ไม่รู้เป็นความ ‘บังเอิญ’ หรือ ‘กรรมลิขิต’ ที่ ‘พรรคก้าวไกล’ และ ‘พรรคเพื่อไทย’ ตกอยู่ในสภาวะไร้หัว (หน้า) ในช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน แม้เหตุผลการลาออกของ ‘อดีตหัวหน้าพรรค’ จะต่างกัน แต่ปลายทางการเฟ้นหากรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ จำเป็นต้องไฉไลกว่าเดิม
ว่ากันตามข้อมูลที่สื่อมวลชนคาดการณ์ ‘กุนซือต๋อม’ ชัยธวัช ตุลาธน รักษาการเลขาธิการพรรค มีเปอร์เซ็นต์สูงสุด ที่จะได้ขึ้นกุมพังงาพรรคก้าวไกล ต่อจาก ‘พิธา ลิ้มเจริญรัตน์’ ด้วยคุณสมบัติครบถ้วนแบบ ‘สายบุ๋น’ สุขุมคัมภีรภาพ
แต่เมื่อทุกอย่างยังไม่เข้าสู่ขั้นตอนการเลือกอย่างเป็นทางการ ชื่อของ ‘ซ้อไหม’ ศิริกัญญา ตันสกุล รักษาการณ์รองหัวหน้าพรรค ก็ถูกพูดถึงไม่น้อย ตามดีกรีที่เป็นแบนด์ดิ้ง ตรงตำรับ มือวางอันดับ 1 ด้านเศรษฐกิจของก้าวไกล
ขณะที่พรรคเพื่อไทย มีแค่ชื่อเดียวที่คิดว่า ถึงเวลาประกาศอย่างเป็นทางการ คนทางคงไม่แปลกใจ อย่าง ‘อุ๊งอิ๊ง’ แพทองธาร ชินวัตร ลูกสาวคนสุดท้องของ (นักโทษชาย) ‘ทักษิณ ชินวัตร’ ผู้เป็นเจ้าของพรรคเพื่อไทย 'ตัวจริง'
แม้คนหนึ่งเชื่อได้ว่า ‘เข้าวินแน่ ๆ’ ส่วนอีกคน ‘ยังรอส้มหล่น’ คงไม่ผิดอะไร หากนึกอยากจะนำมาเทียบดีกรีประหนึ่ง ‘สงครามนางพญา’ พร้อมชวนให้คิดต่อ ถ้า (สมมติ) ได้ขึ้นรั้งตำแหน่งต้นหนแล้วไซร้ พวกเธอจะกำหนดใบเรือได้ถูกจังหวะลมทะเล พาพรรคก้าวต่อไปบนสาครการเมืองทิศทางไหน
เริ่มที่ ‘ศิริกัญญา’ อย่างที่กล่าวไว้ในช่วงแรกว่า องค์ความรู้ด้านเศรษฐกิจของเธอ คนในพรรคนิยามเป็นหนึ่งในตองอู ศิริกัญญาเริ่มเข้ามาเฉิดฉายในสภาฯ ครั้งแรก ตั้งแต่สมัย ‘พรรคอนาคตใหม่’ และได้รับการเลือกตั้งเข้ามาในฐานะ สส. แบบบัญชีรายชื่อ สมัยที่ 2 (ครั้งล่าสุด)
ในช่วง 'อนาคตใหม่' เธอได้รับตำแหน่งสำคัญ อย่าง ผู้อำนวยการฝ่ายนโยบาย และได้รับเลือกให้เป็นประธานคณะกรรมาธิการการพัฒนาเศรษฐกิจ สภาผู้แทนราษฎรอีกด้วย
การที่มีจุดเด่นเป็นมือโปร์ทางเศรษฐกิจ จนช่วงหนึ่งศิริกัญญาตกในวงล้อมกระแสข่าวลือหนัก ว่าจะได้เป็น ‘ขุนคลัง’ ประจำ ‘รัฐบาลทิพย์’ ของ (นายกฯ ทิพย์) พิธา
อย่างไรเสียแม้จะไม่ได้เป็นฝ่ายบริหารดังใจหวัง ศิริกัญญาก็ยังถูกวางตัวให้เป็นเครื่องจักรเบอร์ 1 ในการเข้าชำแหล่ะ นโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาล ซึ่งทำได้อย่างถึงลูกถึงคน
