วันนี้ (22 มี.ค.) ที่รัฐสภา พรรณิการ์ วานิช แกนนำคณะก้าวหน้า เปิดเผยถึงการติดตามการเตรียมความพร้อมสำหรับการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีของพรรคประชาชนว่า ที่หลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตว่าการอภิปรายมุ่งเน้นไปที่ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ขอถามกลับว่า รู้ได้อย่างไร ตอนนี้อยากบอกว่าอย่าตีตนไปก่อนไข้ ของจริงอาจหนักกว่าเดิม
และส่วนตัวเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่า เรื่องที่เด็ดจริงๆ จะเกี่ยวข้องกับ แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โดยเป็นการวิเคราะห์จากการให้สัมภาษณ์ของ ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ผู้นำฝ่ายค้าน และ ศิริกัญญา ตันสกุล ที่ให้สัมภาษณ์ไว้ว่าหลายเรื่องในการอภิปรายนายกรัฐมนตรีต้องเป็นผู้ตอบด้วยตนเอง เพราะเป็นเรื่องเฉพาะตัวนายกฯ เมื่อถามย้ำว่า เรื่องทักษิณเป็นการสับขาหลอกของฝ่ายค้านใช่หรือไม่ พรรณิการ์ ตอบว่า ถูกต้อง
พรรณิการ์ ยังเปิดเผยว่า จากการติดตามการซักซ้อมของพรรคประชาชน ทราบว่าเนื้อหาในวันแรกจะเป็นการอภิปรายด้านนโยบาย ส่วน วันที่สองจะเป็นเรื่องทีเด็ดทีขาด ที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับตัวนายกรัฐมนตรี ส่วนการวางตัวของผู้อภิปรายตอนนี้ยังอยู่ในช่วงการจัดลำดับ แต่คาดว่าคงไม่ให้ตัวเด่นไปอยู่ในช่วงเวลาดึก เหมือนกับที่เป็นกระแสข่าวก่อนหน้านี้
ส่วนวาทะหลักในการอภิปรายที่มีโปสเตอร์ระบุว่าดีลแลกประเทศ พรรณิการ์ มองว่าวาทกรรมเหล่านั้นจะไม่ติดตลาด หากไม่สอดคล้องกับข้อเท็จจริงหรือสิ่งที่ประชาชนรู้สึก ดีลแลกประเทศที่เข้าใจคือการที่ทักษิณได้กลับไทย โดยไม่ติดคุกแม้เแต่วันเดียว ถึงขั้นที่นายกรัฐมนตรีก็ยอมรัจากการถามผู้สื่อข่าวกลับว่าดีล คือแค่เรื่องคุณพ่อกลับบ้านเรื่องเดียวหรอ
ส่วนระยะเวลาการอภิปราย ที่ยาวไปจนถึงเกือบรุ่งเช้าของอีกวัน พรรณิการ์ ระบุว่า ต้นตอเกิดจากประธานวิปฝ่ายค้านที่ยืนยันว่าต้องเจรจาภายในกรอบเวลา 2 วัน พรรคประชาชนจึงต้องนำเรื่องการอภิปรายกว่า 20 เรื่อง อัดไว้ในระยะเวลาเพียงเท่านี้ ไม่ใช่การเสียรู้เรื่องเวลา และ อยากตั้งคำถามกลับว่าหากรัฐบาลบริสุทธิ์ใจ เหตุใดจึงกำหนด 2 วัน ไม่ให้เวลาอย่างเต็มที่
ส่วนมองอย่างไรที่มีการตั้งองครักษ์พิทักษ์ข้อบังคับ พรรณิการ์ มองว่า เป็นสิ่งที่รัฐบาลมีความกังวลในการอธิบายครั้งนี้ แต่อยากบอกว่า ถ้าอยากพิทักษ์นายกฯ ก็พูดไปเลย ไม่ต้องเหนียม เพราะปกติแล้วหน้าที่ดังกล่าวเป็นของประธานสภาฯ ที่ต้องควบคุม ถ้าอยากพิทักษ์ข้อบังคับก็คงต้องไล่ประธานสภาฯ ลงจากบัลลังก์