ไพบูลย์ นิติตะวัน เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ เป็นประธานการประชุมร่วมกรรมการบริหารพรรค และ สส. พรรคพลังประชารัฐ เพื่อมีมติ 3 ใน 4 ของที่ประชุมขับ 20 สส. ที่อยู่ในสังกัด ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า หลังที่ประชุมกรรมการบริหาร มีมติให้ขับออกเมื่อวานนี้ (11 ธ.ค. 67)
ไพบูลย์ กล่าวว่า วันนี้ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม แทน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่ป่วยอยู่ โดยไพบูลย์ ระบุว่า พล.อ.ประวิตรป่วยมา 2-3 วันแล้ว คาดว่า อีก 2-3 วัน อาการป่วยจะหาย
ทั้งนี้ ไผ่ ลิกค์ กล่าวสั้นๆ ก่อนเข้าร่วมประชุมว่า ที่ผ่านมาคุยกันมาตลอด ยืนยันไม่ได้มีอะไร และ ไม่เกี่ยวกับเรื่องคดีไร่ภูนับดาว
จากนั้น ไพบูลย์ เปิดเผยว่า การประชุมร่วมฯ มีการพิจารณาและลงมติไปตามขั้นตอน เพื่อให้สมาชิกภาพของสส.20 คนสิ้นสุดลง ซึ่งได้ลงมติเป็นรายบุคคล และผู้ที่ถูกเสนอชื่องดออกเสียง ไม่ได้ลงคะแนนให้กับตัวเอง มีผลให้ 20 สส. พ้นจากการเป็นสมาชิกพรรคแล้วในวันนี้ แต่กระบวนการจะต้องเสนอเรื่องไปยังกกต.ก่อน ทำให้สมาชิกที่พ้นจากสมาชิกพรรคไปแล้ว ยังไม่ต้องรีบไปสมัครเป็นสมาชิกพรรคอื่น เพราะอาจจะมีปัญหาที่คาดไม่ถึง ดังนั้นเพื่อความรอบคอบจะดำเนินการและตรวจให้เสร็จก่อนจะยื่นไปยังกกต.
ไพบูลย์ เปิดเผยอีกว่า บรรยากาศการประชุมในวันนี้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย พล.อ.ประวิตร ได้กำชับว่า ให้ดูแลทุกอย่างให้เป็นไปตามข้อบังคับพรรค ทุกอย่างได้พิจารณาอย่างครบถ้วนแล้ว จึงปิดประชุม ยืนยันว่า ในส่วนของพรรคพลังประชารัฐ มีความมั่นคงแข็งแรง มีการประชุมร่วมกันทุกสัปดาห์ จะทำหน้าที่ในฐานะฝ่ายค้านตรวจสอบรัฐบาล และดูแลความเดือดร้อนของประชาชน นอกจากนี้ จะเตรียมหาผู้แทนในการลงสมัครรับเลือกตั้งทั่วไปครั้งต่อไป ซึ่งหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ มั่นใจว่า จะได้ที่นั่งเพิ่มขึ้นกว่าเดิม และพร้อมที่จะทำหน้าที่เป็นหัวหน้าพรรค เป็นผู้นำในการเลือกตั้งที่จะเข้าสู่สนามเลือกตั้งครั้งต่อไปด้วย ดังนั้นข่าวลือที่ว่า พล.อ.ประวิตรเตรียมจะพักและรีเซ็ตพรรคใหม่ เพื่อให้คนอื่นมาทำงาน ไม่เป็นความจริงโดยสิ้นเชิง เพราะพล.อ.ประวิตรได้บอกหลายครั้งว่า จะทำหน้าที่หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐไปตลอด ดังนั้นข่าวที่ลือกันออกมาไม่จริง ซึ่งพรรคพลังประชารัฐเป็นพรรคที่พล.อ.ประวิตร เป็นผู้ดูแลสส.ด้วยตัวเอง รวมถึงเป็นผู้คัดเลือกผู้สมัครสส. พร้อมกับรองหัวหน้าพรรคที่รับผิดชอบด้วยตัวเอง
