ปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยถึงภารกิจช่วยเหลือตัวประกันไทย ที่ถูกกลุ่มฮามาส จับตัวไปว่า มีภารกิจต้องเดินทางเช้าวันนี้ ตามคำสั่งนายกรัฐมนตรี โดยจะเดินทางเยือนรัฐกาตาร์ และสาธารณรัฐอาหรับอียิปต์ ระหว่างวันที่ 31 ตุลาคม - 2 พฤศจิกายน 2566 เพื่อพบผู้นำรัฐบาลและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของทั้งสองประเทศ และหารือเกี่ยวกับการให้ความช่วยเหลือคนไทยที่ถูกจับเป็นตัวประกันจากสถานการณ์สู้รบในอิสราเอล และแลกเปลี่ยนมุมมองเกี่ยวกับสถานการณ์และพัฒนาการในภูมิภาค หารือถึงการส่งเสริมความสัมพันธ์ทวิภาคี รวมถึงประเด็นอื่นๆ ที่อยู่ในความสนใจร่วมกัน
โดยมีกำหนดพบหารือกับนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศกาตาร์ ในวันที่ 31 ตุลาคม 2566 ที่กรุงโดฮา และพบกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสาธารณรัฐอาหรับอียิปต์ในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2566 ที่กรุงไคโร
ซึ่งที่ผ่านมา ได้มีการโทรศัพท์หารือและชี้แจงไปหลายครั้งแล้ว ไม่ว่าจะผ่านสื่อหรือผ่านการพูดคุยทางโทรศัพท์ รวมถึงผู้ที่ได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่ประสานงานว่า อยากให้มีการปล่อยตัวคนไทยโดยเร็ว เพราะเป็นผู้ที่เข้าไปทำมาหากิน และไม่ได้มีความขัดแย้งกับผู้ใด
ความตั้งใจของไทย คืออยากให้มีการปล่อยตัวประกันโดยเร็วที่สุด อย่างไรก็ดี ขณะนี้ไม่มีใครทราบว่าตัวประกันทั้งหมดอยู่ที่บริเวณไหน อยู่ในประเทศใด และอยู่ในหรือนอกฉนวนกาซาหรือไม่ แต่ในส่วนของรัฐบาลไทย เราเปิดการเจรจาทุกช่องทางที่มีอยู่ที่จะสามารถประสานกับฮามาสได้ เพื่อขอให้เขาทำการปล่อยตัวประกันโดยเร็วที่สุด
ส่วนภายหลังจากที่กระทรวงการต่างประเทศ ได้ประกาศแจ้งให้คนไทยรีบเดินทางกลับบ้านโดยเร็วที่สุด มีผู้มาลงทะเบียนเพิ่มขึ้นบ้างหรือไม่นั้น ปานปรีย์ ชี้แจงว่า เราได้ขอร้อง เพราะอยากให้ทุกคนปลอดภัยมากที่สุด ท่านนายกรัฐมนตรีก็ได้ออกแถลงการณ์ไปแล้ว เพราะไม่มีใครทราบว่าสถานการณ์ทั้งในอิสราเอลและกาซา จะรุนแรงมากขึ้นขนาดไหน จึงไม่อยากให้คนไทยได้รับผลกระทบ ได้รับบาดเจ็บ หรือเสียชีวิต จึงอยากจะขอย้ำอีกครั้งหนึ่งว่า ขอให้คนไทยกลับประเทศโดยเร็วที่สุด
ทั้งนี้ ปานปรีย์ กล่าวอีกว่า ได้รายงานนายกรัฐมนตรีแล้วว่า ต้องลา ครม.ด่วน เพราะการช่วยเหลือประชาชนเป็นภารกิจเร่งด่วนที่ต้องทำ