‘แพทองธาร ชินวัตร’ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีแพทยสภามีมติลงโทษแพทย์ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการรักษาตัว ‘ทักษิณ ชินวัตร’ อดีตนายกฯ ที่นอนรักษาตัวที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ รวมถึงกรณีศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองเตรียมไต่สวนเรื่องดังกล่าว เป็นการสะท้อนว่าฝ่ายอนุรักษ์นิยม และชนชั้นนำไม่ไว้ใจพยายามล้อมกรอบพรรคเพื่อไทยหรือไม่ โดยนายกฯ ย้อนถามว่า แบ่งเป็นชนชั้นใช่หรือไม่ ความจริงแล้วเรื่องนี้ยังไม่มีข้อยุติ และยังไม่มีแพทยสภาคนใดออกมาพูดว่านายทักษิณ ป่วยจริงหรือไม่จริง ยังไม่ได้มีข้อสรุปตรงนี้ ทุกอย่างเป็นไปตามกรอบกระบวนการ แต่จะแปลว่าอย่างไรไม่ทราบ จะเป็นชนชั้นอะไรอย่างไรก็ไม่ทราบ เพราะไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้เลย
เมื่อถามว่าหลังแพทยสภามีมติอะไรออกมามีผลกระทบอะไรมาถึงทักษิณหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ไม่มี คุณพ่อเตรียมที่จะชี้แจงก็แค่นั้นให้เป็นไปตามกระบวนการ โดยจะชี้แจงตามข้อเท็จจริง
เมื่อถามต่อว่านายกฯ และทักษิณ ยังไม่ได้รับผลกระทบจากเรื่องนี้ แต่มีแพทย์ถูกตักเตือนจากเรื่องนี้ นายกฯ กล่าวว่า ต้องมีการชี้แจงกันต่อไป จะบอกว่าไม่มีผลกระทบก็ไม่ใช่ เพราะกระทบมาตลอดอยู่แล้ว แต่ถ้าถามว่าเราจะทำอย่างไรมันมีคำถามว่ากระทบอย่างไร มันกระทบอยู่แล้วตั้งแต่มีการตัดสินว่าติดคุก มันกระทบตั้งแต่ตอนได้รับคดีนี้ ดิฉันพูดถึงความรู้สึกว่ารู้สึกอย่างไร มันรู้สึกมาตั้งแต่ต้นอยู่แล้ว แต่ตอนนี้ถามว่าเราทำอะไรได้บ้างดีกว่า สิ่งที่ทำได้คือชี้แจงข้อเท็จจริงตามหลักฐานและสิ่งที่เกิดขึ้น
เมื่อถามอีกว่าประเด็นดังกล่าวถูกหยิบมาเป็นประเด็นการเมืองโจมตีตัวนายกฯและพรรคเพื่อไทยว่าเป็นการป่วยทิพย์ จะสามารถชี้แจงสังคมได้หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า
"พูดมาตลอดว่าท่านทักษิณอายุมากแล้ว ป่วยเป็นโควิต-19ตั้งแต่ก่อนกลับมาประเทศไทย ช่วงที่อายุ 72 ปี ส่วนนั้นไม่สบายหนัก มีประวัติการป่วยอยู่แล้วตั้งแต่รักษาที่ต่างประเทศมันเกี่ยวเนื่องกันมา ทางการแพทย์จริงๆ มีประวัติการรักษาสามารถชี้แจงได้อยู่แล้ว ส่วนที่โจมตีว่าป่วยทิพย์นั้น เราชี้แจงตามข้อเท็จจริง ถ้าใครจะคิดอย่างไรก็ไม่สามารถห้ามได้"