ขณะที่ อรรถกร ศิริลัทธยากร สส.ฉะเชิงเทรา พร้อมด้วย ไผ่ เปิดเผยว่า ในที่ประชุมบรรยากาศเป็นไปด้วยดี เหตุผลที่ถูกขับออกจากการเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ เป็นไปตามข้อบังคับ 54 (5) มีเหตุการณ์อื่นๆ ที่ร้ายแรง ซึ่งหมายความว่า อุดมการณ์ 20 คน ไม่ตรงกับสมาชิกพรรคพลังประชารัฐคนอื่นๆ ไม่ได้มีเรื่องผิดจริยธรรม หรือผิดวินัยร้ายแรงใดๆ
ส่วนอนาคตจะไปสังกัดพรรคไหนต่อไป อรรถกร กล่าวว่า พึ่งถูกขับออกเมื่อสักครู่นี้ จะต้องใช้เวลา ทั้ง 20 คน ก็คงต้องจับเข่าคุยกันว่า จะเลือกเดินทางไหน แต่เชื่อว่า 20 เสียงจะต้องเป็นประโยชน์ต่อการขับเคลื่อนประเทศ และเป็นกำลังให้กับรัฐบาลชุดนี้ที่นำโดยแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ส่วนขั้นตอนหลังจากนี้ คณะกรรมการการเลือกตั้งจะให้เวลา 30 วันในการสังกัดพรรคใหม่
สำหรับวันนี้ที่ ร.อ.ธรรมนัส ไม่มา ได้ฝากอะไรในที่ประชุมหรือไม่ อรรถกร กล่าวว่า เดินไปไหนไปด้วยกัน ยึดถือการขับเคลื่อนประเทศ สร้างปัญหาให้กับประชาชนให้น้อยที่สุด
ส่วนจะสามารถเปิดตัวพรรคใหม่ได้ภายในเดือนนี้หรือต้องรอปีหน้านั้น อรรถกร กล่าวว่า ยังไม่ทราบเลย
“พวกผมไม่ได้เกี่ยวข้องกับพรรคกล้าธรรม แต่ทราบมาว่า นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ หัวหน้าพรรคกล้าธรรม ท่านก็มีความพร้อม ขณะนี้ท่านก็มีสมาชิกเยอะ และมีสส.สังกัดพรรคกล้าธรรมแล้ว 4 คน แต่หลังจากนี้ก็คงจะต้องคุยกัน” อรรถกร กล่าว
เมื่อถามว่าการทำงานของพรรคกล้าธรรมตรงกับอุดมการณ์ของกลุ่มหรือไม่ อรรถกร กล่าวว่ายังไม่ได้ทำงานร่วมกันมาก แต่เกือบทุกคนก็รู้จักกับนฤมลอยู่แล้ว ตั้งแต่เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงแรงงาน ที่สังกัดพรรคพลังประชารัฐมาด้วยกัน นอกจากนี้ ในที่ประชุม ไผ่ ได้กล่าวว่า ความรู้สึกของทั้ง 20 คน ยังเคารพ และเป็นห่วง พล.อ.ประวิตรอยู่ จากหลายปัจจัยที่ควบคุมไม่ได้ มันเกิดลากยาวมาถึงทุกวันนี้ พร้อมย้ำว่า 20 คน ยังคารพ ติดตาม เป็นห่วงท่านอยู่
ทั้งนี้ จากสภาพการปัจจุบันของพรรคประชารัฐอยากให้พล.อ.ประวิตร ยุติบทบาททางการเมืองหรือไปต่อ อรรถกร บอกว่า ตอบแทนไม่ได้ วันนี้มีมติขับออกจากพรรคแล้ว ส่วนเขาจะดำเนินการพรรคอย่างไรต่อไป เป็นเรื่องของกรรมการบริหารพรรค ภาวนาให้พรรคเดินต่อไปด้วยความเข้มแข็ง ยึดมั่นในประชาชนเป็นหลัก
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า จะเข้าไปกราบลา พล.อ.ประวิตรหรือไม่ อรรถกร กล่าวว่า เดี๋ยวนัดดู เมื่อถามย้ำว่า ในช่วงปีใหม่ถือเป็นโอกาสดีที่จะไปสวัสดีปีใหม่หรือไม่ อรรถกร ไม่ตอบ ก่อนจะโบ้ยว่า ให้ไปถามไพบูลย์
