‘อิ๊งค์’ ปิ๊งอาชีพขาย ‘ดินโคลน’ ฝุ่น PM2.5 กระทบ ‘แม่อิ๊งค์-ลูกสอง’

12 ธ.ค. 2567 - 08:57

  • ‘นายกฯ อิ๊งค์’ โชว์เดี่ยวกว่าชั่วโมง ผลงานรัฐบาล 90 วัน ชูวิชั่นปี 2568 ปิ๊งไอเดียหลังน้ำลด ขายดินโคลน ชี้ปัญหา PM2.5 กระทบ ‘แม่อิ๊งค์-ลูกสอง’ ชอบให้ลูกออกกำลังกายนอกบ้าน เผยมาแน่ปีหน้า แจกเงินหมื่น เฟส 2-3 สานฝันเด็กจบใหม่ ‘บ้านเพื่อคนไทย’ ผ่อน 4,000 ไม่ต้องดาวน์

Paetongtarn-Shinawatra-Policy-Government-2025-SPACEBAR-Hero.jpg

แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการแถลงผลการดำเนินงานของรัฐบาลรอบ 3 เดือน ภายใต้ชื่อ “2568 โอกาสไทย ทำได้จริง” และการมอบนโยบายการบริหารราชการแผ่นดินของนายกรัฐมนตรี ที่ศูนย์ปฏิบัติการแพร่ภาพออกอากาศการกระจายเสียงวิทยุและการให้บริการข้อมูลข่าวสารภาครัฐ สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย (NBT) โดยใช้เวลา 45 นาที

ทั้งนี้ นายกฯ กล่าวว่า คลิปวิดีโอที่ได้รับชมเป็นผลงานตั้งแต่สมัยของ เศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี ส่งไม้ต่อมาถึงรัฐบาลปัจจุบัน เวลา 90 วัน ตั้งแต่แถลงนโยบายต่อรัฐสภาเป็นช่วงเวลาของการปรับตัวระหว่างตัวดิฉัน คณะรัฐมนตรีและเพื่อนข้าราชการทุกท่าน เพื่อหาแนวทางกันว่าการทำงานแบบไหนที่เราจะสามารถทำให้ประชาชนมีชีวิตที่ดีขึ้นได้ ช่วงเวลา 90 วันในฐานะนายกฯเป็นช่วงเวลาที่สำคัญ ที่เข้ามาเรียนรู้และทำเรื่องต่างๆ

“วันนี้ทั้งข้าราชการ คณะรัฐมนตรี พี่น้องประชาชน เราทั้งหมดคือทีมเดียวกัน ช่วงเวลาที่ผ่านมาอาจจะมีบางช่วงมีการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างที่เราไม่คาดฝัน แต่วันนี้เรากลับมาแล้วเราเป็นรัฐบาลที่ร่วมมือกันทำงานแข็งแรงและมองไปข้างหน้า เพื่ออนาคตของประเทศไทยและเพื่อพี่น้องประชาชนเดินหน้าอย่างมั่นคง” นายกฯ กล่าว

เราวางรากฐานวางโครงสร้างที่สำคัญไว้ให้กับประเทศไทยในอีกทศวรรษข้างหน้า ให้ประเทศไทยของเรามีกิน มีใช้ มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี ภาพของประเทศไทยในปี 2568 เป็นปีของโอกาสที่จับต้องได้รัฐบาลจะสร้างผลงานที่เป็นรูปธรรม สร้างสิ่งที่คนเขาคิดว่าเป็นแค่ความฝันให้มันเกิดขึ้นจริงได้ ทำให้มีสิ่งที่เรียกว่านโยบาย แน่นอนว่าที่ผ่านมามีความขัดแย้งเกิดขึ้นกับประเทศไทยภายใต้ความขัดแย้งในด้านของการเมืองมานานกว่า 20 ปี ซึ่งวันนี้เราทุกคนพร้อมที่จะเดินต่อไปข้างหน้า เพื่อแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น” นายกฯ กล่าว

Paetongtarn-Shinawatra-Policy-Government-2025-SPACEBAR-Photo01.jpg

‘อิ๊งค์’ ผุดอาชีพใหม่ ‘ขายดินโคลน’

