าใจฝ่ายการเมือง และประชาชนว่าในอนาคตเขาต้องการกองทัพอย่างไร นักเรียนไม่ได้เรียนอย่างเดียว ต้องมาดีไซน์กองทัพในอนาคตด้วย นี่คือผลงานที่เราต้องการในหลักสูตรนี้ ส่วนเรื่องอย่างอื่นที่ตามมา แล้วพบว่าไปทำในสิ่งที่ไม่เหมาะสม ตรงนี้ผมต้องรับไปและกำหนดจรรยาบรรณในตัวหลักสูตร ก็น้อมรับในทุกๆ เรื่อง"

Paetongtarn-Shinawatra-Mini-National-Defence-College-SPACEBAR-Photo03.jpg
Photo: แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย รายงานตัว-ปฐมนิเทศ หลักสูตร วปอ.บอ. รุ่นที่ 1

ขุมกำลัง ‘วัยกลางคน’ ถูกมองว่าเป็น ‘พลังอำนาจใหม่’ ในสังคม โดยหลักสูตรดังกล่าว คัดเบื้องต้นในเรื่อง ‘คุณสมบัติ’ ต่างๆ ฝ่าด่านมาเกือบ 500 คน ก่อนจะสอบสัมภาษณ์อีกครั้ง เพื่อคัดเหลือ 150 คน ซึ่งจากรายชื่อส่วนใหญ่เป็น ‘ทายาทการเมือง-นักธุรกิจ-นามสกุลดัง’ หนึ่งในผู้ที่ ‘ผ่านสัมภาษณ์’ คือ ‘อุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร ชินวัตร’ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย 

ซึ่ง ‘แพทองธาร’ ก็ยืดอกยมรับ มาเรียนหา ‘คอนเนกชัน’ แบบตรงไปตรงมา พร้อมยอมรับว่าเป็น ‘ครั้งแรก’ ที่เข้ามาใน ‘พื้นที่ทหาร’ เพราะ ‘วปอ.บอ’ อยู่ภายใต้ ‘สถาบันวิชาการป้องกันประเทศ’ ที่สังกัดกองบัญชาการกองทัพไทย ที่สำคัญ ‘แพทองธาร’ ได้เผยว่า ‘รู้สึกดี’ หลังสื่อถามได้มีเพื่อนเป็นทหารเป็นอย่างไร พร้อมกล่าวเสริมว่า “เป็นเพื่อนได้กับทุกคน”

การที่คนมาเรียนไม่ใช่แค่คอร์สนี้ แต่ในทุกคอร์ส ทุกคนอยากได้คอนเนกชัน ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติ โรงเรียนก็จะได้มาระดับหนึ่ง มหาวิทยาลัยก็จะเป็นอีกกลุ่มหนึ่ง ไปเรียนเมืองนอกก็ได้อีกกลุ่มหนึ่ง อย่างเพื่อนต่างชาติของอิ๊งค์ ก็ยังมีอยู่เลย แล้วการกลับมาก็เป็นช่วงอายุที่เปลี่ยนไป ดังนั้นการที่คุณจะหาคอนเนกชั่น หรือไปหาเพื่อนกลุ่มใหม่ ๆ สังคมใหม่ๆ ก็ถือเป็นเรื่องที่ดี ทำให้เราได้เปิดกว้างเรียนรู้จากคนหลายคน

แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย

อิ๊งค์มองว่าทุกคอร์ส ทุกคนก็มาเรียนเพื่อประโยชน์ของตัวเอง และประโยชน์เพื่อใดๆ ของคนที่เรารักและแคร์ทุกคน ก็เป็นอย่างนั้น และไม่ใช่เรื่องน่าแปลก ว่ามาแล้วจะได้ผลประโยชน์ ไม่ได้ไปโกงกินใคร เรามาแล้วได้ประโยชน์ ก็เป็นสิ่งที่ดี

แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย

Paetongtarn-Shinawatra-Mini-National-Defence-College-SPACEBAR-Photo04.jpg
Photo: แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย รายงานตัว-ปฐมนิเทศ หลักสูตร วปอ.บอ. รุ่นที่ 1

