การประชุม สส.อดีตพรรคก้าวไกล ซึ่งย้ายไปสังกัดพรรคถิ่นกาขาวชาววิไล มีมติเปลี่ยนชื่อเป็นพรรคประชาชน โดย ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ได้รับการเสนอชื่อเป็นหัวหน้าพรรค และ ศรายุทธ ใจหลัก อดีตผู้อำนวยการพรรคก้าวไกล และ 1 ใน 2 เพื่อนซี้ของ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ได้รับการเสนอชื่อเป็นเลขาธิการพรรค
หลังเสร็จสิ้นการประชุม ณัฐพงษ์ พร้อมด้วย ศรายุทธ , ศิริกัญญา ตันสกุล และ พริษฐ์ วัชรสินธุ ร่วมแถลงข่าว โดย พริษฐ์ ระบุว่า ไม่ถึง 48 ชั่วโมง หลังจากที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยยุบพรรค ขอประกาศอย่างเป็นทางการว่า พวกเราฟื้นคืนชีพกลับมาแล้วในนามพรรคประชาชน วันนี้ อดีต สส.พรรคก้าวไกลทั้งหมด 143 คน ที่ไม่ได้ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง และ สก.11 คนจากพรรคก้าวไกล รวมถึงแนวร่วมเครือข่ายทั่วประเทศ มาประชุมกันเพื่อตกลงร่วมกัน จะเดินหน้าต่อ ขับเคลื่อนและผลักดันการเปลี่ยรแปลงประเทศนี้ในนามของพรรคประชาชน
ส่วนเหตุผลใช้เลือกชื่อพรรคประชาชนนั้นเรียบง่าย เพราะต้องการเป็นพรรคการเมืองโดยประชาชน เพื่อประชาชน และเดินหน้าสู่การสร้างประเทศไทยที่อำนาจสูงสุดเป็นของประชาชน เชื่อว่า ระบอบประชาธิปไตย คุณค่าสูงสุดอยู่ที่ประชาชน
สัญลักษณ์ของพรรคที่มีชื่อภาษาอังกฤษ ‘PEOPLE'S PARTY’ จะเป็นสัญลักษณ์สามเหลี่ยมมุมกลับ ต่อยอดมาจากแนวคิดของพรรคอนาคตใหม่ และพรรคก้าวไกล วันนี้ที่ประชุมมีมติแต่งตั้ง คณะกรรมการบริหารพรรค 5 คน คือ
- ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ เป็นหัวหน้าพรรค
- ศรายุทธ ใจหลัก เป็นเลขาธิการพรรค
- ชุติมา คชพันธ์ เป็นเหรัญญิก
- ณัฐวุฒิ บัวประทุม อดีตรองหัวหน้าพรรคก้าวไกล เป็นกรรมการที่จะมาดูแลทะเบียนพรรค
- พิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ เป็นกรรมการบริหารพรรค
โดยมีภารกิจมุ่งมั่นเชิญชวนประชาชน และอดีตสมาชิกก้าวไกล 100,000 กว่าคน ส่วนหนึ่งในการเปลี่ยนแปลงการเมืองไทยบทถัดไป สามารถสมัครสมาชิกผ่านเว็บไซต์ ที่ตั้งเป้าหมายให้ทะลุ 100,000 คน และการร่วมบริจาคให้กับพรรคอีกช่องทางหนึ่ง ซึ่งตั้งเป้าหมายให้ทะลุ 10 ล้านบาทโดยเร็วที่สุด
ขณะที่ ณัฐพงษ์ กล่าวว่า ภารกิจจากนี้ คือสร้างรัฐบาลแห่งการเปลี่ยนแปลงในการเลือกตั้งปี 2570 ซึ่งจำเป็นที่จะต้องชนะการเลือกตั้งครั้งหน้า และต้องตั้งเป้าหมายให้สูงยิ่งขึ้น นอกจากการเป็นพรรคอันดับหนึ่ง ในปี 2566 เป้าหมายขั้นต่ำอยากจะชนะการเลือกตั้งโดยสามารถเป็นรัฐบาลพรรคเดียวได้ นั่นคือเป้าหมายสูงสุดของพวกเรา
ด้าน ศรายุทธ ยืนยันว่า การเปลี่ยนแปลงต้องใช้เวลา ซึ่งตระหนักเรื่องนี้ดี ตั้งแต่สร้างพรรคอนาคตใหม่ จำเป็นต้องมีคนจำนวนมาก ต้องสร้างพรรคให้เป็นสถาบัน คาดหวังว่า ในอนาคตอันใกล้เราจะเพิ่มโครงสร้างการเมืองท้องถิ่น และคาดหวังที่สมาชิกพรรคจะไปเป็นรัฐบาล ทำหน้าที่บริหารประเทศ และถ้าทำสำเร็จ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จังหวะที่ว่าที่เลขาธิการพรรคประชาชนกำลังกล่าวถึงความพยายามเพิ่มโครงสร้างให้ไปสู่รัฐบาล ได้หยุดพูด พร้อมกับกล่าวต่อด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า “เราจะมั่นใจว่า จะมีพรรคที่ต้องการทำงานเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงในอนาคต แม้ว่าเราจะไม่ได้อยู่ที่นั่นแล้วก็ตาม ขอบคุณครับ”