ดังนั้นการที่ศิริกัญญามีบทบาทสำคัญ (ถ้า) ได้เป็นหัวหน้าพรรค ก็อาจมองว่าถูกช่วง เพราะประจวบเหมาะกับการดำเนินงานของรัฐบาลเศรษฐา ที่มุ่งเน้นการผลักดันนโยบายปากท้อง โดยเฉพาะ ‘ดิจิทัลวอลเลต 1 หมื่นบาท’ ถ้าหากพลาดโดนศิริกัญญาเสียบเข้าแน่
ขณะที่ ‘แพทองธาร’ ชื่อนี้ไม่ต้องพูดถึง เพราะด้วยเป็นคนนามสกุลชินวัตร และเป็นมีศักดิ์เป็นถึงบุตรสาวของ ‘นายห้างดูไบ’ ใคร ๆ ก็รู้จัก
แม้จะเพิ่งชิมสนามการเมืองครั้งแรกในแบบคลุกฝุ่นตลบ ช่วงการหาเสียงเลือกตั้ง 2566 ในฐานะแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าครวบครัวเพื่อไทย แต่ก็ถือว่าเธอเป็นบุคคลใกล้ชิดทักษิณ เสมือนเป็นสายสะดือเชื่อสัมพันธ์ระหว่างพรรคกับนายใหญ่
อีกทั้งยังมีกระแสข่าวว่า ‘พ่อแม้ว’ พยายามผลักดันให้ ‘ลูกอิ๊ง’ เป็นทายาททางการเมืองคนต่อไป แทนตัวเองที่ยังต้องโทษจำคุกและอายุที่ร่วงเข้าสู่วัยชราภาพ
รายงานข่าวตรงกับช่วงจังหวะที่ ‘เสี่ยนิด’ เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี สั่งตั้ง ‘คณะกรรมการยุทธศาสตร์ว่าด้วยซอฟต์พาวเวอร์ของประเทศไทย’ โดยเขา (เศรษฐา) นั่งหัวโต๊ะเป็นประธาน และบุตรสาวคนสุดท้องของทักษิณ นั่งเก้าอี้รองประธานอีกด้วย ซึ่งถือเป็นตำแหน่งทางการเมือง ตำแหน่งแรก หลังชวดเก้าอี้นายกรัฐมนตรีไป
แม้ทั้งคู่ (ณ ตอนนี้) จะดูมีบทบาททางการเมืองที่แตกต่างกัน แต่หากโฟกัสไปที่ความเหมือนหรือเรื่องใกล้เคียง ก็หาใช่ว่าจะไม่มี อย่างเรื่อง ‘กำลังภายใน’ ที่สามารถ ‘ชี้เป็นชี้ตาย’ ให้กับองคาพยพในพรรคได้ไม่อยาก เพราะ ทั้ง ‘ศิริกัญญา - แพทองธาร’ ล้วนถูกมองว่า ‘มีแบ็กหลังที่คุ้มหัว’
‘ซ้อไหม’ มักถูกเชื่อมโยงว่าเป็น ‘โปลิตบูโร’ ของพรรคก้าวไกลมาแต่ไหนแต่ไร ตามความเชื่อที่หลายคนมองว่า เธอเป็นเด็กปั้นมือฉมังค์ของ ‘พ่อฟ้า’ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าและผู้ร่วมก่อตั้งพรรคอนาคตใหม่ อำนาจในมือที่อยู่ไม่ขี้เหร่
ขณะที่ ‘อุ๊งอิ๊ง’ ก็มิต่างอะไรกับ ‘ลูกสาวเจ้าของบริษัท’ ที่ไม่บอกก็รู้กันทั่วว่า ‘พ่อแม้ว’ เป็นผู้อยู่เบื้องหลังการจัดตั้งรัฐบาลชุดนี้ โดยเฉพาะการจัดสรรคณะรัฐมนตรี ที่รายงานเชื่อว่า การวางพิมพ์เขียวเสร็จสมบูรณ์ ที่ห้องรอยัทสูท ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ
ต้องจับตาดูให้ดีว่าถนนการเมืองของ ‘สองนางพญา’ จะปะทะกันได้หรือไม่ แต่ที่แน่ ๆ อะไรก็เกิดขึ้นได้เสมอ…