ย้อนไป 9-10 ปีก่อน หลักสูตรคล้ายๆ ‘มินิ วปอ.’ เริ่มขึ้นยุค ‘บิ๊กตี๋’พล.อ.วรพงษ์ สง่าเนตร ขณะเป็น ผบ.ทหารสูงสุด แต่สุดท้ายก็ต้องพับแผนไป จนมาถูกปัดฝุ่นปรับใหม่ในยุค พล.อ.เฉลิมพล ขณะเป็น ผบ.ทหารสูงสุด จนมาสำเร็จและเปิดรับสมัครในยุค พล.อ.ทรงวิทย์ เมื่อช่วง ม.ค.2567 

หลังมีการปรับ ‘เชิงเทคนิค’ เพื่อให้การ ‘จัดการหลักสูตร’ คล่องตัวขึ้น โดยให้ ‘มินิ วปอ.’ มาอยู่ภายใต้ สปท. ใช้งบของ สปท. ส่วนหลักสูตร ‘วปอ. ใหญ่’ มี วปอ. เป็นเจ้าของงบ และอยู่ภายใต้ รมว.กลาโหม ทำให้รายชื่อ นศ. ต้องผ่าน ครม. แต่หลักสูตร ‘มินิ วปอ.’ รายชื่อ นศ. ไม่ต้องผ่าน ครม. ทำให้หลักสูตร ‘มินิ วปอ.’ ตั้งขึ้นมาได้

สำหรับ พล.อ.ทรงวิทย์ เป็น ‘นักเรียนนอก’ จบจาก ร.ร.นายร้อย Virginia Military Institute สหรัฐฯ จุดนี้ทำให้ พล.อ.ทรงวิทย์ มีบุคลิก ‘เปิดกว้าง’ ในการรับฟังความเห็นต่างๆ และรู้ ‘วิธีรับมือ’ ฝ่ายการเมือง ที่สำคัญเป็น ผบ.เหล่าทัพ ที่ใกล้ชิด ‘เศรษฐา ทวีสิน’ นายกฯ ที่รู้จักกันใน ‘สนามฟุตบอล’ ที่สนามโปโล กันมาก่อน อีกทั้งคู่เป็นแฟนบอล ‘หงส์แดง’ และเป็น ‘นักเรียนจบนอก’ เหมือนกันด้วย

20240322_032544205_iOS.jpg
Photo: แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย รายงานตัว-ปฐมนิเทศ หลักสูตร วปอ.บอ. รุ่นที่ 1

นอกจากนี้ พล.อ.ทรงวิทย์ เป็นน้องรัก ‘บิ๊กแดง’พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ อดีต ผบ.ทบ. ที่เติบโตจาก ร.11 รอ. มาด้วยกัน มีความใกล้ชิดกันมาตั้งแต่รุ่นคุณพ่อระหว่าง ‘บิ๊กตุ๋ย’พล.อ.อิสระพงศ์ หนุนภักดี กับ ‘บิ๊กจ็อด’พล.อ.สุนทร คงสมพงษ์ ที่เป็นนายทหารของกองทัพ เมื่อ 30 กว่าปีก่อน ในส่วน พล.อ.เฉลิมพล ก็มีความใกล้ชิด ‘บิ๊กแดง’ เพราะเป็นเพื่อนเตรียมทหารรุ่นติดกัน ระหว่าง ตท.20-21 อีกทั้ง พล.อ.อภิรัชต์ คือผู้สนับสนุนให้ พล.อ.เฉลิมพล ขึ้นเป็น ผบ.ทหารสูงสุด ที่เป็น ‘ทหารคอแดง’ คนแรกด้วย 

ด้วยสายสัมพันธ์ ระหว่าง ‘บิ๊กแดง’ กับ พล.อ.เฉลิมพล - พล.อ.ทรงวิทย์ ทำให้แนวคิด-รูปแบบการทำงานต่างๆ โดยเฉพาะกับ พล.อ.ทรงวิทย์ จึงมีกลิ่นอายที่คล้าย ‘บิ๊กแดง’ อยู่ด้วย โดยเฉพาะ ‘งานมวลชน’ หรือ ‘งานการเมือง’ ที่มีชั้นเชิง แม้จะจะมี ‘รายละเอียด-เนื้อหา’ แตกต่างกันบ้าง ที่ของ ‘บิ๊กแดง’ จะตรงไปตรงมา มากกว่า พล.อ.ทรงวิทย์ นั่นเอง

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์