เรื่องผลกระทบที่จะมาถึงนั้นขอทำความเข้าใจว่าเรื่องชั้น 14 เริ่มและจบลงก่อนดิฉันเป็นนายกฯ พูดไปหลายรอบแล้ว แต่ก็มีหลายฝ่ายพยายามทำให้เข้าใจผิดว่าดิฉันเข้าไปยุ่งกับกระบวนการไปแทรกแซงต่างๆ ซึ่งดิฉันไม่มีอำนาจอะไรเลย จะแทรกแซงอย่างไร มันจบเรื่องคุณพ่อชั้น 14 ก่อนที่ดิฉันเป็นนายกฯตั้งหลายเดือน มันชัดเจนด้วยกรอบเวลา อันนี้ก็ไม่รู้จะชี้แจงอย่างไร และจากที่ได้เจอกับท่านทักษิณเมื่อวันที่ 12 พ.ค. ทีีผ่านมา ได้คุยกันว่าจะไปชี้แจงศาลในวันที่ 13 มิ.ย.นี้
เมื่อถามย้ำว่ายังยืนยันว่านายทักษิณ ป่วยจริงเหมือนที่ให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 6 พ.ค.ใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า “ใช่ค่ะ ยังยืนยันเหมือนเดิม” เมื่อถามอีกว่าคำแถลงของแพทยสภาเหมือนสวนทาง นายกฯ ย้อนถามว่า “ท่านป่วยจริงหรือไม่” สื่อจึงตอบว่า ไม่ได้ชัดขนาดนั้นระบุเพียงว่าแพทย์มีความบกพร่องในการทำหน้าที่ นายกฯ จึงตอบว่า เขาก็ต้องชี้แจงกันต่อไป
งงข่าว ‘ยุบสภาฯ’ ยันสัมพันธ์พรรคร่วมเหมือนเดิม
นอกจากนี้ได้ให้สัมภาษณ์กรณีกระแสข่าว จะมีการยุบสภาฯ ช่วงสุดสัปดาห์ ว่า จริงๆ ได้สอบถามคนในพรรคเพราะงงกับข่าวที่ออกมาว่าทำไมถึงยุบสภาฯ พร้อมย้อนถามสื่อว่าจะยุบเพราะอะไร สื่อจึงตอบไปว่า พรรคภูมิใจไทยจะคว่ำร่างกม.งบประมาณปี 69 เพราะไม่พอใจคดีฮั้วสว. แพทองธาร กล่าวว่า ไม่มีเลย จริงๆ การทำร่างพ.ร.บ.งบประมาณ เป็นความรับผิดชอบร่วมกันของพรรคร่วม ซึ่งไม่มีเรื่องของการยุบสภาฯ อะไรเลย ‘อนุทิน ชาญวีรกูล’ รองนายกฯและรมว.มหาดไทยในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทยผ่าตัดตาอยู่ ซึ่งไม่ได้พูดคุยเรื่องนี้กัน เพียงแต่อวยพรให้หายเร็วๆ และความจริงสื่อช่วยกันคิดก็ได้ว่าทำไมถึงมีข่าวแบบนี้ออกมา
เมื่อถามว่าขณะนี้รัฐบาลยังเหนียวแน่นเหมือนเดิมใช่หรือไม่ แพทองธาร กล่าวว่า เหมือนเดิมไม่มีอะไร
เมื่อถามว่าสถานการณ์ตอนนี้ที่ผู้นำทางจิตวิญญาณสองคน คือ ‘ทักษิณ ชินวัตร’ อดีตนายกฯและ ‘เนวิน ชิดชอบ’ ครูใหญ่ภูมิใจไทยกำลังสู้รบกันอยู่ เกินมือนายกฯ ที่จะจัดการปัญหาแล้วหรือไม่ แพทองธาร หัวเราะก่อนตอบว่า สื่อชอบโยง โยงนั้นโยงนี้ โยงจนบางทีงงว่าบางเรื่องมันเกี่ยวข้องกันจริงๆ หรือไม่ แต่ไม่มีอะไรทั้งสองท่านคิดว่าคุยกันนอกรอบได้อยู่แล้ว แต่เรื่องปัญหาของรัฐบาลเรามีหน้าที่รักษาเสถียรภาพอยู่แล้ว ถามว่าเกินมือหรือไม่ที่ตัวดิฉันเองจะเข้าไปเกี่ยวข้อง จะเกินมือได้อย่างไรในเมื่อดิฉันเป็นนายกฯอยู่