ขณะที่ ศิริกัญญา ระบุว่า ข่าวที่ผ่านมาเราได้ยินข่าวว่า แคนดิเดตหัวหน้าพรรคคนใหม่มีใครบ้าง คาดเดากันไปต่างๆ นานา ส่วนตัวไม่มีความประสงค์ที่จะเป็นหัวหน้าพรรคตั้งแต่ต้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างการแถลงข่าว เกิดการขัดข้องของไมโครโฟน ในจังหวะที่ทุกคนแถลงข่าว จนกระทั่ง ศิริกัญญา กล่าวว่า “แม้เราจะเปลี่ยนจากพรรคก้าวไกลไปแล้วก็ยังมีปัญหาเรื่องไมโครโฟนอยู่”
ศิริกัญญา กล่าวว่า เมื่อวานนี้ ตอนกลางคืน เราได้เริ่มต้นกระบวนการภายในในส่วนของ สส.อดีตพรรคก้าวไกล ซึ่งได้มีการหยั่งเสียงผู้รับรองว่าที่หัวหน้าพรรคคนใหม่ ก่อนที่จะเข้าสู่การกระบวนการของที่ประชุมใหญ่ในวันนี้ ซึ่งเมื่อวานนี้ในการเสนอชื่อมีการเสนอชื่อณัฐพงษ์ เพียงคนเดียว
ย้ำว่า ไม่ได้มีความประสงค์ที่จะลงแข่งขันตำแหน่งหัวหน้าพรรคตั้งแต่ต้น และก็เป็นคนเสนอชื่อ ณัฐพงษ์ด้วยความมั่นใจ และมั่นใจว่า ณัฐพงษ์มีคุณสมบัติที่จะเป็นหัวหน้าพรรคใหม่ที่จะสู้เลือกตั้งในปี 2570 ด้วยความที่ณัฐพงษ์เป็นคนที่ครบเครื่อง ตั้งแต่เป็นสส.เขตและสส.บัญชีรายชื่อ และบริหารงานเบื้องหลังของพรรคในสายเทคโนโลยี และเป็นคนทำระบบต่างๆ มีส่วนร่วมในการบริหารพรรคโดย ทำให้เพื่อนสมาชิกมั่นใจให้เสียงสนับสนุนในการรับรองณัฐพงษ์เมื่อคืนที่ผ่านมา จึงขอโอกาสนี้ในการแก้ข่าวว่า ไม่ได้ต้องการที่จะเป็นหัวหน้าพรรคประชาชน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างการแถลงข่าว ปดิพัทธ์ สันติภาดา อดีตรองประธานสภาฯ คนที่หนึ่ง และ อดีต สส.พิษณุโลก พรรคเป็นธรรม เดินทางมาให้กำลังใจ พร้อมกับบุตรสาวทั้ง 2 คน พร้อมยืนยันว่าวันนี้ไม่ได้มาสมัครสมาชิกพรรค แค่มาสังเกตการณ์
จากนั้น แกนนำพรรคประชาชน ตอบคำถามสื่อมวลชนภายหลังการแถลงข่าวเปิดตัวพรรค โดยใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมง ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนทั้งไทยและต่างชาติ โดย ณัฐพงษ์ระบุ ยึดมั่นอุดมการณ์เดิม เดินหน้าลุยแก้ ม.112 ต่อ เหตุศาลรัฐธรรมนูญไม่ห้าม ไม่ประมาท ต้องศึกษาข้อกฎหมายให้ดี เหตุปัจจุบันกฎหมายนี้ยังมีปัญหา ยืนยันว่า ที่ผ่านมามีหลายนโยบาย ไม่ได้พุ่งเป้าไปที่สถาบันใด ไม่หวั่นว่า พรรคใหม่อายุสั้น แต่จะทำงานอย่างไม่ประมาท
ยอมรับว่าธนาธรให้กำลังใจ ส่วนตัวพร้อมทำงานหนัก และจะพัฒนาตัวเองให้พร้อมนั่งแคนดิเดต ‘นายกฯ’ ซึ่งถ้าไม่ได้ตั้งรัฐบาลพรรคเดียว ก็พร้อมจับมือพรรคอื่นได้ แต่ต้องไม่ขัดอุดมการณ์
ด้าน ศรายุทธ ยอมรับว่า เป็นเพื่อนรักของ ธนาธร‘มากว่า 20 ปี เป็นความสัมพันธ์ที่ตัดไม่ขาด แต่แยกแยะได้ โดยคุยกันตลอดในฐานะมิตรสหาย ทั้งรับฟังบ้างและเสนอความเห็นบ้าง แต่อำนาจการตัดสินใจอยู่ที่ กก.บห.
