วิบากกรรมของ ‘ศักดิ์สยาม ชิดชอบ’ อดีต สส.บัญชีรายชื่อ และเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย จากปมซุกหุ้น ‘ห้างหุ้นส่วนจำกัด บุรีเจริญคอนสตัคชั่น’ ยังไม่จบ เพราะหลังศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าซุกหุ้นจริงไปแล้ว เรื่องนี้ก็ถูกฟันซ้ำทั้งจากนักร้องเรียน และ ‘พรรคก้าวไกล’ ที่เคยยื่นเรื่องให้ ป.ป.ช. ตรวจสอบเรื่องการยื่นบัญชีทรัพย์สินอันเป็นเท็จไปตั้งแต่ช่วงอภิปรายไม่ไว้วางใจ เมื่อช่วงปี 66
ล่าสุดวันนี้ (18 ม.ค.) มีความเห็นจาก ‘ปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล’ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะผู้ยื่นเรื่องร้องเรียนให้ศาลรัฐธรรมนูญตรวจสอบคุณสมบัติความเป็นรัฐมนตรีของ ‘ศักดิ์สยาม ชิดชอบ’ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ระบุว่า ช่วงปี 65 พรรคฝ่ายค้านขณะนั้นได้ยื่นเรื่องให้สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ตรวจสอบ กรณียื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินอันเป็นเท็จต่อ ป.ป.ช. กรณีถือครองหุ้นและเป็นเจ้าของ ‘ห้างหุ้นส่วนจำกัด บุรีเจริญคอนสตัคชั่น’ ขณะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม แต่ตอนนี้เรื่องยังค้างอยู่ จึงอยากให้ ป.ป.ช. เร่งไต่สวนเรื่องนี้
ส่วนพรรคก้าวไกลจะยื่นยุบพรรคภูมิใจไทยด้วยหรือไม่นั้น ‘ปกรณ์วุฒิ’ ยืนยันว่าพรรคก้าวไกลไม่มีนโยบายยุบพรรคใคร เพราะมองว่าไม่ควรมีองค์ใดมาตัดสินประหารชีวิตของบุคคลหรือพรรคการเมือง หรือการตัดสินชีวิตทางการเมืองของใคร สิ่งเหล่านี้ควรให้ประชาชนที่เป็นผู้เลือกตั้งเป็นผู้ตัดสินเอง
ด้าน ‘ชัยธวัช ตุลาธน’ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ย้ำว่าแม้เราทำงานตรวจสอบภายใต้หลักการที่ถูกต้อง แต่เรื่องการยื่นยุบพรรคไม่ใช่นโยบายของพรรคก้าวไกลเด็ดขาด และเรื่องนี้นอกจากเรื่องบัญชีทรัพย์สินที่เป็นเท็จ ยังมีเรื่องที่นำบริษัทของตัวเองมาเป็นคู่สัญญากับรัฐ ซึ่งยังเป็นประเด็นต่อเนื่องไม่ใช่เป็นประเด็นเรื่องการยุบพรรคอย่างเดียว
เมื่อถามว่าเป็นเพราะพรรคก้าวไกลกังวลเรื่องคดียุบพรรคของตัวเอง ที่ศาลรัฐธรรมนูญจะมีการนัดฟังคำวินิจฉัยในคดีล้มล้างการปกครอง จากการเสนอร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.)แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญาเพื่อยกเลิกประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 โดยใช้เป็นนโยบายในการหาเสียงเลือกตั้ง ในวันที่ 31ม.ค.นี้ จึงไม่ยื่นยุบพรรคภูมิใจไทยหรือไม่ ‘ชัยธวัช’ ยืนยันว่า ไม่เกี่ยวกันแน่นอน เพราะคดีที่ศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยในวันที่ 31 ม.ค.นี้ ไม่ได้เป็นคำร้องเพื่อให้ยุบพรรคก้าวไกล แต่เป็นคำร้องเพื่อให้ยุติการกระทำ ดังนั้นในวันที่ 31 ม.ค.จึงไม่มีเรื่องการยุบพรรคเข้ามาเกี่ยวข้อง
เมื่อถามย้ำว่ายังมั่นใจว่าการตัดสินในวันที่ 31 ม.ค.นี้ ไม่ส่งผลถึงการยุบพรรค ‘หัวหน้าพรรคก้าวไกล’ มองว่า ไม่ส่งผล และคิดว่าพรรคก้าวไกลต่อสู้คดีมาเต็มที่ ยืนอยู่บนข้อเท็จจริง ข้อกฎหมาย ไม่ได้กังวล พร้อมรอฟังคำวินิจฉัยด้วยตัวเองทั้งในวันที่ 24 ม.ค. ที่เป็นคดีของ ‘พิธา ลิ้มเจริญรัตน์’ ประธานที่ปรึกษาพรรคก้าวไกล และวันที่ 31 ม.ค. หากไม่ติดโหวตวาระสำคัญในการประชุมสภาฯ ก็จะไปร่วมฟังด้วย