แพทองธาร กล่าวว่า เมื่อเข้ารับตำแหน่งเจอปัญหาของน้ำท่วมอย่างหนักมากในพื้นที่ของภาคเหนือ และมีดินโคลนถล่ม ซึ่งเราสามารถเยียวยาได้รวดเร็ว รวมถึงยังมีน้ำท่วมในพื้นที่ภาคอีสานและพื้นที่ภาคใต้ ตอนที่ยังไม่ได้เข้ามาในการเมืองมีมูลนิธิส่งความช่วยเหลือแต่ไม่ได้เห็นหน้างานจริง เมื่อมีตำแหน่งนายกฯมีความรู้สึกบางอย่างที่รู้สึกว่าเราได้มีตำแหน่งอันทรงเกียรตินี้แล้ว เราจะสามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตพี่น้องประชาชนได้อย่างไรบ้าง เราจะสามารถช่วยเขาให้ได้จริงๆอย่างไรบ้าง ปัญหาน้ำท่วมน้ำแล้งมีมานาน แต่ไม่เคยได้รับการแก้ปัญหาอย่างบูรณาการ 

จากนี้ต้องร่วมกันแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ รวมถึงจะมีการแก้กฎหมายให้ประชาชนขุดลอกคูครองเอาดินไปขาย เป็นโครงการใหม่ที่เราจะศึกษาในรายละเอียดต่อไป และมากไปกว่าการสร้างฟลัดเวย์ ที่เป็นโครงการใหญ่จะแก้ปัญหาน้ำแล้งให้คนภาคกลาง

กรมเจ้าท่า และหน่วยงานเกี่ยวข้อง ศึกษาแก้กฎหมาย อนุญาติให้ประชาชนสามารถขุดลอกคูคลองได้ เพื่อเอาดินไปขาย ไปใช้ โครงการใหม่ ที่เราจะศึกษา แต่ต้องไม่กระทบสิ่งแวดล้อม และมีกฎเกณฑ์ที่รัฐจัดสรรขึ้น เพื่อให้เกิดอาชีพใหม่ เช่น ขายเรือท้องแบน ขายเครื่องดูดน้ำ-ดูดดินโคลน ขนดิน

แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ

Paetongtarn-Shinawatra-Policy-Government-2025-SPACEBAR-Photo02.jpg

ฝุ่น PM2.5 กระทบ ‘แม่อิ๊งค์-ลูกสอง’

นายกรัฐมนตรี กล่าวถึง ปัญหาฝุ่น PM2.5 ว่า “ในฐานะแม่ลูก 2 ชอบให้ลูกเล่นนอกบ้าน เพื่อมีสุขภาพแข็งแรง ออกกำลังกาย จึงกระทบตัวดิฉัน” ตั้งแต่ปีที่แล้ว รัฐบาลนายกฯเศรษฐา ตั้งเคพีไอเอาไว้ ต้องทำให้มีฝุ่นน้อยลงทุกปี ควบคุมการเผาไหม้ เพราะการเกิดฝุ่นได้มาจากการเผา เช่น จ.เชียงใหม่ ลดพื้นที่เผาไหม้ไปได้ 50 เปอร์เซ็นต์ และช่วงเวลานี้ปัญหาฝุ่นทั่วประเทศลดลงเมื่อเทียบจากปีที่แล้ว 30 เปอร์เซ็นต์ แต่การจะให้หมดไปเลยต้องใช้เวลาอีกนาน ซึ่งเรามีนโยบายไม่รับซื้อผลิตภัณฑ์ ที่มาจากการเผาไหม้จากประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อคืนสุขภาพดีๆให้ประชาชน 

ปัดฝุ่น ‘1 อำเภอ 1 ทุน 1 อำเภอ 1 ซัมเมอร์แคมป์’

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ดิฉันได้เป็นนายกฯ ก็ถามตัวเองว่าอยากได้อะไร และอยากให้อะไรเกิดขึ้นกับประเทศไทย การเป็นนายกฯของดิฉันดิฉันอยากจะสร้างนโยบายดีๆ ให้กับประเทศไทย ไม่ว่าใครเข้ามาเป็นนายกฯ แต่นโยบายยังอยู่ ทำประโยชน์ให้กับประชาชนนั่นคือสิ่งที่ตั้งใจไว้ หลังจากนี้จะเกิดขึ้นในปี 2568 เราจะนำนโยบายดีๆ ที่เคยใช้ในอดีตกลับมาใช้ 

นโยบายแรกคือ นโยบาย 1 อำเภอ 1 ทุน (ODOS) เพื่อส่งเด็กเรียนเก่งเรียนดีได้ไปเรียนต่อระดับปริญญาตรีในมหาวิทยาลัยชั้นนำในต่างประเทศ ใช้เงินจากกองสลากกินแบ่งรัฐบาล 

โครงการที่ 2 คือ 1 อำเภอ 1 ซัมเมอร์แคมป์ ส่งเด็กไทยไปเรียนซัมเมอร์แคมป์ที่ต่างประเทศ เพื่อให้เรียนรู้ประสบการณ์ใหม่ๆ 

โครงการที่ 3 นำเงินกองสลากฯ มาพัฒนาโรงเรียนประจำอำเภอ

Paetongtarn-Shinawatra-Policy-Government-2025-SPACEBAR-Photo03.jpg

คืนชีพ ‘กองทุนหมู่บ้าน’ กลายสภาพเป็น ‘SML EMPOWERING THAIS’

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า โครงการ SML คือการให้ทุนที่จะส่งเงินให้ถึงประชาชน เพื่อส่งไปทุกอำเภอ ทุกหมู่บ้าน เพราะเราเชื่อเสมอว่าไม่ว่าโลเคชั่นใด ประชาชนย้อมรู้ปัญหาตัวเองดีที่สุด รัฐไม่อยากแทรกแซงว่าต้องทำอาชีพใด ประชาชนต้องมาร่วมกัน พิจารณาปัญหาและอาชีพที่อยากได้ เช่น ตนเองไป จ.เชียงใหม่ ไปดูพื้นที่เผาไหม้ทำการเกษตร แนวทางถึงลด PM2.5 ได้เห็นเครื่องจักรอัดซังข้าวโพด จากเดิมที่จะนำไปเผา แต่เอาไปอัดเป็นเม็ดแทน กลายเป็นดิน อาหาร นำมาทำจาน แต่ต้องมีการลงทุน ราคาเครื่องจักรเล็กๆ 2-3 แสนบาท และก็จะเกิดการจ้างงาน 

อีกทั้งเครื่องแพ็คข้าวสาร ก็จะเกิดการจ้างขนส่ง คนหนึ่งคน ทำอาชีพได้มากขึ้น รายได้มากขึ้น กระจายอำนาจและเงิน ไปถึงประชาชนอย่างแท้จริง เริ่มปี 2568 โดยจะเพิ่มเงินขึ้นไปทุกปี โดยดูผลประกอบการรายอำเภอ ที่มีขนาดไซด์ต่างกัน

โครงการบ้านเพื่อคนไทย

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ให้คนไทยโดยเฉพาะเด็กจบใหม่ที่ไม่เคยมีบ้าน ได้มีที่อยู่อาศัยใจกลางเมืองเดินทางสะดวก โดยจะใช้พื้นที่ของรัฐที่ไม่ได้ทำประโยชน์ ทำเลดีใกล้รถไฟฟ้า โดยเริ่มที่ที่ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ในกรุงเทพฯ  เป็นทั้งบ้านและคอนโดที่ดี

เริ่มต้นที่ประมาณ 30 ตารางเมตร มีเฟอร์นิเจอร์ให้ ไม่ต้องจ่ายเงินดาวน์ จ่ายในระบบของค่าเช่าเดือนละ 4,000 บาทผ่อนได้ยาว 30 ปีมีสิทธิอยู่ถึง 99 ปี ซึ่งปี 2568 จะมีห้องตัวอย่างมาให้ดู 

รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รถไฟฟ้า 20 บาท เริ่มแล้ว 2 สาย (สายสีแดง-สีม่วง) ได้พูดคุยกับรองนายกฯสุริยะ คิดต่อเที่ยว บางเที่ยว 150 บาท ซึ่ง 1 ครั้งไม่ค่อยแพง แต่คิดทุกวันเป็นลมได้ เพื่อลดรายจ่ายให้ประชาชน และทำให้ประชาชนเข้าถึง โดยจะเริ่มในปี 2568

Paetongtarn-Shinawatra-Policy-Government-2025-SPACEBAR-Photo04.jpg

โครงการดิจิทัลวอลเล็ต

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เราต้องเติมเงินเข้าไปในระบบ ในปีนี้มีการเติมไปแล้ว 1 ครั้ง 14 ล้านคน กลุ่มเปราะบาง จะทำให้จีดีพีทั้งหมดของไทยปีนี้ เกิน 3 เปอร์เซ็นต์แน่นอน ส่วนเฟส 2 ผู้สูงอายุ 4 ล้านคน ไม่เกินวันตรุษจีนปี 2568 ได้ในรูปแบบเงินสด ส่วนเฟส 3 บุคคลทั่วไป ได้ในรูปแบบดิจิทัลวิลเล็ต เพื่อเชื่อมรัฐบาลกับประชาชนมากขึ้น จะเกิดขึ้นภายในปี 2568

โครงการคุณสู้ เราช่วย ปิดหนี้ได้ไว ไปต่อได้เร็ว

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การแก้หนี้ครัวเรือน โดยเน้นที่หนี้ ‘รถยนต์’ และ ‘บ้าน’ โดยธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และสมาคมธนาคาร ตกลงที่จะลดการส่งเงินเข้ากองทุนฟื้นฟูลง 0.23% ซึ่งเป็นเงินกว่า 39,000 ล้านต่อปี และธนาคารพาณิชย์จะเติมให้อีก 39,000 รวมกันเป็น 78,000 ล้านบาทต่อปี เพื่อพักดอกเบี้ย 3 ปี ให้ลูกหนี้จ่ายคืนเงินต้นได้เต็มจำนวน โดยจะเริ่มดำเนินการในต้นปี 2568 พร้อมมาตรการประนอมหนี้แบบพิเศษที่จะล้างหนี้ให้ทั้งหมด สำหรับลูกหนี้มูลหนี้ต่ำกว่า 5,000 บาท

วันนี้ทีมรัฐมนตรีและทีมข้าราชการ เราคือทีมเดียวกัน เราทุกคนต่างมีหัวใจเดียวกัน คือหัวใจที่รักประเทศไทยและประชาชนคนไทย เราจะมีการลดอำนาจรัฐลง เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชนมากยิ่งขึ้น ประชาชนคนไทยมี 66 ล้านคน ข้าราชการมีประมาณ 3 ล้านคน ขอเทียบกันจริงๆ เลขมันดูห่างกันมาก แต่ 3 ล้านกว่าคนคือกลกันที่สำคัญอย่างมาก ในการผลักดันประเทศ ในวันนี้ขอเชิญทุกท่าน ทุกภาคส่วนมาร่วมกัน ทำเพื่อประเทศไทยที่เรารัก วางทางที่เข้มแข็ง ไว้ให้ลูกหลานเราในอนาคต อีก 10 ปี 20 ปีเราได้สร้างรากฐานมั่นคง ให้กับประเทศไทยนี้ไว้แล้ว 

ในวันที่เรามีโอกาสมีหน้าที่มีตำแหน่ง ในการดูแลพี่น้องประชาชน เพราะฉะนั้นเรามาร่วมกันทำวันนี้ เพื่อพี่น้องประชาชน อย่างดีที่สุด และแน่นอนว่าศักยภาพของคนไทย จะออกมาให้ทุกท่านเห็น กันอย่างไม่น่าเชื่ออย่างแน่นอน วันนี้ขอบคุณทุกท่านที่มาในวันนี้ มารอปีหน้าที่เป็นปีแห่งโอกาส และความหวัง เรามามีความหวังไปด้วยกันค่ะ“ นายกฯ กล่าวทิ้งท้าย

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์